สารภาพว่า ชายจุก บังเอิญหลงเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสาวกเกาหลีโดยไม่รู้ตัว ยังดีที่ไม่ใช่งานคอนฯ ที่ติ่งจะมากรี๊ดปลาบปลื้มนักร้องที่รัก แต่สำหรับอาหารเกาหลีแล้วชายก็มีความรู้อยู่บ้าง ก็ดู Let’s Eat มาทั้ง 2 ซีซั่น (อ้าวนี่ก็ติ่งอาหารเกาหลีสินะ) ดูทีไรชวนน้ำลายไหล ยิ่งมี Let’s Drink ยิ่งติดงอมแงม เอาเป็นว่าเป็นติ่งก็ได้ วันนี้ชายเลยอาสามารีวิว Taste of Korea ของห้องอาหาร Latest Recipe โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ (สุรวงศ์) แทนติ่งเกาหลีที่มาไม่ได้ เชฟโอปป้ากับบุฟเฟ่ต์ดีต่อใจจะเป็นยังไงต้องตามชายมาชิม
ไลน์บุฟเฟ่ต์ของเลเทส เรซิพี จริงๆ ก็มีดีอยู่แล้วแหละ ด้วยไอเท็มเด็ดและราคา แต่เมื่อเชฟมาโค กัมมาตา (Marco Cammarata) เชฟใหญ่ของโรงแรมฯ ได้ชวนเชฟเกาหลีมาถึง 2 คน เชฟแบ จองฮุน (Bae Jong-Hun) และเชฟนัม ฮุน (Nam Hun) จากโรงแรมเชอราตัน โซล ดี คิวบ์ ซิตี้ เกาหลีใต้ ชายว่าติ่งเกาหลีไม่ควรพลาด
ชายว่าอาหารของเชฟทั้งสองคนไม่ได้เกาหลีจ๋า แต่มีความสมัยใหม่และกินง่าย ไม่น่าเบื่อด้วยกลิ่นรสของโคชูจังที่ชายเคยสัมผัสกับร้านอาหารแทบทุกร้านในทริปเกาหลี อาหารที่เชฟเลือกมาค่อนข้างหลากหลาย เชฟทำกิมจิมา 3 แบบ กิมจิผักกาด กิมจิไชเท้า และกิมจิแตงกวา ชายบอกเลยว่ากิมจิไชเท้าดีสุด เค็มเปรี้ยวเผ็ดมาครบ จริงๆ กิมจืก็ไม่ใช่อาหารเรียกน้ำย่อยแหละ ชายว่าเป็นจานเคียงมากกว่ากินได้กับอาหารทุกอย่าง
นอกจากนั้นยังมีสลัดไก่ย่างเกาหลีและผัดวุ้นเส้นเกาหลี และแน่นอนคิมบับทูน่า ข้าวห่อสาหร่ายไส้ทูน่าก็ดีงามไม่แพ้กัน
ส่วนซุปคนเกาหลีเรียกว่า Juk ชายแอบไปหลังครัวเห็นว่ามีซุป 2 ชนิด เป็นซุปฟักทองและซุปถั่วแดง แต่ที่ชายได้ชิมเป็นซุปฟักทอง ใสๆ หน่อย ใส่ด้วยแป้งนุ่มๆ คล้ายโมจิ ซึ่งต่างจากแป้งต๊อกที่เหนียวนุ่ม ส่วนอาหารจานอื่นๆ อาทิ ต๊อกปกกีทะเล ห้ามพลาดอร่อยที่สุด แป้งต๊อกที่นุ่มเหนียวกับอาหารทะเลที่มีไข่ต้มใส่มาด้วย กินแนมกับกิมจิอีกหน่อยอร่อยเด็ด เนื้อผัด ก็อร่อย เชฟใช้เนื้อสไลซ์ที่ติดมันทำให้นุ่ม อยากได้ใบงา กระเทียม และพริกชี้ฟ้า มาห่อกับกิมจิเลยแหละ (น่าเสียดายไม่มี สงสัยเชฟลืมเอามาด้วย)
นอกจากนั้นยังมีสตูไก่ และหมูสามชั้นย่างเป็นอีกทางเลือก บางวันเห็นเชฟบอกกับชายว่ามีปลาหมึกผัดเผ็ด ต๊อกปกกีออริจินอลและซี่โครงเนื้อวัวตุ๋นด้วย
สำหรับไลฟ์สเตชั่น เชฟโอปป้าก็จะมาปรุงใหม่ๆ เลย วันที่ชายไปเป็น LA Galbigui ซี่โครงเนื้อวัวย่าง รสออกหวานหน่อย ควรกินแนมกับกิมจิ ห่อด้วยใบงา (ซึ่งไม่มี) แต่เอาผักสลัดห่อแทนก็ไม่อร่อยเท่า แต่ก็ฟินแท้ ถ้ามีเตาย่างเองคงดีงามมาก จานนี้แนะนำจ่ายค่าเบียร์เพิ่มได้เลยเข้ากันดี บางวันเชฟว่าจะทำ ซัมเกทัง ซุปโสมกับไก่ตุ๋น ทำใหม่ๆ น่ากินมาก
ปิดท้ายที่ของหวาน โซนนี้ฟินสุดแล้ว ไม่เคยกินของหวานเกาหลีอย่างจริงจังเท่านี้มาก่อน จิบ ชาขิงกับอบเชย ล้างปากก่อน ต่อด้วย ชิกคเยฟักทอง น้ำฟักทองใสๆ กับข้าวหวานและเม็ดฟักทอง ส่วนเยลลี่มีสองรส เยลลี่ส้มและเยลลี่แตงโม ส่วน พัฟงา ออกจะแข็งหน่อยแต่ก็หอมอร่อย
เทศกาลอาหารเกาหลี “Taste of Korea” มีเสริมในไลน์บุฟเฟ่ต์ทั้ง Lunch Buffet มื้อกลางวัน Dinner Buffet มื้อเย็น Weekend Seafood Dinner Buffet มื้อค่ำวันศุกร์และเสาร์ และ Sunday Brunch มื้อสายวันอาทิตย์ ราคาเริ่มต้นที่ 1,100 -1,800 บาท++ ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 กรกฎาคม 2560 ซึ่งชายทราบว่ามีความพิเศษในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2 กรกฎาคม และ 9 กรกฎาคม ที่เชฟโอปป้าจะมาเปิดคลาสสอนทำกิมจิโฮมเมด ดีงามทีเดียว
ห้องอาหาร Latest Recipe โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ (สุรวงศ์) โทร.0-2232-8888, lemeridien.com/bangkoksurawong
Tag:
, บุฟเฟ่ต์, อาหารเกาหลี,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น