หลังจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 (Covid-19) หลายคนกลับมาประจำการที่โต๊ะตัวเก่ง Work From Home ที่บ้านอีกครั้ง บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่กลับมาได้รับความนิยมตามไปด้วย พร้อมคำที่หลายคนยังจำได้แม่นอย่าง “Social Distancing”

ครั้งนี้ฟู้ดเดลิเวอรี่หลายเจ้าปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการประกาศมาตรการรับมือในการส่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าจะได้อิ่มแบบปลอดภัย ไม่เสี่ยงโควิด-19

★ LINE MAN ★

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก FB : LINE MAN

LINE MAN รับมือโควิด-19 รอบใหม่ได้อย่างทันท่วงที โดยประกาศมาตรการสั่งอาหารสำหรับลูกค้า คนขับและร้านอาหารผ่านเพจ Facebook พร้อมแฮชแทก #LINEMANStaysWithU

สำหรับผู้รับอาหาร ให้รอรับโทรศัทพ์จากผู้ส่งและรอรับอาหารจากจุดวางอาหาร ลดการสัมผัสด้วยช่องทางชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เดบิต และ Rabbit LINE Pay หากมีการชำระด้วยเงินสด แนะนำให้เตรียมเงินให้พอดี อย่าลืมรักษาระยะห่าง

สำหรับพนักงานส่งอาหาร ให้มีการสวมถุงมือ สวมหน้ากาก และตรวจเช็คสุขภาพทุกวัน นัดสถานที่จัดส่งกับลูกค้าและรักษาระยะห่างให้เหมาะสมระหว่างการตรวจสอบเงินและตรวจสอบอาหาร

สำหรับร้านอาหาร ให้ตรวจเช็กสุขภาพของพนักงาน สวมหน้ากากและถุงมือ ทำความสะอาดอุปกรณ์ครัวทุกวัน บรรจุอาหารอย่างรัดกุม มีจุดให้พนักงานรับส่งของได้ล้างมือหรือมีเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงมีจุดรับอาหารที่ไม่แออัดและเลี่ยงการสัมผัส
 

★ Gojek Thailand ★

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก FB :Gojek Thailand

Gojek ก็มาพร้อมแฮชแทก #GoStronger สั่งอาหารแบบปลอดภัย ไร้สัมผัส โดยสื่อสารผ่านอินโฟกราฟฟิกเข้าใจง่าย สำหรับลูกค้าให้ระบุจุดส่งอาหารในโน้ตหรือช่องทางการแชทกับพาร์ทเนอร์คนขับก่อน เตรียมค่าอาหารให้พอดี หรือเลือกจ่ายด้วย GoPay ในแอปพลิเคชั่น เว้นระยะห่าง 2 เมตร และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง

ส่วนพาร์ทเนอร์คนขับ ให้ถามจุดวางอาหารกับลูกค้าให้ชัดเจน ส่งห่างๆ อย่างปลอดภัย โดยรักษาระยะห่าง2 เมตร ใช้ Online Payment เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสด และหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ปิดท้ายที่ร้านอาหาร นอกจากเรื่องการเว้นระยะห่างแล้ว ยังแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชั่น GoBiz ในการรับออเดอร์เพื่อเลี่ยงการสัมผัส มีการเตรียมจุดรับอาหาร ตรวจวัดอุณหภูมิคนขับก่อนเข้าร้าน และเลือกรับเงินทาง Online Payment
 

★ Grab ★

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก FB : GrabFood

แกร็บมาไว ยกระดับความปลอดภัยแบบเข้มข้น ผ่านโครงการ ‘แกร็บแคร์ 2.0 #เราจะผ่านมันไปด้วยกัน’ กับมาตรการทั้ง 9 ข้อที่ประกาศอย่างจริงจังคือ

1. 1.ตอกย้ำความปลอดภัยด้วยมาตรการจัดส่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Delivery) โดยให้พาร์ทเนอร์เว้นระยะห่างกับลูกค้าอย่างน้อย 2 เมตร รับอาหารที่หน้าประตูหรือล็อบบี้ และเน้นการชำระเงินแบบผ่านบัตรเครดิตหรือ GrabPay / GrabPay Wallet แทนเงินสดลดความเสี่ยง
2. ยกระดับสุขอนามัยด้วยสัญลักษณ์ “อาหารสะอาด รสชาติอร่อย” (Clean Food Good Taste) แนะนำร้านที่ได้รับป้ายนี้ เน้นย้ำกับร้านอาหารด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการปรุง
3. จับมือพันธมิตรภาคเอกชนแจกอุปกรณ์เพื่อสุขอนามัยให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า  เจลล้างมือ และสเปรย์แอลกอฮอล์
4. เพิ่มความคุ้มครองผ่านประกันชีวิตและสุขภาพให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับ
5. สนับสนุนร้านค้าคนไทย เพิ่มช่องทางให้ร้านอาหารขนาดเล็กและผู้ประกอบการรายย่อยผ่านการโฆษณาบนแบนเนอร์ (Banner Ads) บนแอปพลิเคชันแกร็บ การสร้างไอคอน Support Local Restaurant บนแกร็บฟู้ด
6. เร่งขั้นตอนการรับสมัครพาร์ทเนอร์ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อเหลือเพียง 3-5วัน (จากเดิม 7-10วัน) โดยให้สมัครผ่านเว็บไซต์ http://www.grabmerchantth.com เพื่อความรวดเร็ว
7. ให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บคาร์และแกร็บแท็กซี่ 47,000 รายรับงานจัดส่วอาหารผ่านรถยนต์แทนบริการการเดินทางได้เพื่อเป็นการปลดล็อคการสร้างรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ
8. เพิ่มช่องทางในการขายสินค้าเกี่ยวกับสุขอนามัย เช่น หน้ากากอนามัน สเปรย์แอลกอฮอล์ เจลล้างมือฯลฯ
9. เพิ่มทักษะการประกอบอาชีพที่จำเป็นแก่ผู้ประกอบการายย่อยและพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-คนขับ ผ่านโครงการ GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปรฯ โดยร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และพันธมิตรด้านการเรียนรู้ Klasssi powered by KBank
    

★ Robinhood Delivery ★

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก FB : Robinhood Delivery

ในขณะที่ Robinhood #แอปเพื่อคนตัวเล็ก แม้จะเป็นแอปพลิเคชั่นน้องใหม่ แต่ก็รับมือสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการประกาศคำแนะนำผ่าน Facebook ให้แก่ลูกค้า ร้านค้า และคนขับ เพื่อให้การสั่งและส่งอาหารปลอดภัย

สำหรับลูกค้า ให้ระบุจุดรับอาหารให้ชัดเจน เพิ่มรายละเอียดที่อยู่และปักหมุดให้ถูกต้อง จ่ายค่าอาหารผ่านช่องทางดิจิทัลด้วยแอป SCB Easy และบัตรเดบิต บัตรเครดิต และบัตรเติมเงินของธนาคารต่างๆ มีการเว้นระยะห่าง รวมถึงย้ำให้ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนจะเพลิดเพลินไปกับมื้ออร่อย

สำหรับร้านค้า นอกเหนือจากการรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1.5-2 เมตรแล้ว ยังแนะนำให้เตรียมจุดรับอาหาร และตรวจวัดอุณหภูมิพี่คนจับก่อนเข้าร้าน (ไม่ควรเกิน 37.5 องศาเซลเซียส) ปิดท้ายที่สำหรับพี่คนขับ ให้นัดแนะจุดวางอาหารกับลูกค้า ส่งห่างๆ อย่างห่วงๆ ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ รวมถึงหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์เก็บอาหารอยู่เสมอ
 

★ HappyFresh ★

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก FB : HappyFresh

มาถึงแอปพลิเคชั่นขวัญใจคนชอบช้อป แต่ไม่อยากออกจากบ้านอย่าง HappyFresh นอกจากจะเชิญชวนให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการชำระเงินสด แล้วเปลี่ยนเป็นการจ่ายผ่านบัตรเครดิต , True Money หรือโอนผ่าน QR code เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสแล้ว ยังสามารถเลือกการส่งแบบ Contactless Delivery หรือการส่งแบบไร้สัมผัสได้ง่ายๆ เพียงแค่พิมพ์ข้อความถึงพนักงาน โดยระบุบริเวณบ้านที่ต้องการให้จัดส่ง ไม่ว่าจะเป็นรั้วบ้าน ประตูบ้าน หรือล็อบบี้คอนโด ส่วนพนักงานเองต้องมีการล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังส่งสินค้า สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำความสะอาดกล่องและบริเวณที่จับ และมีการเว้นระยะห่างที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งคนรับและคนส่ง

Tag: เดลิเวอรี่, โควิด-19