รีวิว 5 แอพพลิเคชันสั่งอาหาร นอนตีพุงอยู่บ้านก็ได้กิน!

วันที่ 26 ธันวาคม 2560

 40,621 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 209 เดือนธันวาคม 2560

ภารกิจส่งท้ายปลายปีของน้องเล็กและพี่หญิงใหญ่ปีนี้ เปลี่ยนเป้าหมายจากการเริงร่าตามร้านอาหารเป็นการนั่งเฉยๆ เพราะตอนนี้อยากกินอะไรก็ง่ายไปหมด แค่หยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดสั่งผ่านแอพพลิเคชัน แป๊บเดียวก็ส่งถึงที่ เรา 2 สาวไม่รอช้า แท็กมือสั่งอาหารผ่าน 5 แอพดังให้มาส่งถึงออฟฟิศG&C (ซอยโชคชัยร่วมมิตร / วิภาวดีรังสิต 16) แล้วมาเล่าสู่กันฟังว่าแต่ละเจ้าเขาโดดเด่นที่ตรงไหน

★ UberEats 
หลังจากแอพพลิเคชัน Uber ได้รับความนิยมสำหรับผู้ชอบใช้รถยนต์โดยสารแบบพรีเมียมแล้ว เมื่อต้นปีที่ผ่านมาบริษัท Uber ก็เปิดตัว UberEATS แอพพลิเคชันใหม่บนมือถือเอาใจนักกินในกรุงเทพฯ ให้สั่งอาหารกว่า 100 ร้านดัง ตั้งแต่หมวดอาหารไทย หมวดคาเฟ่ หมวดแอลกอฮอล์ ไปจนถึงอาหารนานาชาติให้ส่งตรงถึงหน้าบ้านเราเลย แถมคนที่มีแอพ Uber อยู่แล้วก็ไม่ต้องกรอกข้อมูลใหม่ แค่โหลดแอพ UberEATS มาแล้วกด Continue Using Existing Account ตัวแอพจะทำการดึงชื่อ อีเมล เบอร์โทร และเลขบัตรเครดิตที่เคยกรอกไว้ใน Uber มาให้เลย สะดวกมากๆ

UberEats

UberEATS ส่งอาหารเดลิเวอรีด้วยมอเตอร์ไซค์ (นะจ๊ะ) โดยจะตัดเงินค่าอาหารกับค่าส่ง (ตามระยะทาง) ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ผูกไว้กับแอพ เมื่อเราระบุสถานที่จัดส่งอาหาร เลือกร้าน กดสั่งอาหาร และชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถตรวจสอบผ่าน GPS ได้ตั้งแต่ที่ร้านรับออร์เดอร์จนถึงพี่คนขับนำอาหารมาส่งให้เลย ส่วนหน้าตาอาหารเรียกว่าสมบูรณ์มาก เราสั่งเมนูข้าวผัดเขียวหวานปลาแซลมอนไข่เค็ม กับเครื่องดื่มฟรอสต์ มินต์ ช็อกโกแลต ที่มาพร้อมแก้วน้ำแข็งจากร้าน Flock Dessert And Bistro (ซอยพหลโยธิน 18/1) น้ำแข็งไม่หกเลอะเทอะและอาหารยังอุ่นอยู่ ที่สำคัญมาตรงเวลาตามที่แอพระบุไว้ด้วย เพราะฉะนั้นเอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม

UberEats

UberEats
➤ UberEATS ให้บริการทุกวัน 10.00-22.00 น. (www.uber.com)
 

★ GrabBike (Delivery) 
จุดเริ่มต้นของ GrabBike (Delivery) คือให้บริการในรูปแบบส่งเอกสารหรือส่งของทั่วไป แต่ตอนนี้นอกจากรับส่งของแล้วยังรับซื้อของทุกอย่าง (ตามเงื่อนไขบริษัท) ในกรุงเทพฯ ได้ด้วย! โดยเฉพาะอาหาร  ที่เราชอบมากคือค่าโดยสารที่ระบุไว้ชัดเจน โปรโมชันต่างๆ รวมถึงวิธีการสั่งไม่ยุ่งยากและปลอดภัย ใครมีแอพ Grab อยู่แล้วก็ใช้งานได้ทันที เพียงกดเปลี่ยนโหมดในแอพเป็น GrabBike (Delivery) แล้วปักหมุดสถานที่ต้นทางและปลายทาง ระบุใส่ช่อง Note ไว้หน่อยว่าให้ซื้ออาหารร้านไหน เอาเมนูอะไรบ้าง (กำหนดราคาอาหารครั้งละไม่เกิน 500 บาท) จากนั้นระบบจะคำนวณรวมค่าโดยสารคิดกิโลเมตรแรกอยู่ที่ 25 บาท ซึ่งเราเลือกจ่ายได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต/เดบิต หรือโอนเงินผ่านธนาคารให้พี่คนขับก็ได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะถูกลักทรัพย์ เพราะได้รับการตรวจประวัติอาชญากรรม มีรูปถ่าย ชื่อ ทะเบียนรถ และเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เราติดต่อเรียบร้อย แถมมีประกันสินค้าสูงสุด 2,000 บาทต่อกรณี

GrabBike (Delivery)

เมื่อระบบค้นหาคนขับบริเวณใกล้เคียงให้นำออร์เดอร์ของเราไปซื้อและส่งของแล้ว เราสามารถติดตามการเดินทางแบบเรียลไทม์ผ่าน GPS ได้จนพี่คนขับถึงที่หมายอย่างปลอดภัย อาหารที่เราลองสั่งคือ สปาเกตตีขี้เมาทะเล สเต๊กหมู และเครื่องเคียงต่างๆ จากร้าน Eat Am Are Good Steak (ซอยรางน้ำ) อาหารถึงมือเราอย่างสวยงามและยังร้อนอยู่ มาถึงในเวลารวดเร็วตามที่แอพกำหนดด้วย ต้องบันทึกเอาไว้ว่าใช้บริการครั้งต่อไปแน่นอน

GrabBike (Delivery)

GrabBike (Delivery)
➤ GrabBike (Delivery) ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 0-2021-2500 (www.grab.com/th)
 

★ Foodpanda 
อีกแอพพลิเคชันที่ "เฟรนด์ลี่" ใช้ง่าย หน้าตาเป็นมิตร ซึ่งกระจายตัวอยู่ใน 12 ประเทศทั่วเอเชีย รวมถึงในบ้านเรา เรียกว่าเห็นโลโก้หมีแพนด้าสีชมพูเมื่อไรเป็นอันรู้กันว่ามื้อนี้เราจะไม่อดแน่นอน

Foodpanda

จุดเด่นของแอพนี้คือส่งไวและค่าส่งแสนถูก เพราะ Foodpanda แยกร้านอาหารตามที่อยู่ของผู้ใช้ครอบคลุมกว่า 1,000 ร้าน (ไม่ใช่เฉพาะในกรุงเทพฯ แต่ครอบคลุมอีกหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต ปทุมธานี ฯลฯ ) ขั้นตอนแรกหลังจากดาวน์โหลดแอพพลิเคชันคือกดระบุที่อยู่ของเราแบบอัตโนมัติ จากนั้นร้านละแวกใกล้เคียงจะโผล่ให้เห็นพรึ่บ เรา 2 สาวระบุพิกัดที่ออฟฟิศ G&C ร้านใกล้เคียงส่วนใหญ่จึงเป็นย่านลาดพร้าว รัชโยธิน พหลโยธิน เรากดสั่งร้านคิวยาวอย่าง Bonchon Chicken สาขารัชโยธิน เลือกเมนู Chicken Wings และ Crispy Tofu Salad  วิธีการชำระเงินได้เลยตามสะดวก ทั้งจ่ายเงินสด บัตรเครดิต จ่ายออนไลน์ จากนั้นแอพจะเริ่มนับเวลาถอยหลัง ระหว่างรอสามารถเช็กได้ว่าตอนนี้ออร์เดอร์ของเราอยู่ขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งอาหารจะมาถึงมือเราภายใน 40 นาที และคิดค่าส่งแค่ 40 บาท (ถูกจัง) รอแป๊บเดียว "ไรเดอร์" ชุดสีชมพูบานเย็นพร้อมโลโก้ Foodpanda ก็มาถึงมือเราตามระยะเวลาเป๊ะ ส่วนอาหารที่สั่งไปยังอุ่นอยู่ เพราะกล่องสำหรับจัดส่งอาหารเป็นแบบเก็บอุณหภูมิ ไก่ทอดไม่เละ สภาพสมบูรณ์ไม่ต่างจากไปนั่งกินที่ร้าน แถมข้อมูลการสั่งของเราก็เช็กย้อนหลังด้วยฟังก์ชัน My Orders ได้อีกด้วย ให้คะแนนเพิ่มอีกนิดตรงที่ไรเดอร์ที่เราเจอยิ้มแย้มบริการดี เหมือนหมีแพนด้าบนโลโก้เลย

Foodpanda

Foodpanda
➤ Foodpanda บริการ 24 ชั่วโมง (www.foodpanda.co.th)
 

★ LINE MAN 
ต้องเรียกว่าเป็นแอพครอบจักรวาล สั่งได้ทุกอย่าง ทั้งฝากส่งของ ฝากซื้อของ โดยเฉพาะฟังก์ชันยอดฮิต สั่งอาหารเดลิเวอรี เพราะ LINE MAN เด่นที่รวบรวมร้านเด็ดไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะใกล้ไกล คิวยาวแค่ไหนไลน์แมนก็ไม่หวั่น ไปซื้อมาส่งให้จนได้ รวมถึงมีโปรโมชันต่างๆ ทั้งลดค่าส่ง ทั้งลุ้นกินฟรีมาให้ลุ้นกันเรื่อยๆ (ข้อนี้สุดยอดไปเลย)

LINE MAN

ด้วยความที่ไลน์แมนมีลิสต์ร้านอยู่ในมือเยอะมาก ตั้งแต่ร้านหรูไปจนถึงสตรีทฟู้ด เราจึงสามารถพิมพ์ชื่อร้านที่อยากกินลงในช่องค้นหาได้เลย (ส่วนใหญ่เจอแน่นอน) จากนั้นเลือกเมนูที่ต้องการแล้วกด Add to cart เราเลือกร้านดังอย่างหมูสะเต๊ะนายนะ ถนนพระราม 6 สั่งหมูสะเต๊ะไป 2 ชุดและถุงทองอีก 2 ชุด จากนั้นเลือกโลเคชันสำหรับจัดส่ง ใครมี Code สำหรับลดราคาก็นำมากรอกในขั้นตอนนี้ จากนั้นแอพจะสรุปออร์เดอร์พร้อมค่าส่ง (ค่าส่งขึ้นอยู่กับระยะทาง เราอยู่ห่างจากร้านประมาณ 7 กิโลเมตร เสียค่าส่งร้อยกว่าบาท) กดคอนเฟิร์มเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ระหว่างรอก็เข้าไปเช็กผ่านหน้าต่างแชทของ LINE ได้ว่าตอนนี้ไลน์แมนอยู่จุดใดแล้ว

LINE MAN

LINE MAN

สำหรับออร์เดอร์ของเรา 2 สาวใช้เวลารอไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หมูสะเต๊ะนายนะก็มาส่งถึงที่โดยหนุ่มชุดสีส้มใส่ชุดฟอร์ม Lalamove นั่นเป็นเพราะ LINE MAN จับมือกับ Lalamove ซึ่งเป็นเจ้าแห่งการส่งเดลิเวอรีเช่นกัน ดังนั้นเราอาจพบเจอคนส่งได้ทั้งชุดสีเขียวและสีส้ม (ไม่ต้องตกใจไป) ส่วนหมูสะเต๊ะและถุงทองที่สั่ง มาถึงแบบครบถ้วน อร่อยฟินไม่ต่างจากไปกินที่ร้านสรุปว่าแอพนี้เหมาะกับคนอยากกินร้านดังแต่ไม่อยากออกจากบ้านไปไหน เพราะไลน์แมนช่วยคุณได้แน่นอน

➤ LINE MAN บริการ 24 ชั่วโมง FB : linemanth Line : @linemanth
 

★ Indie Dish 
เรียกว่าเป็นแอพพลิเคชันที่คนรักสุขภาพต้องเทใจให้เลย เพราะ Indie Dish ได้รวบรวมอาหารคลีนกว่า 70 ร้าน ทั้งน้ำ อาหาร และขนมไว้ในแอพเดียว ในนี้เราจะพบกับเมนูมากมายแสดงเป็นรูปภาพพร้อมข้อมูลด้านโภชนาการของอาหารนั้นๆ ประกอบไว้ เช่น แคลอรี ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต นอกจากอาหารจานเดียวแล้วก็ยังมีคอร์สอาหารเพื่อสุขภาพให้เราได้เลือกลองกันด้วย

Indie Dish

Indie Dish จำกัดคำของอาหารสุขภาพไว้ว่า อาหารต้องมากด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารดีอื่นๆ อีกทั้งต้องมีไขมันและน้ำตาลน้อย ไม่ใส่สารเคมี สารกันบูด หรือผงชูรส รวมถึงให้ปริมาณอาหารที่มีสัดส่วนพอเหมาะต่อร่างกาย ซึ่งหากเราสนใจสั่งอาหารต้องออร์เดอร์ล่วงหน้า 1 วัน หรือใครอยากกินทุกวันแต่ไม่สะดวกสั่งบ่อยๆ ก็สามารถออร์เดอร์ล่วงหน้าได้ถึง 7 วันเชียว

Indie Dish

ส่วนค่าอาหารเราต้องโอนเงินผ่านธนาคารหรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งคิดค่าส่งตามระยะทางเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะคำนวณให้เสร็จสรรพก่อนมาส่งอาหาร เราลองเมนู Vagan Toast with Peanut Butter, Banana, Granola, Honey and Chia Seeds และ Pumpkin Bread จากร้าน Theera (เอกมัย-ทองหล่อ) ทางร้านก็แพ็กให้อย่างดีและมาถึงมือเราอย่างเรียบร้อยไม่มีร่องรอยขนส่ง เรียกว่าสะดวกและจบครบสำหรับสายเฮลท์ตี้มากทีเดียว   

Indie Dish
➤ Indie Dish ให้บริการทุกวัน 09.00-16.00 น. โทร. 0-2080-3919 (www.indiedish.co)


Tag: , On the sidewalk, แอพพลิเคชั่น,

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed