Beef Lover ต้องจดลงลิสต์แล้วรีบตามไปลิ้มลอง The Best of Wagyu เนื้อวากิวคาโกชิม่า เกรดพรีเมียม จาก Wafood ที่มาทำแคมเปญร่วมกับ 11 ร้านอาหารชื่อดังของไทย ในกิจกรรม WAGYU RED
ซึ่งแคมเปญนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อโปรโมตเนื้อพรีเมียม โดยเนื้อวัวคาโกชิม่าวากิวเป็นเนื้อวัวดำที่ได้รับรางวัลโอลิมปิกวากิวหลายสาขาจากประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นเนื้อแชมป์เปี้ยนของญี่ปุ่นเลยล่ะ!
เนื้อที่ทาง Wafood นำมาร่วมแคมเปญในครั้งนี้เป็นส่วนของเนื้อแดง ที่มีมันน้อย แต่ยังคงความนุ่มละมุน สมกับเป็นเนื้อวากิวของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
★1. 100 Mahaseth★
ร้านอาหารอีสานที่เสิร์ฟแบบไฟน์ไดนิงในคอนเซ็ปต์ “Nose to tail” หรือการใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบตั้งแต่หัวจรดหางมาปรุงอาหารอย่างประณีตด้วยวิธีการทันสมัย ภายใต้บรรยากาศบ้านเพื่อนชาวอีสาน นำเสนอเนื้อวากิวคาโกชิม่าย่าง และปรุงรสด้วยวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารอีสานบ้านเฮาด้วยเมนู ยำเนื้อย่างมะเขือเปาะ และ เนื้อย่างน้ำใบย่านาง
พิกัด : 100 Mahaseth
สำรองที่นั่ง : สาขาสี่พระยา โทร. 02 235 0023 และสาขาเอกมัย โทร. 02 004 6932
เปิดบริการ : สาขาสี่พระยา เปิด 11.30-23.30 น. และสาขาเอกมัย เปิด 17.30-23.30 น. (ปิดวันจันทร์)
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/405
★2. ALT Dry Age★
ALT Dry Age ไม่ใช่แค่ร้านอาหารแต่เป็นพื้นที่สำหรับการแบ่งปันความอร่อยของ "เนื้อดรายเอจ" ให้คนรักเนื้อได้มาลิ้มลองพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ทางร้านได้รังสรรค์เมนูใหม่ร่วมกับทาง Kagoshima Wagyu ครีเอตเป็น 2 เมนูอย่าง เนื้อเสือร้องไห้กับส้มตำหลวงพระบาง และ สเต๊กเนื้อวากิวราดซอสสูตรพิเศษ
พิกัด : สาทร ซอย 12 (BTS สถานีเซนหลุยส์)
สำรองที่นั่ง : 082 263 4922
เปิดบริการ : เปิดทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-22.00 น. (Last Order: 21.00 น.)
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/2352
★3. Anchan Café★
อัญชัน คาเฟ่ เน้นเสิร์ฟอาหารไทยโบราณที่คำนึงถึงเรื่องรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบเป็นสำคัญ จึงเลือกนำเนื้อคาโกชิม่าวากิวมาจัดจานเสิร์ฟเป็นเมนู เนื้อคาโกชิม่าวากิวทอดน้ำมันมะแขว่น โดยมีวิธีการปรุงที่ชูโรงเนื้อส่วน Top Round (สะโพก) แบบเต็มๆ ผนวกกับรสและกลิ่นของมะแขว่นยิ่งทำให้เมนูนี้พิเศษกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังเป็นเมนูที่หากินได้ยาก จึงอยากแนะนำให้ทุกคนได้มาลิ้มลองสักครั้ง
พิกัด : Anchan Café
สำรองที่นั่ง : สาขาวิภาวดี 18 โทร. 088 608 8844 และสาขาสุขุมวิท 49 โทร. 095-365-6953
เปิดบริการ : สาขาวิภาวดี 18 เปิด 10.00-22.00 น. และสาขาสุขุมวิท 49 เปิด 07.00-21.00 น
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/411
★4. CHUNN (ฉัน)★
ร้านข้าวหน้าเนื้อในแบบ "ฉัน" ตอบโจทย์คนชอบกินเนื้อคู่กับน้ำจิ้มแบบไทยๆ ที่ไม่ได้อร่อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนั่งเสพบรรยากาศสไตล์วินเทจจากงานอินทีเรีย และรูปภาพผลงานศิลปะภายในร้านได้อีกด้วย รับรองว่าสายอาร์ตที่มากินร้านนี้จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน ล่าสุดทางร้านได้รังสรรค์เมนูใหม่อย่าง ฟิวชันมัสมั่นเนื้อ หรือมัสมั่นเนื้อวากิวคาโกชิม่า ออกมาในรูปแบบ Deconstruction โดยใช้เนื้อส่วน Top round มีการ Sous Vide กับกะทิให้มีความหอมละมุน
พิกัด : CHUNN (ฉัน) ทุกสาขา
สำรองที่นั่ง : 084 666 4422
เปิดบริการ : วันจันทร์ - อาทิตย์ (เฉพาะสาขาเอกมัยที่ปิดวันจันทร์) เวลาเปิด-ปิดของแต่ละสาขา เช็กได้ที่เพจ ฉัน - CHUNN
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/2366
★5. Flow Restaurant and Bar★
ร้านอาหารฟิวชันไทย-อิตาเลียน นำเสนอเมนูพิเศษ สเต๊กเนื้อคาโกชิม่าวากิวครีมทรัฟเฟิลเบคอนกรอบ ที่ผสมวัตถุดิบสุดพิเศษอย่างเนื้อคาโกชิม่าวากิว เพื่อให้ได้สัมผัสกับรสชาติของเนื้อแดง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคาโกชิม่าวากิวผนวกกับครีมทรัฟเฟิลเบคอนกรอบ ซอสซิกเนเจอร์ของทางร้าน รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์การกินเนื้อที่ไม่เหมือนใคร แถมยังประทับใจในทุกๆ คำที่ได้ลิ้มลองอย่างแน่นอน
พิกัด : พหลโยธิน ซอย 9
สำรองที่นั่ง : 02 618 5159
เปิดบริการ : 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
★6. HOR FUN (หอ ฝัน)★
หอฝันในภาษาจีนกวางตุ้งแปลว่า ‘เส้นใหญ่’ ทางร้านจึงครีเอตเมนูร่วมกับทางทีม Kagoshima Wagyu ออกมาเป็นเมนู Hor Fun Fired Noodles Kagoshima ก๋วยเตี๋ยวหลอดวากิวกับซอสสูตรพิเศษ ใช้เส้นใหญ่คั่วกับน้ำพริกใช้โป๊วสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟกับเนื้อคาโกชิม่าวากิว ท็อปด้วยไข่แดงดองโชยุ มีความนุ่มของเนื้อคาโกชิม่าวากิวบวกกับความหอมของกลิ่นคั่วกระทะ มีความละมุนของไข่แดงมาช่วยชูรส
พิกัด : ถนนพาดสาย (เยาวราช)
สำรองที่นั่ง : 083 155 5378
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น.
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/1958
★7. Juksunchae★
ร้านอาหารเกาหลีแบบไฟน์ไดนิงแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่อัดแน่นด้วยวัตถุดิบคุณภาพ คิดค้นสูตรอาหารโดย Henry Lee เชฟเกาหลีผู้นำแรงบันดาลใจสูตรอาหารของคุณแม่ผสมผสานกับความเป็นตัวเอง โดยใช้เทคนิคตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งครั้งนี้ได้เนื้อคาโกชิม่าวากิวในส่วน Shoulder Cold (Misuji) มารังสรรค์เมนูพิเศษ เป็นเนื้อแดงที่มีความหอมนุ่มละมุน นำเสนอเมนู Steak with Korean Sause
พิกัด : ชั้น 5 อาคาร Woodberry Common ซอยร่วมฤดี เพลินจิต
สำรองที่นั่ง : 098 333 4498
เปิดบริการ : 18.30 - 23.00 น. (หยุดวันอังคาร)
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/2013
★8. Reap Factory★
ยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารไปกับเมนูแสนอร่อย ด้วยวัตถุดิบสดใหม่ที่คัดสรรจากท้องถิ่นที่ดีที่สุด ภายใต้บรรยากาศสไตล์ฟาร์มเฮาส์ ซึ่งเชฟต้องการชูเอกลักษณ์ของเนื้อให้ได้มากที่สุด จึงเลือกให้เนื้อผ่านวิธีการปรุงน้อยที่สุด เพื่อคงรสชาติและรสสัมผัสของเนื้อเอาไว้ ออกมาเป็นเมนู สเต๊กวากิวกับซอสสามสี และ สเต๊กแซนด์วิช สไตล์ Western
พิกัด : Courtyard By Marriott Bangkok Sukhumvit 20
สำรองที่นั่ง : 02 127 5920
เปิดบริการ : ทุกเย็นวันศุกร์ เวลา 18:00 น. – 22:00 น.
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/happening/detail/2577
★9. Restaurant Stage★
ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับเรื่องราวของรสชาติที่เหล่าเชฟได้สั่งสมประสบการณ์กันมาจากหลากหลายวัฒนธรรมการกินดื่มที่เชฟแต่ละคนเดินทางไปลิ้มลองมาทั่วโลก เพื่อเปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าได้เข้ามาลิ้มลองได้ แม้ว่าจะอยู่ในประเทศไทยก็ตามอย่างเมนู Kagoshima Beef and Mixed Mushroom เชฟโชว์ความโดดเด่นและรสชาติของเนื้อคาโกชิม่าออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้จานนี้เป็นมื้อที่พิเศษสุดเลยทีเดียว
พิกัด : เอกมัยคอมเพล็กซ์ ถ.สุขุมวิท 63
สำรองที่นั่ง : 02-002-5253
เปิดบริการ : 18.00-24.00 น.
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/906
★10. Tenyuu Grand Japanese Restaurant★
ต้นตำรับอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมตั้งใจเสิร์ฟเนื้อคาโกชิม่าด้วยเมนู สเต๊กจิ้มแจ่ว เมนูอีสานสไตล์แต่ยังมีกลิ่นอายญี่ปุ่นนิดๆ เสิร์ฟในกระทะร้อน เพิ่มรสด้วยซอสจิ้มแจ่วรสเด็ด และ Beef Tataki เนื้อสไลซ์บางย่างจนหนังกรอบ แต่ยังคงความฉ่ำเอาไว้ได้อย่างดี กินคู่กับซอสยูซุพอนสึที่มีความหอมหวาน
พิกัด : ซอย สาทร 6 แขวงสีลม เขตบางรัก
สำรองที่นั่ง : 02 632 1777
เปิดบริการ : ทุกวัน 11.00-22.30 น.
★11. Tunu Tarnar Restaurant★
ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้เสิร์ฟเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Kagoshima Wagyu Carpaccio การ์ปัชโชเนื้อวากิวที่สไลซ์เนื้อบาง เสิร์ฟพร้อมเลมอน น้ำมันมะกอก ให้รสสดชื่นเต็มปากเต็มคำ ส่วนอีกหนึ่งเมนูเป็น Kagoshima Wagyu Steak ที่ชูรสชาติของคาโกชิม่าวากิวได้เป็นอย่างดี
พิกัด : ซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง
สำรองที่นั่ง : 096 246 2493
เปิดบริการ : ทุกวัน 11.00-15.00 และ 17.00-24.00 น.
งานนี้ลาภปากคนรักเนื้อสุดๆ
Tag:
Wafood, รวมร้านอร่อย, เนื้อวากิว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น