เดือนแห่งความรักทั้งที จะพลาดสัญลักษณ์ประจำเทศกาลอย่างช็อกโกแลตไปก็คงไม่ครบสูตร นอกจากช็อกโกแลตแพ็กเกจสวยจะคว้าใจคนรับไปเต็มๆ แล้ว หลายร้านยังมีเมนูจากช็อกโกแลตเข้มข้นปนหวานเหมาะกับการควงแขนคนรู้ใจไปเดตที่สุด!
★ 1. Truly Scrumptious ★
พูดเรื่องเมนูช็อกโกแลตที่ฟินจนลืมไม่ลงครั้งไหนก็มีชื่อร้าน Truly Scrumptious ลอยมาเป็นชื่อแรกๆ เสมอ คุณดิ๋ง และ คุณแพรว เจ้าของร้านบอกเราว่า เป็นแฟนตัวยงของช็อกโกแลตอยู่แล้ว เมนูของที่ร้านจึงมาจากความชอบล้วนๆ โดยเฉพาะ Signature Black Beer Cake เมนูขายดีตลอดกาลที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์ เค้กช็อกโกแลตเข้มข้นแน่นหนึบ ชุ่มฉ่ำที่ใส่เบียร์ดำลงไปในเนื้อเค้กด้วย บนหน้าโปะด้วยครีมชีสซิกเนเจอร์แบบหนาจุใจ เมื่อตักกินพร้อมกับเนื้อเค้กแล้วได้ทั้งความนุ่มนวลของครีมและรสเข้มๆ ในคำเดียว ที่พิเศษกว่านั้นคือ ทุกวันพุธ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ที่ร้านจะมีเมนู Cognac Black Beer เนื้อเค้กเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือใส่คอนยัคลงไปในครีมชีสด้านบนด้วย
อีกเมนูที่เราไม่อยากให้พลาดคือ Mini Milk Oreo Pie with Strawberries & Blueberries ด้านล่างเป็นโอริโอครัสต์ ตรงกลางเป็นช็อกโกแลตกานาชหนึบๆ ด้านบนเป็นสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รีสด ดีงามไม่แพ้เมนูขวัญใจอย่าง Dark Chocolate Oreo Pie with Raspberries ที่หลายคนรักหลงเลยล่ะ
พิกัด : 197/2 ซอยสุขุมวิท 49/11 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทร. 0-2019-8080
เปิดบริการ : วันอังคาร-ศุกร์ 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 09.30-17.30 น. (ปิดวันจันทร์)
FB : Truly Scrumptious
★ 2. PEAK Chocolate Passionist ★
นี่คือร้านของคนรักช็อกโกแลตโดยแท้จริง PEAK Chocolate Passionist สะดุดตาเราตั้งแต่การจำลองหน้าร้านให้เป็นโรงงานช็อกโกแลตขนาดย่อม ภายในร้านรวบรวมช็อกโกแลตจากทั่วโลก ทั้งช็อกโกแลตพรีเมียมจากฝรั่งเศส เบลเยียม ฟิลิปปินส์ เวเนซุเอลา คิวบา รวมถึงช็อกโกแลตไทยจากจันทบุรี ลำปาง ชุมพร และ นครศรีธรรมราช มาให้ชิมกันอย่างจุใจ
เริ่มต้นด้วย ไอศกรีม Soft Serve รสดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้นในโคนกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน เคลือบช็อกโกแลต หรือจะสั่งแบบทูโทนจะได้รสหวานมันของวานิลลามาแซมด้วย อีกหนึ่งเมนูสนุก Strawberry Banana Brownie Pizza เปลี่ยนพิซซาแบบคาวให้เป็นพิซซาสายหวาน แป้งด้านล่างกรุบกรอบ ราดซอสช็อกโกแลตแบบไม่อั้น ท็อปด้วยบราวนี่ชิ้นขนาดกำลังดี กล้วยหอม และสตรอว์เบอร์รี ปิดท้ายด้วยเมนูที่เข้ากับวาเลนไทน์สุดๆ Strawberry White Chocolate Waffle วัฟเฟิลกรอบนุ่ม เสิร์ฟพร้อมผลสตรอว์เบอร์รี ไอศกรีม ราดด้วยซอสไวต์ช็อกโกแลต หอมหวานฉ่ำใจ
พิกัด : ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร. 09-6784-2942
เปิดบริการ : 11.00-22.00 น.
FB : PEAK Chocolate Passionist
★ 3. Paradai ★
ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเมืองไทยจะมีคนทำช็อกโกแลตอร่อยๆ และประสบความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วมากมาย และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโกโก้ที่ปลูกในบ้านเราอีกด้วย ซึ่งแบรนด์ Paradai เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่หลงรักช็อกโกแลตได้จับมือกันสร้างสรรค์คราฟต์ช็อกโกแลตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการถ่ายทอดรสชาติของความเป็นไทยได้อย่างน่าทึ่ง
แนะนำ Chocolate Bonbons ลูกกลมน่ากินที่มีมากถึง 15 รสชาติ โดยเฉพาะคอลเล็กชันไทยที่ดังไกลทั่วโลกอย่าง ส้มฉุน เมี่ยงคำ ต้มยำ ต้มข่า และเขียวหวาน หยิบเข้าปากรอให้ละลายช้าๆ เพื่อซึมซับรสชาติชวนว้าวซึ่งเป็นรสชาติของคาวที่เราคุ้นเคย แต่กลับผสานกลมกลืนในแบบขนมหวานได้อย่างลงตัว กินแล้วอยากกินซ้ำ ส่วนรสอื่นๆ ก็ขายดี อาทิ ชาไทย สตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก มินต์ และมิกซ์เบอร์รี และ Chocolate Bar ที่มีหลายระดับความเข้ม ได้แก่ นครศรีธรรมราช 100%, ตรัง 82%, จันทบุรี 70%, สามสหายนายจ๋า 65% ปิดจ็อบด้วยเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่มีทั้งร้อนและเย็น เข้มข้นหวานมันจนหยดสุดท้าย
พิกัด : ชั้น 3 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระราม 1 กรุงเทพฯ
โทร. 06-3525-5517
เปิดบริการ : 09.00-19.00 น.
★ 4. Maison Bleue ★
ร้านนี้ยิ่งดีต่อใจเพราะเชฟของ Maison Bleue คือ คุณมู่-จักรทอง อุบลสูตรวนิช เชฟขนมฝรั่งเศสที่เราเคยติดใจรสมือมาจากร้านเก่า Let Them Eat Cake จึงมั่นใจว่าขนมทุกชิ้นจะเต็มไปด้วยดีเทลสุดละเมียดละไม จึงไม่ใช่แค่อร่อยแต่ยังสนุกทุกคำที่เข้าปาก
เริ่มที่ Tarte Tahitienne ทาร์ตอัลมอนด์กรุบกรอบกับไวต์ช็อกโกแลตกานาช ชั้นต่อมาคือบิสกิต Génoise เสริมรสและกลิ่นด้วยน้ำเชื่อมวานิลลาตาฮิติ มูสมาสคาร์โปเนรสวานิลลา และเกลซด้วยไวต์ช็อกโกแลต Tarte Héritage เปลือกทาร์ตอัลมอนด์ ช็อกโกแลตกานาชบลอนด์ Dulcey จาก Valrhona วิปครีมคาราเมลน้ำตาลมะพร้าวอัมพวาและแห้ว Paris-Brest แป้งชูซ์ขึ้นทรงกงล้อ สอดไส้ครีมพราลีเน่ (คาราเมล-เฮเซลนัท) วิปครีมรสช็อกโกแลตนม ซอสคาราเมลและเฮเซลนัทคั่ว และ All-Chocolate St. Honoré รวมช็อกโกแลตหลากรสในหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพสทรีครีมช็อกโกแลต วิปครีมช็อกโกแลต กระทั่งฐานก็ทำจากแป้งพายชั้นและแป้งชูซ์รสช็อกโกแลต ส่วนเครื่องดื่ม Parisian-Styled Hot Chocolate with Grand Marnier ช็อกโกแลตร้อนใส่เหล้ากรองด์มานิเย่ รสขมนิดๆ เข้ากันดีกับรสเข้มของดาร์กช็อกโกแลต เพิ่มมิติของรสชาติอีกระดับ
พิกัด : 30/1 ซอยเมธีนิเวศน์ กรุงเทพฯ
โทร. 09-1796-3136
เปิดบริการ : 10.00-23.00 น.
★ 5. Chu ★
คาเฟ่ขวัญใจช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ที่เพิ่งย้ายโลเกชันใหม่มาอยู่ใจกลางสุขุมวิท โดยวันแรกที่เปิดก็มีแฟนคลับตามมาเช็กอินมากเกินคาด ด้วยเพราะร้านชูนั้นเปรียบเสมือนคอมมูนิตีของคนรักช็อกโกแลตที่ยังหลงใหลในบรรยากาศสไตล์โฮมมีที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน โดยเมนูส่วนใหญ่ยังคงเดิมใครเป็นแฟนประจำสั่งได้แบบไม่ต้องพึ่งเมนูเลย
อาทิ Peanut Butter Chocolate Lava เค้กช็อกโกแลตลาวาร้อนๆ รสหวานจัดที่ตัดรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของราสป์เบอร์รีซอร์เบต์ได้อย่างลงตัว ในชุดยังมีวิปครีมและพีนัตบัตเตอร์ช่วยเสริมทัพความอร่อย Hot Chocolate Cake เค้กช็อกโกแลตรสเข้มในแก้วมัค ท็อปด้วยมาร์ชแมลโลว์นุ่มหนึบที่ร้านทำเอง ส่วนเครื่องดื่มต้องไม่พลาด Special Hot Chocolate ช็อกโกแลตร้อนซิกเนเจอร์ของร้านที่ใช้ดาร์กช็อกโกแลต 70% รสชาติออกหวาน ใส่อเมริกันมาร์ชแมลโลว์ชิ้นโตแล้วโรยผงโกโก้ตามเพิ่มความเข้มข้นแบบดับเบิ้ล
พิกัด : ซอยสุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทร. 09-1545-4847
เปิดบริการ : 08.00-17.00 น. หยุดวันอังคาร
Tag:
On the sidewalk, ช็อกโกแลต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น