5 บาร์มู้ดดี ที่สายปาร์ตี้ต้องไปโดน

วันที่ 29 มิถุนายน 2567

 902 Views

หากกำลังมองหาบาร์น่านั่งที่จะสร้างตำนานสุดประทับใจให้กับกลุ่มก๊วน อยากชวนมาที่ 5 บาร์มู้ดดีที่สายปาร์ตี้ต้องโดน เพราะเราเชื่อว่าบรรยากาศฮีลใจอย่างเดียวไม่พอ ต้องล้อไปกับเครื่องดื่มที่ถือเป็นหัวใจสำคัญ รวมทั้งอาหารจานเด็ดที่เพิ่มดีกรีความพิเศษแบบคูณสอง


1. The Black Cat

The Black Cat

บาร์วิสกี้ในโรงแรมสินธร มิดทาวน์ กรุงเทพฯ ที่ตั้งชื่อร้านจากแบรนด์วิสกี้แมวดำอันโด่งดังในอดีต เล่าเรื่องเครื่องดื่มผ่านความเชื่อและคาแรกเตอร์ของแมวดำและแมวหลากสายพันธุ์ บรรยากาศในร้านจึงเต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหา ทั้งโทนสี ภาพศิลปะรูปแมวบนผนัง รวมถึงของประดับรูปแมวทั้งเล็กใหญ่ที่แฝงตัวอยู่ทั่วร้าน

The Black Cat

The Black Cat

The Black Cat

ค็อกเทลของที่นี่ตั้งชื่อตามสายพันธุ์แมวมงคล อาทิ ขาวมณี ที่มีส่วนประกอบเป็นเสน่หาจิน (Saneha) น้ำสับปะรด และไซรัปกลิ่นลอดช่องน้ำกะทิ โกนจา แมวดำตาสีทองอำพัน รสแรงจากเหล้าแม่โขง ผสมน้ำเชื่อมขิง ขิงฝาน โป๊ยกั๊กและโซดา ศุภลักษณ์ แก้วสีส้มจากน้ำเสาวรสและน้ำมะม่วง เบสเป็นจินและเวอร์มุท

The Black Cat

The Black Cat

The Black Cat

ส่วนเมนูอาหารค่อนข้างหลากหลาย แนะนำ Pork and Pancetta Bolognese เฟตตูชินีซอสโบโลญเนสรสเข้มข้น Smoked Salmon Pizza พิซซาอิตาเลียนแป้งบางกรอบหน้าสโมกแซลมอน หรือจะลองหมูสามชั้นทอดน้ำปลาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว รวมถึงเมนูกินเล่นอย่างถุงทองไส้ไก่ก็ไปกับเครื่องดื่มได้ดี

The Black Cat

ทาสแมวหลงรักบาร์นี้แน่นอน


พิกัด : Sindhorn Midtown Hotel Bangkok ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 17.00-02.00 น.
โทร : 0-2796-8888


2. ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม บาร์เก๋บนถนนไมตรีจิตต์ที่ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์จากคอลเล็กชัน “ทันสมัย” จากแบรนด์ เสื้อผ้า loose loose ของดีไซเนอร์อย่างคุณบุ๋มและคุณเอส ซึ่งนอกจากจะมีฝีมือเรื่องการออกแบบเสื้อผ้า ยังหลงใหลเรื่องการกินดื่ม โดยเฉพาะค็อกเทล

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ภายในร้านเต็มไปด้วยชิ้นงานศิลปะทั้งภาพพิมพ์และรูปปั้น ซึ่งคุณบุ๋มเล่าอย่างสนุกว่าตกแต่งเหมือนห้องของเธออย่างไรอย่างนั้น ค็อกเทลของที่ร้านตั้งชื่อให้ล้อไปกับศิลปะแต่ละยุคสมัย คืนนี้เราเริ่มที่ Byzantine Art ค็อกเทลสีขาวที่มีกลิ่นรสของมะพร้าว ตกแต่งด้วยดอกมะลิ Baroque Art เสิร์ฟในแก้วแชมเปญ แก้วนี้เบสเป็นวอดก้า น้ำเลมอน และมีลูกเล่นเป็นกากเพชรหรูหราสะท้อนแสงไฟสมกับเป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟู ใครชอบรสหนักแน่นน่าจะเหมาะกับ Realism มีความขมของเตกีลา น้ำส้ม และมีรสเผ็ดเบาๆ จากพริกด้วย

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ส่วนเมนูอาหารก็ทำออกมาได้สวยเก๋ ไม่ว่าจะเป็น Prosciutto Melone เมลอนหวานฉ่ำตัดด้วยรสเข้มข้นของปาร์มาแฮม Watermelon & Feta แตงโมหั่นเป็นชิ้นแล้วโรยชีสเฟตากินแล้วชื่นใจ หรือหากมองหาเมนูสำหรับจับคู่ไวน์ ที่ร้านมี Cheese Board ที่มีทั้งชีสเกาด้า ชีสบรี ชีสพาร์เมซาน เสิร์ฟพร้อมผลไม้ ถั่ว และชาร์กูเตอรี แต่ที่ห้ามพลาดคือเมนูหมูอบฝีมือคุณแม่ของคุณบุ๋มส่งตรงจากอยุธยา

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

ทันสมัย รูม (Thansamai Room)

จับคู่กับเครื่องดื่มชนิดไหนก็เข้ากัน


พิกัด : 511 ถนนไมตรีจิตต์ (วงเวียน 22) แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 17.00-24.00 น. (หยุดวันจันทร์)
สำรองที่นั่งผ่าน IG : @than.sa.mai.room


3. Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

คนเก๋เขามารวมตัวกันที่นี่ หลังจากปิดตัวไปในช่วงโควิด-19 ตอนนี้ Find The Photo Booth กลับมาอีกครั้งในโลเคชันใหม่บนถนนบรรทัดทอง

Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

ที่นี่เป็นสปีกอีซีบาร์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังตู้ถ่ายรูปให้เราได้เข้าไปแชะภาพสนุกๆ ก่อนเข้าไปด้านใน นอกจากจะได้ลิ้มรสฝีมือบาร์เทนเดอร์ตัวท็อประดับเอเชีย โลเคชันใหม่ยังมาพร้อมคอนเซ็ปต์ 7 Chords to Cocktail ซิกเนเจอร์ค็อกเทล 7 แก้วจากคอร์ดดนตรีเฉกเช่นผู้มีเสียงเพลงในหัวใจ (ขนาดเมนูของที่ร้านยังมาในรูปแบบกล่องซีดี) เริ่มที่ D SHARP (D#) ทวิสต์ค็อกเทลที่ไม่หนักเกินไป มีส่วนผสมของรัมและเวอร์มุท พร้อมรสเกรปฟรุตและสตรอว์เบอร์รี F SEVENTH (F7) มีส่วนผสมของ Suntory Kakubin โพรเซกโก มีกลิ่นหอมของสับปะรดและสตรอว์เบอร์รี หรือจะลอง Hojicha Highball ค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่นที่มีทั้งโฮจิฉะและวิสกี้ญี่ปุ่นในแก้วเดียวกัน

Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

ส่วนใครอยากหาอะไรรองท้องที่ร้านมีเมนูกินเล่นอย่าง Wonton Crisps เกี๊ยวแผ่นทอดกรอบเสิร์ฟคู่ชีสผักโขมหอมมัน และ Steamed Shrimp Siu Mai with Shrimp Roe ขนมจีบกุ้งท็อปด้วยไข่กุ้งคำโตไว้ให้สั่งมากินคู่เครื่องดื่มด้วย

Find The Photo Booth

Find The Photo Booth

ถึงเวลาออกไปตามหาตู้โฟโต้บูทแล้ว


พิกัด : ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 19.00-02.00 น.
โทร : 08-0078-9265


4. Pollen Bar

Pollen Bar

Pollen Bar บาร์ใหม่ย่านราชประสงค์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Raynue (เรณู) เลานจ์ที่เชื่อมต่อชั้น 3 และ 4 ของเกษรอัมรินทร์ที่ชูคอนเซ็ปต์ Taste of Time มอบประสบการณ์ที่แตกต่างในแต่ละช่วงเวลาให้กับผู้มาเยือน ซึ่ง Pollen Bar รับไม้ต่อช่วงเย็นที่เป็น Taste of Moonrise หรือเดสติเนชันสุดท้ายของวัน

Pollen Bar

Pollen BarPollen Bar

Pollen Bar

สามารถนั่งชิลหน้าเคาน์เตอร์บาร์เพื่อชมลีลาของมิกโซโลจิสต์มือทอง หรือจะนั่งโซนระเบียงที่เปิดให้ชมวิวแบบ 360 องศา ทั้งวิวท้องฟ้าและวิวเมือง นับเป็นมุมแฮงเอาต์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ส่วนเครื่องดื่มสุดพิเศษครีเอตโดยแจน-เจนณรงค์ ภูมิจิตร จากมหานิยม แนะนำ Marigtini ได้แรงบันดาลใจจากมาร์ตินี มีเวอร์มุทจากผลไม้ไทยเจือกลิ่นหอมของดอกดาวเรือง เพิ่มสมุนไพรไทย แก้วนี้ดื่มง่ายแต่แฝงความร้อนแรงไว้อย่างแนบเนียน

Pollen Bar

Pollen Bar

Pollen Bar

Pollen Bar

Bedbugs Bite ดื่มแล้วหลับสบายสมชื่อ เบสจากเหล้ารัม ชาคาโมมายล์ ตามด้วยผลไม้ไทย ซิตรัส กลิ่นหอมหวาน มีรสนมจางๆ เพราะมีนมถั่วเหลืองเป็นส่วนผสม Pearadise เบสเป็นเหล้าจิน ร่วมกับอะมาโร มอนเตเนโกร เหล้าพรีเมียมของอิตาลี ผสมเพียวเร่ไซรัป เกล็ดลาเวนเดอร์ รสชาติเปรี้ยวหวาน เพิ่มความละมุนด้วยไข่ขาว ให้ความรู้สึกฟรุตตี้ ฟลอรัล และซิตรัส

Pollen Bar

Pollen Bar

Pollen Bar

Pollen Bar

อย่าลืมจับคู่กับอาหารสไตล์ทาปาสจะช่วยชูรสชาติแบบดับเบิล


พิกัด : Raynue ชั้น 3 และชั้น 4 ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 17.00-24.00 น.
โทร : 0-2976-6995


5. บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

เจ้าของร้านอยากให้ทุกคนคิดว่าที่นี่เป็นบ้านมากกว่าร้านอาหาร จึงตั้งชื่อว่าบ้านดอกแก้ว ให้ล้อไปกับดอกแก้วต้นใหญ่หน้าบ้านที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง ถึงจะเป็นบ้านเก่าอายุเกือบร้อยปี แต่ยังคงสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกที่เรียกว่าเรือนขนมปังขิง แค่นั่งชมดีเทลของบ้านก็เพลินตั้งแต่ยังไม่เริ่มจิบเบียร์

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

ภายในเปรียบเสมือนชุมชนเล็กๆ ของคอคราฟต์เบียร์ที่มีหลายเจเนอเรชัน เช่นเดียวกับคราฟต์เบียร์ที่มีวาไรตี้ให้เลือกจุใจทั้งเบียร์โลคอลและอิมพอร์ตจากทั่วโลก เพราะเสน่ห์ของคราฟต์เบียร์คือความหลากหลาย แต่ละสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวรวมถึงมีสตอรีให้เล่าได้ไม่จบ ทางร้านจะแนะนำคราฟต์เบียร์แต่ละชนิดรวมทั้งให้ลองชิมก่อนตัดสินใจ เพราะสุดท้ายแล้ว “เบียร์ที่ดีคือเบียร์ที่ชอบ”

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

ด้านอาหารเน้นความเรียบง่ายแต่หนักแน่นด้วยรสชาติซึ่งเป็นอาหารเหนือสูตรของบ้านที่ลำพูน ละเลียดพร้อมกับคราฟต์เบียร์แล้วเหมือนเกิดมาคู่กัน อาทิ Family Set ชุดขันโตกที่มีน้ำพริกหนุ่มหรือน้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แหนม แกงฮังเลหรือแกงอ่อม แคบหมู ผักสด ยังมีสปาเกตตีน้ำพริกอ่องไข่กุ้ง เมนูฟิวชันที่คงคอนเซ็ปต์อาหารเหนือไว้แบบเต็มปากเต็มคำ

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

บ้านดอกแก้ว (Dok Kaew House Bar)

ยกให้เป็นบาร์ลับที่คุณภาพคับแก้ว


พิกัด : 71 ซอยศาสนา (ถนนพระรามที่ 6 ซอย 28) แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ
เวลาทำการ : เปิดบริการ 17.00-24.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
โทร : 08-6398-8563


Tag: บาร์, รวมร้านอร่อย, ร้านแฮงก์เอาต์

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed