5 ร้านบุฟเฟต์สุดปังในปี 2023

วันที่ 9 มกราคม 2566

 1,167 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 270 เดือนมกราคม 2566

 เริ่มต้นปีกระต่ายที่น่ารักสดใสไปพร้อมกับบรรยากาศงานเฉลิมฉลอง หลายคนถือโอกาสท่องเที่ยวและพักผ่อนกันแบบต่อเนื่อง แต่สายกินอย่างเราแน่นอนว่าร้านอร่อยคือปลายทาง ซึ่งที่ไหนจะจุใจเท่าร้านบุฟเฟต์ที่มีอาหารหลายประเภทให้เลือก หากปาร์ตี้ยังไม่สิ้นสุดอยากชวนมาปักหมุดที่ 5 ร้านบุฟเฟต์ห้ามพลาด

1. คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง
ร้านบุฟเฟต์ซีฟู้ดที่สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียล คุณนายทะเลดอง (สาขาบรรทัดทอง) คุณหนุ่ย เจ้าของร้านเล่าว่าเมนูทะเลดองเป็นเมนูโปรดที่คุณหนุ่ยและคนรักทำกินเองเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อจังหวะชีวิตลงตัว ทั้งคู่จึงเริ่มเปิดร้านขายแบบจริงจังที่ตลาดนัดนกฮูก ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกที่สาขาบรรทัดทอง

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

ไฮไลต์ของร้านอยู่ที่กุ้งหอยปูปลาส่งตรงจากเรือชาวประมงหลายแห่ง (แถมยังมีเรือของตัวเองด้วย) เรื่องคุณภาพและความสดจึงหายห่วง พ่วงด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจี๊ดจ๊าดจากน้ำมะนาวสด กินกับเมนูไหนก็แซ่บ และ “น้ำดอง” สูตรเด็ดที่ใครได้ลองก็ติดใจทั้งแบบดองซีอิ๊วและดองน้ำปลา แถมยังเลือกฟินได้กว่า 50 เมนูตลอด 2 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท+, 699 บาท+, 899 บาท+ และ 999 บาท+

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

ต้นปีแบบนี้เราเชียร์ให้เลือกราคา 999 บาท+ จะได้กินกุ้งมังกรที่มีทั้งแบบซาชิมิสดหวานและแบบเบิร์นไฟ

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

ส่วนเมนูอื่นๆ ก็จัดว่าเด็ด ไม่ว่าจะเป็นอูนิไทยรสเค็มๆ มันๆ กุ้งลายเสือ โฮตาเตะ หอยนางรม กุ้งแม่น้ำเผา ปูม้านึ่งแกะพร้อมกิน แซลมอน ปลาหมึก ปูไข่นึ่ง ปูไข่ดอง กั้งดอง ปูทะเลดอง ปูม้าดอง กุ้งดอง ฯลฯ

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง

อย่าพลาดปลากะพงทอดน้ำปลาอันเป็นทีเด็ด เพราะทางร้านทำน้ำปลาเอง รสเค็มนิดหวานหน่อย ส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาแต่ไกล ปิดท้ายด้วยของหวานที่มีให้เลือกอีกเพียบ

5 ร้านบุฟเฟต์สุดปังในปี 2023

เข้าใจแล้วว่าทำไมเป็นร้านฮิตติดเทรนด์

พิกัด : 1499 ถนนบรรทัดทอง (ปากซอยจุฬาฯ 18) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 12.00-23.00 น.
โทร. 09-0264-2649

2. Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok
บุฟเฟต์ในตำนานภายในโรงแรมรามา การ์เด้นส์ ย่านถนนวิภาวดีรังสิต ที่รวมทั้งอาหารไทยและนานาชาติมาไว้ในที่เดียว ห้องอาหารกว้างขวางนั่งสบาย รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก จะมาก๊วนใหญ่แค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

เริ่มต้นที่สเตชันเรียกน้ำย่อย เลือกซุปมาอุ่นท้องสักถ้วยแล้วตามด้วยสลัดบาร์ ตักผักสดราดด้วยน้ำสลัด โรยด้วยขนมปังกรอบและชีส ติดกันเป็น Cheese Station มุมโปรดของคนรักชีส

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

ถัดมาเป็นมุมอาหารญี่ปุ่น ซูชิและข้าวปั้นแต่ละชิ้นหน้าล้นจนมองแทบไม่เห็นข้าว

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

ต่อกันที่มุมย่างและอบ วันนี้เราได้ชิมหมูย่างกับเป็ดอบซอสส้ม น้ำซอสเข้มข้นแทรกซึมถึงเนื้อใน อีกทั้งความนุ่มฉ่ำยังถึงระดับที่ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งเพลิน

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

มาถึงมุมยำแซ่บที่เปลี่ยนความคิดเดิมๆ ว่าอาหารโรงแรมมักจะมีรสชาติกลางๆ เพราะทั้งยำทะเลและพล่าหมูย่างเปรี้ยวแซ่บถึงอกถึงใจจริง ๆ

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

ต่อด้วย Hot Dish ที่มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ข้าวขาหมู ข้าวหน้าไก่ย่าง และขนมจีนน้ำยาปู กินแกล้มไข่ต้มยางมะตูมและผักสด

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

ส่วนเมนูกับข้าวอื่นๆ ก็ชวนลิ้มลองไม่น้อยหน้าไม่ว่าจะเป็นผัดคะน้าหมูกรอบ ทะเลผัดฉ่า ปลาทอดซอสมะขาม หมูอบซอสแอปเปิล

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

ปิดท้ายที่ของหวาน เค้กมะพร้าวใบเตย ตามด้วยเค้กเผือกฝอยทอง พุดดิง มูส ไอศกรีม และผลไม้

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok

เมนูคับคั่งขนาดนี้ต้องบริหารพื้นที่ในท้องให้ดีแล้ว!

พิกัด : 9/9 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 11.30-14.00 น. (บุฟเฟต์) และ 11.30-23.00 น. (อะลาคาร์ต)
โทร. 0-2558-7888

3. รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม
“รสดีเด็ด” ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังแห่งสามย่านที่ยังคงปล่อยฝีไม้ลายมือในยุทธจักรนักกินอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดสู่ “รสดีเด็ดชาบู” และล่าสุด รสดีเด็ด อิซากายะ มุ่งเป้าเอาใจสายแฮงก์เอาต์ย่านบรรทัดทองให้มีพื้นที่นั่งกินดื่มอย่างออกรส ในแบบลานเบียร์ (ในร่ม) สไตล์อิซากายะ หรือร้านดื่มสไตล์ญี่ปุ่น

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

บรรยากาศร้านเรียบง่าย เน้นโต๊ะเก้าอี้ตัวใหญ่และมีสเปซระหว่างโต๊ะจึงไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนโต๊ะข้างๆ ด้านหนึ่งเป็นครัวเปิดที่เราจะได้เห็นมูฟเมนต์ของการปิ้งย่างอาหารเสียบไม้ตลอดเวลา ส่วนความพิเศษของอิซากายะร้านนี้ที่ไม่เหมือนร้านอื่นคือให้บริการแบบบุฟเฟต์ที่เลือกได้ 2 ราคา ได้แก่ 199 บาท และ 399 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) อิ่มจุใจกับอาหารหลากหลายเมนูได้นานถึง 2 ชั่วโมง

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

เมนูกินเล่นมี ไก่ทอดซอสนัมบัง ไก่คาราอาเกะ ไก่ทอดซอสเผ็ด และยำไก่ย่าง

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

เมนูเสียบไม้ย่าง อาทิ สะโพกไก่เสียบไม้ย่าง หมูสามชั้นเสียบไม้ย่าง เนื้อย่างเสียบไม้ ท้องปลาแซลมอนเสียบไม้ย่าง เมนูไฮไลต์ยกให้สเต๊กเนื้อแองกัส เนื้อนุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก ตามด้วยเสือร้องไห้ และสเต๊กหมูคุโรบูตะ หมูนุ่มเคี้ยวง่ายหอมพริกไทยขึ้นจมูก

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

ส่วนเมนูข้าวลองข้าวผัดกระเทียม หมูสามชั้นผัดซอสญี่ปุ่น ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าหมู

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม

ปิดท้ายด้วยโอเด้งร้อนๆ ซดคล่องคอ

พิกัด : ตึกรสดีเด็ด ถนนบรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 17.00-24.00 น.
โทร. 06-3424-2698

4. Rain Tree Café
ใครอยากฉลองต้นปี 2023 แบบรื่นเริงหรูหรา ห้องอาหารเรน ทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) ของดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทลน่าจะตอบโจทย์ ทั้งเรื่องการออกแบบด้วยสไตล์ไทยนีโอ-โคโลเนียลที่ได้แนวคิดจากพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับแสงแดดอุ่น ส่วนพื้นปูด้วยเซรามิกสีดำสลับขาวลายตารางหมากรุก พร้อมด้วยห้องส่วนตัว 2 ห้องคือห้องวไลยา และห้องเดอะ ซีเครต การ์เด้น

Rain Tree Café

สำหรับบุฟเฟต์ของเรน ทรี คาเฟ่ ดูแลโดยเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ Jeremy Harris เลือกอิ่มได้ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อค่ำ รวมถึงซันเดย์บรันช์ นอกจากเมนูนานาชาติยังมีเมนูพิเศษจากหัวหน้าเชฟของแต่ละห้องอาหารหมุนเวียนมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นซุป ชีสและโคลด์คัต ซีฟู้ดสดใหม่ทั้งปูอะลาสกา กุ้งแม่น้ำ หอยนางรมสด กั้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ คาเวียร์ ซูชิและซาชิมิ พาสตา สเต๊กที่มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อแกะนำเข้า เนื้อหมู ไส้กรอก

Rain Tree Café

Rain Tree Café

นอกจากนี้ยังมีอาหารอินเดีย อาหารไทย ติ่มซำร้อนๆ สลัดบาร์ 

Rain Tree Café

Rain Tree Café

Rain Tree Café

พร้อมโซนขนมหวานที่สายหวานน่าจะถูกใจ เพราะเลือกได้ทั้งขนมไทย เบเกอรี่ ผลไม้และช็อกโกแลตฟองดู รวมถึงไฮไลต์อย่างไอศกรีมโฮมเมดเย็นฉ่ำหลากรสชาติ

Rain Tree Café

Rain Tree Café

แถมในช่วงเทศกาลที่ห้องอาหารจะมีเมนูพิเศษให้เฉลิมฉลองอย่างเต็มอิ่มอีกด้วย

พิกัด : ชั้นล็อบบี้ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล 61 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : มื้อเช้า 06.00-10.30 น. (850 บาท++*), มื้อกลางวัน 12.00-14.30 น. (1,300 บาท++*), มื้อค่ำ 18.00-21.30 น. (1,800 บาท++* และ 2,100 บาท++* สำหรับวันศุกร์และเสาร์), ซันเดย์บรันช์ 11.45-15.00 น. (2,600 บาท++*)
สำรองที่นั่งโทร. 0-2650-8800
*ราคารวมน้ำดื่ม ไม่รวมภาษี และค่าบริการ

5. Great Harbour
ยินดีต้อนรับสู่ท่าเรือแห่งความอร่อย Great Harbour ร้านบุฟเฟต์นานาชาติคิวยาวแห่งไอคอนสยามที่จุได้ถึง 400 ที่นั่ง ให้สายบุฟเฟต์ได้เต็มอิ่มกับ 6 สเตชัน 4 สัญชาติ กว่า 80 เมนู

Rain Tree Café

Rain Tree Café

เริ่มต้นกันที่สเตชันแรกที่เดินเข้ามาแล้วต้องพุ่งตัวไปทันทีคือสเตชันอาหารญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งซูชิและซาชิมิ หลากเมนู ไม่ว่าจะเป็นหอยปีกนก ซาบะ แซลมอน ปลาไหล และทีเด็ดอย่างซูชิเนื้อวากิวซอสเทอริยากิชิ้นใหญ่

Rain Tree Café

ใกล้ๆ กันมีอาหารทะเลสดใหม่ทั้งหอยนางรมสดจากสุราษฎร์ธานี กุ้ง หอยแมลงภู่ และกุ้งแม่น้ำเผา

Rain Tree Café

Rain Tree Café

ส่วนสเตชัน Western Food มีไฮไลต์เป็นเนื้อวัว เนื้อแกะ โคลด์คัตและชีส พร้อมด้วยเมนูค็อกเทลอย่างไข่ออนเซ็นน้ำมันทรัฟเฟิล แฮมอบน้ำผึ้ง ขาแกะอบสมุนไพร สตูเนื้อ และพลาดไม่ได้กับซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ จับคู่กับมินิครัวซองต์ก็เข้ากันดี

Rain Tree Café

ในขณะที่สเตชันอาหารจีนก็มาพร้อมเครปเป็ดย่างหนังกรอบเนื้อนุ่มที่เชฟใช้เวลาทำเกือบ 3 วัน นอกจากนี้ยังมีหมูแดง ติ่มซำ และซุปหม่าล่าที่ซดร้อนๆ แล้วคล่องคอ

Rain Tree Café

ต่อกันด้วยสเตชัน Asian Food ที่อยากให้ลองก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว นอกจากเนื้อจะชิ้นใหญ่แล้ว น้ำซุปยังหอมและกลมกล่อม (ใครไม่กินเนื้อก็เปลี่ยนเป็นหมูสไลซ์ได้) รวมถึงอาหารไทยสุดแซ่บอย่างต้มยำกุ้ง ส้มตำ ยำเนื้อ ฯลฯ

Rain Tree Café

แล้วปิดท้ายด้วยของหวานที่มีทั้งขนมไทยและเบเกอรี่

Rain Tree Café

รวมถึงไอศกรีม Häagen-Dazs ที่เลือกฟินได้แบบไม่อั้น

พิกัด : ชั้น 6 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ 12.00-14.30 น. และ 17.30-21.00 น. ช่วงเทศกาลเปิดให้บริการ 12.00-21.00 น.
โทร. 0-2055-1888
จองที่นั่งผ่าน Line : @harbour
ราคา : 999 บาท++ (ผู้ใหญ่) และ 499 บาท++ (เด็ก)
*โปรโมชันจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน


Tag: On the sidewalk, รวมร้านอร่อย

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed