ไม่เพียงชาวอยุธยาจะปลื้มปริ่มเมื่อรู้ข่าวว่าอยุธยาคือหมุดหมายใหม่ของมิชลินไกด์ ประเทศไทย ฉบับปี 2565 หรือฉบับที่ 5 ของไทย เพราะสายกินทั้งหลายต่างก็รอคอยด้วยหัวใจพองฟู พร้อมเต็มที่สำหรับความอร่อยติดดาวซึ่งกำลังจะมาถึง แต่ระหว่างนี้เราขอตัวไปตระเวนชิม 5 ร้านดังที่มีเมนูกุ้งเผา ของดีประจำจังหวัดกันไปพลางๆ ก่อน อยากกระซิบบอกว่าอร่อยจนอยากติดดาวให้เสียเองเลย (ฮา)

★ 1. เรือนไทยกุ้งเผา ★
ประเดิมร้านแรกที่เรือนไทยกุ้งเผาซึ่งเปิดมานานกว่า 30 ปี ตัวร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในวัดเชิงเลน บรรยากาศเต็มสิบไม่หัก เช่นเดียวกับเป้าหมายหลักของเราคือ กุ้งเผาไซส์บิ๊กกับคู่จิ้นน้ำจิ้มแซ่บที่ลูกค้าพร้อมใจสั่งมาประจำการทุกโต๊ะ กุ้งแม่น้ำร้านนี้สั่งจากเจ้าประจำที่ผูกปิ่นโตมานานจนรู้ใจว่าต้องคัดอย่างไรถึงจะไม่โดนตีคืน จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมยังคงยืนยงเป็นเบอร์หนึ่งของคนรักกุ้งเผามายาวนาน

นอกจากนี้ยังมีเนื้อก้ามกุ้งที่เป็นไฮไลต์ห้ามพลาด ทางร้านนำมาปรุงสายบัวผัดก้ามกุ้ง วัตถุดิบที่จับถูกคู่ก็ยิ่งชูรสชาติ แต่ขอเตือนว่าถ้าไม่จองก็อาจไม่ได้กิน อีกเมนูของคนรักกุ้งยกให้ทอดมันกุ้ง รสเผ็ดนิดๆ เคี้ยวหนึบเข้าที กินกับน้ำจิ้มอาจาดอร่อยเข้ากันไปหมด ก่อนจบมื้อแนะนำปิดจ๊อบด้วยปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ รสชาติเค็มๆ มันๆ เคี้ยวได้หมดทั้งเนื้อและก้าง สิ่งที่เสริมให้จานนี้อร่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวต้องยกเครดิตให้กระเทียมเจียวที่ใส่มาให้แบบไม่หวง เคี้ยวเพลินจนไม่อยากหยุดปาก

พิกัด : 1/2 หมู่ 4 ตำบลราชคราม อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทร. 08-1269-5061
เปิดบริการ : 10.00-18.00 น.
 

★ 2. บ้านอยุธยารมณ์ ★
ร้านที่ชวนให้รื่นรมย์สมชื่อ ใครอยากสัมผัสบรรยากาศเรือนไทยโบราณที่เหมือนได้เดินทางข้ามมิติของเวลา บ้านอยุธยารมณ์ตอบโจทย์ที่สุด ภายในบริเวณอันกว้างขวางเป็นที่ตั้งของเรือนไทยงดงามหลายหลัง มีมุมให้เลือกนั่งชิลได้อย่างเป็นส่วนตัวหลายโซน

ส่วนทีเด็ดของร้านยกให้กุ้งเผากับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด กุ้งแม่น้ำร้านนี้ไซส์กำลังดี เนื้อแน่นสดหวาน หัวเป็นมันเยิ้มชวนกิน เสิร์ฟมาแบบควันฉุย เรื่องกลิ่นหอมไม่ต้องพูดถึงเพราะโชยมาก่อนจะเสิร์ฟถึงโต๊ะเสียอีก ราดน้ำจิ้มรสแซ่บเน้นๆ อร่อยน้ำตาไหล นอกจากนี้ยังมีหมูโสร่งที่อยู่ในลิสต์ห้ามพลาด วิธีกินที่เพิ่มอรรถรสให้หยิบหมูโสร่งวางบนสับปะรด ราดน้ำจิ้มแล้วเคี้ยวพร้อมกัน จะเสริมรสชาติให้อร่อยถึงเครื่องยิ่งขึ้น อีกเมนูคือปลาน้ำเงินทอดกระเทียมพริกไทยอ่อน เนื้อปลากรุบกรอบ กินแกล้มพริกไทยแดงและกระเทียมเจียวหอมๆ

พิกัด : 1/1 หมู่ 7 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทร. 0-3580-1279, 09-5564-2426
เปิดบริการ : 10.00-21.00 น.
 

★ 3. บ้านป้อมเพชร ★
สมกับเป็นเดสติเนชันแห่งใหม่ของอยุธยาสำหรับบ้านป้อมเพชร ร้านอาหารไทยที่ใครๆ ก็อยากมาเช็กอิน เพราะที่นี่ออกแบบได้สวยงามกลมกลืนไปกับเมืองเก่าโดยเฉพาะ “ป้อมเพชร” โบราณสถานแห่งสำคัญ ตัวร้านเน้นใช้อิฐสีแดงสลับกับงานไม้ มีต้นโพธิ์ต้นใหญ่คอยให้ร่มเงา

มาถึงบ้านป้อมเพชรทั้งทีจะพลาดของดีประจำถิ่นอย่างกุ้งแม่น้ำเผาคงไม่ได้ กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ย่างได้สุกกำลังดี เนื้อแน่นเด้ง มาพร้อมมันเยิ้มๆ ตักสักคำมาราดข้าวสวย กินกับสะเดาน้ำปลาหวานและน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดดวง มัดใจเราได้ตั้งแต่คำแรก ตามด้วยแกงคั่วเนื้อปู ได้ทั้งความเข้มข้นจากพริกแกง ความหอมมันจากกะทิ และกลิ่นหอมจากใบชะพลู

อีกจานห้ามพลาดคือลูกชิ้นปลากรายผัดฉ่า จานนี้รับประกันความเผ็ดร้อน เพราะใส่ทั้งเครื่องเทศและสมุนไพรหลายชนิด ส่วนลูกชิ้นปลากรายก็หนึบหนับเคี้ยวสนุก ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ แล้ว

พิกัด : 13/5 ถนนอู่ทอง ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทร. 0-3524-2242
เปิดบริการ : 10.30-21.00 น.
 

★ 4. The Wine Ayudhya ★
อยุธยามีแต่ร้านน่านั่ง เช่นเดียวกับร้านนี้ที่ชวนตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะออกแบบโดยสถาปนิกเจ้าของรางวัลระดับโลก เราจึงได้เห็นตัวอาคารรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมที่ทำจากเหล็กและไม้อัด รวมถึงบันไดวนที่สื่อถึงที่เปิดขวดไวน์ คล้องไปกับชื่อร้านอย่างไรอย่างนั้น

เมนูของที่นี่โดดเด่นทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ที่สำคัญคือมีกุ้งเผาตัวโตๆ รออยู่ด้วย กุ้งแม่น้ำคัดไซส์พิเศษ มันเยอะ เนื้อสดหวานไม่แพ้ร้านไหน ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดชวนให้เจริญอาหาร อย่าพลาดแกงขาว แกงโบราณเน้นเครื่องสมุนไพร ได้รสเปรี้ยวจากหน่อไม้ดอง

ปิดท้ายด้วยปลากะพงราดพริกขี้หนูที่ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยกระเทียมผัดพริกขี้หนูปรุงรสให้เปรี้ยวหวานเค็ม กินกับข้าวสวยสักจาน 

มื้อนี้อิ่มแปล้

พิกัด : ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทร. 08-1942-1666
เปิดบริการ : 11.00-22.00 น.
 

★ 5. The Summer House ★
ปิดท้ายทริปอยุธยากันที่ The Summer House บ้านสีขาวริมแม่น้ำที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์โฮมคุกเหมือนได้ไปกินข้าวที่บ้านเพื่อน ภายในร้านจึงให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเอง ส่วนภายนอกเป็นสนามหญ้าให้เราออกไปนั่งชิลรับลมริมน้ำได้ในยามเย็น

เมนูเด็ดของร้านนี้ต้องยกให้สปาเก็ตตีต้มยำกุ้ง ที่นอกจากซอสต้มยำจะจัดจ้านและครีมมี่แล้ว ยังเพิ่มดีกรีความอร่อยด้วยการเสิร์ฟคู่กับกุ้งแม่น้ำย่าง สาวเส้นสปาเก็ตตีสลับกับกุ้งย่างเนื้อหวานๆ ตามด้วยมันกุ้งเยิ้มๆ แป๊บเดียวก็หมดจาน ถัดมาเป็นเมนูลูกครึ่ง ซีซาร์สลัดปลาเค็มที่นำปลาอินทรีเค็มทอดหอมๆ ไปปั่นรวมกับน้ำสลัดซีซาร์ ได้ความเค็มมันเมื่อกินกับผักสลัด ขนมปังกรอบ และเบคอน เข้ากันดีอย่างน่าแปลกใจ

รวมถึงสลัดเนื้อปูมะละกอ จานนี้สดชื่นมาก สลัดเนื้อปูเน้นๆ เสิร์ฟมาในมะละกอแช่เย็นให้เราได้กินเนื้อมะละกอหวานฉ่ำไปพร้อมกันด้วย ถึงกับวางช้อนไม่ลงเลยล่ะ

พิกัด : 71/1 หมู่ 6 ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทร. 09-4224-2223
เปิดบริการ : 09.30-21.30 น.

Tag: On the sidewalk, กุ้งแม่น้ำ