หลังจากถูกกล่าวขวัญไปไกลถึงต่างแดนว่า กรุงเทพฯ ได้กลายเป็นเมืองแห่งนักชิมแห่งใหม่ที่ไม่ควรพลาดเพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารท็อปลิสต์จนนับกันแทบไม่ไหว นอกจากร้านหรูหราราคาแพงแล้ว ยังมีร้านรสชาติระดับห้าดาวในราคาจับต้องได้ซ่อนตัวอยู่อีกหลายร้าน เราจึงขอเกาะติดเทรนด์นี้ ด้วยการพาไปชิมฝีมืออดีตเชฟจากร้านอาหารและโรงแรมชื่อดังซึ่งผันตัวเองมาเปิดร้านอาหารริมทางถึง 7 ร้าน ขอบอกว่าทั้งเรื่องรสชาติ วัตถุดิบ รวมถึงหน้าตาของอาหาร แต่ละคนจัดหนักจัดเต็มแบบไม่ยอมน้อยหน้า ถือเป็นลาภปากของเรา 2 สาว งานนี้จะอ้วนในหน้าที่ก็ยอม
★ The Chef Steak & B.B.Q. : ‘เชฟเปี๊ยก’ จัดให้ ★
แค่เห็นสโสแกน “อร่อยห้าดาว ราคาริมทาง” ที่ติดหน้าร้านแล้วก็พอเดาได้ว่าร้านนี้เขามีทีเด็ด แถมเชฟเปี๊ยก-สุธีระพันธ์ เจ้าของร้านก็ไม่ธรรมดา เพราะผ่านการทำงานครัวมาทั้งชีวิต ตั้งแต่ฝึกงานกับโรงแรมโอเรียนเต็ล ขยับเป็นกุ๊กโรงแรมนารายณ์ เครือโรงแรมรอยัล ริเวอร์ ฯลฯ แต่ที่ฝากฝีมือไว้นานที่สุดคือที่เบียร์สิงห์เฮ้าส์ อโศก ในตำแหน่ง Executive Chef รวมถึงคว้าตำแหน่งแชมป์โลกบาร์บีคิว เมื่อปี 2535 มาเป็นเครื่องการันตีฝีมือ ก่อนจะเกษียณตัวเองแล้วเปิดร้านอาหารเล็กๆ ซึ่งเชฟเปี๊ยกเล่าติดตลกว่า “ดีกว่าอยู่เฉยๆ และเป็นการออกกำลังกายไปในตัว” (ฮา!)
มาแล้วต้องลอง Pork Sparerib B.B.Q ซี่โครงหมูย่างบาร์บีคิวจานใหญ่ราคาไม่เกิน 200 บาท จานนี้เรากรี๊ดหนักมากและหมดเกลี้ยงภายในพริบตา นอกจากซี่โครงหมูจะนุ่มอร่อย หลุดออกจากกระดูกโดยง่ายดายแล้ว ซอสบาร์บีคิวยังอร่อยขาดใจด้วยรสเผ็ดๆ หวานๆ แนะนำให้ใช้มือหยิบกินจะเพลินมาก (อย่าลืมดูดนิ้วด้วยนะ) ส่วนจานสเต๊กเชฟก็ทำได้ประทับใจ Chicken Hip in Red Wine Sauce เนื้อไก่ส่วนสะโพกนุ่มอร่อยเข้ากันกับซอสไวน์แดงเสิร์ฟคู่สลัดผักและน้ำสลัดทำเอง และสเต๊กปลาผักโขมซอสไวน์ จานนี้ครีมมี่แบบจริงจังเพราะเสิร์ฟคู่กับผักโขมอบชีสหอมกรุ่น หากไม่ถนัดรสชาติฝรั่งจ๋า ลองสั่งสปาเกตตีสไปซี่ ได้อารมณ์ผัดขี้เมาทะเลแบบไทยๆ น่าจะถูกใจกว่า ใครกินแล้วติดใจอยากกลับไปลองทำบ้าง เชฟเปี๊ยกก็ยินดีสอนแบบไม่มีหมกเม็ด ซื้อวัตถุดิบแล้วมาหาเชฟได้เลย!
พิดกัดความอร่อย : ในบริเวณปั๊มบางจาก (เยื้องกับโตโยต้าลิบร้า โชว์รูมวัชรพล) ถนนรามอินทรา-วัชรพล เขตบางเขน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 10.00-23.00 น.
โทร : 08-1696-9807
★ พัฒน์ ราดหน้าหมูนุ่ม : อาหารเหลาสไตล์ ‘เฮียหมง’ ★
มาถึงร้านขวัญใจคออาหารเหลาย่านแฮปปี้แลนด์กันบ้าง หน้าร้านมองเผินๆ เหมือนร้านอาหารธรรมดา แต่ในร้านมีเมนูอาหารเหลาให้สั่งมาลิ้มลองได้แบบกระเป๋าไม่แบน (และแฟนไม่ทิ้งด้วย) ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก ‘เฮียหมง’ ผู้โด่งดังในแวดวงภัตตาคารจีน และอดีตหัวหน้าเชฟครัวจีนของร้านอาหารบัว ศรีนครินทร์นั่นเอง
เสน่ห์ของร้านนี้คือความเป็นครอบครัว เริ่มจากร้านขายราดหน้าเล็กๆ ของคุณพัฒน์ (ลูกชายเฮียหมง) ซึ่งมีโอกาสได้ฝึกฝีมือกับคุณพ่อตั้งแต่ยังเด็ก ก่อนจะขยับเป็นร้านอาหารเหลาริมทางเพราะลูกค้าเก่าเรียกร้อง แถมเฮียหมงและภรรยายังรู้จักแหล่งซื้อของดีในราคาไม่แพง เมนูที่นี่จึงเป็นระดับภัตตาคารในราคาจับต้องได้ อาทิ หูฉลามที่ร้านขายชามละ 300 บาทเท่านั้น ส่วนเมนูขึ้นชื่อคือราดหน้าหมูนุ่ม ชิมแล้วต้องยอมรับว่าหมูนุ่มจริงและไม่ยุ่ย เส้นใหญ่ผัดได้เกรียมนิดๆ กินกับน้ำราดหน้าอร่อยมาก (เราชอบผักคะน้าอ่อนๆ ของร้านนี้จริงๆ) ส่วนข้าวผัดปูต้องบอกว่าเป็นข้าวผัดที่เราตามหามานาน คือผัดได้แห้ง ข้าวเป็นเม็ดสวย เนื้อปูเป็นปู แถมยังหอมกลิ่นกระทะ แอบถามได้ความว่าเป็นเทคนิคการผัดแบบภัตตาคารและใช้กระทะสำหรับครัวจีนโดยเฉพาะ ทีเด็ดจานสุดท้าย เป๋าฮื้อเจี๋ยนคะน้า ราคาจานละ 200 บาทขาดตัว เป๋าฮื้อแผ่นกับคะน้าอ่อนๆ กินแล้วได้ทั้งรสเค็มหวานกลมกล่อม เป๋าฮื้อก็อร่อยมาก ใครไม่ชอบคะน้าก็เปลี่ยนเป็นเจี๋ยนผักกาดแก้วได้ เตือนไว้ก่อนว่าจานนี้สั่งมาแล้วอย่ามัวแต่คุย กินไม่ทันคนข้างๆ ไม่รู้ด้วยนะ
พิกัดความอร่อย : หน้าปากทางเข้าหมู่บ้านเสนาวิลล่า แฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 11.00-20.30 น. (หยุดวันศุกร์)
โทร : 08-6556-5576
★ Steak Chef Odd : อร่อยกับ ‘เชฟอ๊อด’ ★
เราเคยอุดหนุนเชฟอ๊อดตั้งแต่ร้านยังเป็นซุ้มเล็กๆ ที่ทำสเต๊กอร่อยและจัดจานสวยมาก จนตอนนี้เปิดเป็นร้านใหม่แถวปากซอยอินทามระ 12 แต่ความประณีตเชฟอ๊อดนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในสายงานเชฟ อาทิ โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน ดุสิตโปโลคลับชะอำ เรดิสัน ฯลฯ และโลดแล่นในงานแคเทอริงของสายการบินชั้นนำอีกหลายปี แถมเคยทำอาหารให้ทีมฟุตบอลดังๆ อย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและทีมนิวคาสเซิลระหว่างมาเยือนบ้านเราแล้วด้วย
มาถึงร้านนี้เราบอกไว้ก่อนว่าอย่าใจร้อน ให้จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจ เพราะลูกค้าเยอะมากและใช้เวลาในการทำนานสักหน่อย แต่รับรองว่าอาหารอร่อยไม่ผิดหวัง เริ่มด้วยสเต๊กเนื้อริบอาย จัดจานมาอลังการ เนื้อหมักได้นุ่มอร่อยเข้ากับซอสเกรวีรสออกเค็มนิดๆ เสิร์ฟคู่ผักย่าง ขนมปังปิ้ง และสลัดผัก (อย่าลืมชิมแตงกวาดองเองฝีมือเชฟอ๊อด เข้ากับจานนี้มากเป็นพิเศษ) ที่เราชอบมากคือซุปไก่เชฟอ๊อด หรือที่เชฟเรียกว่า “ซุปไก่แซ่บ” ซดไปคำแรกก็ได้อารมณ์คล้ายซุปไก่ของชาวมุสลิม เชฟบอกว่าตัวเองมีเชื้อสายมาเลย์อยู่แล้ว นี่จึงเป็นสูตรเด็ดที่ได้จากคุณแม่ แต่เชฟนำมาต่อยอดด้วยการบีบน้ำเลมอนลงไปนิดหน่อย เสิร์ฟพร้อมพริกแห้งให้เพิ่มความเผ็ดได้ตามชอบ นอกจากนี้ยังมีจานเด็ดอีกทั้งไทยและเทศ อาทิ ข้าวเนื้อสันผัดปาปริกา ต้มยำกุ้งน้ำข้น ฯลฯ ให้ได้อิ่มแปล้ในราคาสบายกระเป๋า
พิกัดความอร่อย : อินทามระ 12 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 17.00-24.00 น.
โทร : 08-2713-5307
★ คำมูล ซูชิ : อาหารญี่ปุ่นจากสุดยอดเชฟอาหารญี่ปุ่น ★
สำหรับใครที่ติดตามรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยอยู่เป็นประจำคงต้องรู้จักเชฟคำมูล อาจารย์ผู้สอนเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่นให้มีวิชาติดตัวจนมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ด้วยฝีมือด้านอาหารญี่ปุ่นตลอด 36 ปีของเชฟคำมูลที่ทำงานให้กับโรงแรมและภัตตาคารชื่อดังมากมาย อีกทั้งเคยเป็นเชฟประจำตัวของเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และได้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อทำอาหารรับรองแขกวีไอพีให้ท่านทูต ทำให้เมื่อเชฟเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ เป็นของตัวเอง พื้นที่จึงไม่เพียงพอต่อจำนวนลูกค้าที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ จึงต้องขยายร้านเพิ่มจนตอนนี้มี 3 สาขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ร้านทั้ง 3 มีรูปแบบที่แตกต่างกัน อย่างที่ตึกเมืองไทยภัทร ร้านมีขนาดเล็กกะทัดรัด เมนูส่วนใหญ่เน้นกินง่ายและเร็วอย่างซูชิ ซาชิมิ และข้าวหน้าต่างๆ ว่าแล้วเชฟก็ยกซูชิเซ็ต L (8 ชิ้น) มาเสิร์ฟให้ลองชิม เราชอบความคุ้มค่าและความสดของวัตถุดิบที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เชฟทำซูชิชิ้นใหญ่เต็มคำในขณะที่ข้าวคำเล็กจิ๋ว ก่อนกินจิ้มโชยุกับวาซาบินิดหน่อย อร่อยสุโก้ย ต่อด้วยข้าวหน้าปลาดิบ เนื้อปลามากุโระ แซลมอน ซีบาส ซังมะดอง กุ้ง และเนงิโทโร่นุ่มหวาน ชิ้นใหญ่ กินกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ช่างดีงาม หรือถ้าใครไม่ชอบกินปลาดิบก็มีข้าวหน้าไก่ย่างซีอิ๊ว เนื้อสะโพกไก่หนานุ่ม ชุ่มฉ่ำซอส รสหวานกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมข้าวและซุปมิโซะกลิ่นหอม นึกถึงเมื่อไรก็อยากกลับไปกินอีก
พิกัดความอร่อย : สาขาตึกเมืองไทยภัทร ถนนรัชดาภิเษก แขวง/เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันจันทร์-เสาร์ 11.30-14.00 น. และ 17.00-20.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) *ทุกวันเสาร์ลดราคาอาหาร 10-20 %
โทร : 08-7592-6156
★ จูนิ ซูชิ : แซลมอนที่รักของเชฟหนึ่ง ★
ร้านนี้น้องเล็กและพี่หญิงใหญ่รู้จักมาจากรีวิวในเว็บไซต์ด้วยคำบรรยายที่ว่า เจ้าของร้านเคยเป็นเชฟร้านอาหารญี่ปุ่น ราคาอาหารก็แสนถูก แถมมีปลาแซลมอน (ของโปรด) ที่สดสะอาดเป็นเมนูชูโรงด้วย ไหนจะเพื่อนรอบข้างบอกว่าห้ามพลาดอีก ยังไงซะต้องไปลองชิมให้ได้
มาถึงก็เจอเชฟหนึ่งเจ้าของร้าน อดีตเคยทำงานในร้าน Zen Cucina ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมใน Central World ทำให้เขาเก็บเกี่ยวประสบการณ์และได้ความรู้มากมาย ก่อนผันตัวเองมาเปิดร้าน โดยเลือกใช้ปลาแซลมอนที่หลายคนชื่นชอบมาเป็นวัตถุดิบหลัก พร้อมดัดแปลงเป็นเมนูฟิวชัน รสชาติคุ้นลิ้นคนไทย จับเมนูนั้นมาคู่เมนูนี้ ทำเป็นเซ็ตให้เราได้ลองกินหลายๆ แบบในราคาแสนถูก ซึ่งก็ได้รับความนิยมมาก (ลูกค้าเข้าคิวรอจนล้นซอย) อย่างม้วนย่างจูนิ ข้าวปั้นคำเล็กกับปลาแซลมอนนอร์เวย์เบิร์นไฟ ทีเด็ดอยู่ตรงซอสปลาไหลโฮมเมดรสหวาน หอมหัวใหญ่ และต้นหอมซอยที่ใส่ลงไปเพิ่มกลิ่นหอมแบบไทยๆ บราซิลบอล ข้าวปั้นก้อนกลมพันเนื้อปลาแซลมอนส่วนท้อง กริลล์จนสีสวย ท็อปด้วยมายองเนสและไข่กุ้งเคี้ยวกรุบๆ มีเครื่องเคียงเป็นยำสาหร่ายญี่ปุ่นและปูอัดเพิ่มความอร่อย เมนูสุดท้ายที่มิกซ์แอนด์แมตช์ได้โดนใจเรามากคือแซลมอนซาชิมิ เนื้อส่วนท้องสีส้มสวยสลับชั้นด้วยไขมันสีขาว แล่เป็นชิ้นหนาขนาดพอดีคำ จิ้มกับโชยุกลิ่นหอมรสเค็มอ่อนๆ เสิร์ฟมาคู่กับแซลมอนจูนิ ข้าวปั้นคำเล็กทับด้วยปลาชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่มละมุนลิ้น อร่อยมากแถมถูกมากอีกต่างหาก สนนราคาแค่ 159 บาทเท่านั้นนะคะ คุณขา!
พิกัดความอร่อย : 223/4 ซอยหมู่บ้านสี่ไชยทอง ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เปิดบริการ : 12.00-21.00 น.
โทร : 08-5684-5750
★ กฤษดา สเต็ก เฮ้าส์ : อาหารฝรั่งสไตล์ไทยฝีมือเชฟกฤษดา ★
เชฟกฤษดาคือสุดยอดเชฟมือทองอีกหนึ่งคนที่เราชื่นชอบ เพราะทั้งรสชาติและหน้าตาอาหารที่ทำออกมาบอกเลยว่ายอดเยี่ยมทุกข้อ ตั้งแต่วัตถุดิบเกรดเทียบเท่าโรงแรม ทั้งล็อบสเตอร์นำเข้าจากแคนาดา ปูคิงแครบจากญี่ปุ่น ฯลฯ จัดเสิร์ฟมาในจานสวยงามเห็นแล้วชวนว้าว มิหนำซ้ำยังประยุกต์รสชาติแบบฝรั่งให้จัดจ้านสไตล์พี่ไทย กินแล้วไม่เลี่ยน ที่สำคัญราคายังสบายกระเป๋ามาก พกเงินมาแค่ 300 บาท (ต่อ 1 คน) รับรองว่าอิ่มหนำสำราญ
เชฟกฤษดาเคยเป็นเชฟอยู่ที่โรงแรมดุสิต 1 ปี ก่อนบินลัดฟ้าไปเป็นเชฟอยู่ประเทศแคนาดาและอังกฤษรวม 6 ปี หลังจากนั้นก็บินกลับมาอยู่ที่โรงแรมดุสิตอีกระยะหนึ่งแล้วจึงออกมาเปิดร้านอาหารตามความฝันด้วยงบจำนวนไม่มาก จากร้านริมทางที่มีต้นไม้ช่วยให้ความร่มเย็นก็ค่อยๆ กลายเป็นห้องแอร์ขนาดใหญ่บรรยากาศสบาย มีอาหารแบบฟูลคอร์สให้เลือกสั่งเพียบ จานแรกเราขอแนะนำซุปเผือก นอกจากสีสัน รสชาติกลมกล่อม ได้กลิ่นเผือกหอมๆ อบอวลอยู่ในปาก เชฟยังเพิ่มความอร่อยมาอีก 2 สเตปด้วยมันบดเนื้อเนียนและขนมปังกรอบให้กินแกล้มกัน สแกลลอปเบคอนก็ฟินมาก สแกลลอปกริลล์เนื้อแน่นหวาน เสิร์ฟคู่กับครีมซอสรสละมุนและมะกอกดำผัดเบคอนรสเค็ม เปรี้ยว เผ็ด ส่วนคนชอบเมนูเส้นห้ามพลาดสปาเกตตีเส้นดำผัดพริกขี้หนู รสจัดจ้าน หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ กินกับเบคอนทอดกรอบ อร่อยเข้ากัน ปิดท้ายด้วยสเต๊กล็อบสเตอร์ผักโขมอบชีส กุ้งตัวใหญ่เนื้อแน่นหวาน ส่วนหัวราดด้วยครีมซอสรสชาติเหมือนน้ำยำ ส่วนตัวกุ้งโปะด้วยผักโขมอบชีสเยิ้มๆ รับรองถูกใจเด็กอ้วนเชียวล่ะ
พิกัดความอร่อย : 416/1 ถนนประชาอุทิศ (ระหว่างซอย76-78) แขวง/เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 12.00-20.30 น., วันเสาร์-อาทิตย์ 12.00-15.00 น. และ 17.00-20.30 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร : 08-1844-9931
★ เชฟถนอม : อร่อยริมทางกับอาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิม ★
ต้องบอกว่าหากขาดร้านเชฟถนอมไปอาหารมื้อใหญ่ของเราคงไม่ครบรสชาติ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนสูตรดั้งเดิม คุณภาพระดับใกล้เคียงโรงแรม ถ้าเทียบวัตถุดิบกับราคาอาหารแล้วถือว่าไม่แพงเลย ก่อนหน้านี้เชฟถนอมเคยทำงานมาหลายโรงแรมและเป็นเฮดเชฟที่ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง เจียนนี จีอานีและจูสโต้ ในซอยต้นสน เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็มาเปิดร้านเป็นของตัวเองโดยยังคงคอนเซ็ปต์อาหารที่เชฟถนัด ซึ่งอาจมีการเพิ่มรสชาติจัดจ้าน เช่น ใส่พริกลงไปบ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังคงรากฐานความเป็นอาหารอิตาเลียนแบบเดิมไว้ชัดเจน
ร้านเชฟถนอมมีหลายเมนูชวนลอง แต่เราแนะนำว่าห้ามพลาดซี่โครงแกะย่าง (หากไม่สั่งจะเหมือนมาไม่ถึง) เด็ดตรงแกะไม่มีกลิ่นเลยสักนิดเดียว อร่อยมาก เชฟแอบกระซิบเคล็ดลับว่านอกจากสั่งแกะอย่างดีมาจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว วิธีการทำคือเลาะชั้นไขมันออกก่อน แล้วนำไปหมักง่ายๆ ด้วยพริกไทยและซอสถั่วเหลือง กริลล์ให้สุกปานกลาง ซี่โครงแกะย่างหอมฉุย เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว สปาเกตตีซอสดำกับปลาหมึกก็ต้องใช้ฝีมือไม่แพ้กัน เชฟสั่งดีปลาหมึกจากจังหวัดสมุทรสาครแล้วมารีดน้ำหมึกออก นำไปต้มกับส่วนผสมอื่นๆ แล้วค่อยผัดคลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตี กินแล้วยิ้มฟันดำเหมือนในหนังย้อนยุค (ฮา!) จานสุดท้ายเป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ผัดกับกระเทียมและไวน์ขาว โปะหน้าด้วยชีสนำเข้าจากสิงคโปร์รสมันๆ กินแล้วไม่เลี่ยนเลยนะจะบอกให้
พิกัดความอร่อย : สำนักแพทย์และอนามัย การท่าเรือแห่งประเทศไทย อาคาร2 ถนนสุนทรโกษา แขวง/เขต คลองเตย กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันอังคาร-อาทิตย์ 11.00-14.00 น. และ 18.00-22.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร : 0-2249-5064, 08-1934-7264
Tag:
, On the sidewalk, Street Food, รวมร้านอร่อย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น