สถานที่พิเศษๆ ก็ต้องเหมาะกับโอกาสพิเศษอย่าง “วันวาเลนไทน์” วันดีๆ ที่เหมาะจะพาคนรักไปรับประทานดินเนอร์หรูท่ามกลางแสงเทียน ใครกำลังมองหาโลเคชั่นลองดู 10 ร้านโรแมนติกนี้แล้วเตรียมปักหมุดไว้เลย เพราะเขาเสิร์ฟอาหารอร่อย มีบรรยากาศสวยโรแมนติกให้ดื่มด่ำ พร้อมทำให้วันแห่งความรักของคุณน่าประทับใจไม่รู้ลืม
★ 1. Karmakamet Conveyance ★
ร้านอาหาร Fine Dining ในซอยสุขุมวิท 49 ที่สัมผัสได้ถึงความหรูหราและความสบายเพียงแค่ย่างก้าวเข้ามาภายใน พื้นไม้สีน้ำตาลเข้มเข้ากันดีกับผนังสีขาวสะอาดตา มีผนังอิฐปูนเปลือยล้อมรอบห้องสีขาวเอาไว้ ให้ความรู้สึกถึงความเป็นสตรีทเท่ๆ ร่วมไปกับผนังบล็อกแก้วใสที่ช่วยนำแสงจากธรรมชาติเข้ามาสู่ภายในทำให้ร้านดูกว้างขวาง ปลอดโปร่งไม่แออัดแม้จะสามารถจุลูกค้าได้เพียง 24 ที่นั่ง
เมนูแนะนำ :
- Pradu Village เมนูแรกที่เราแสนจะประทับใจ ซูชิปลาค็อดรมควัน เนื้อหวานสด ให้สัมผัสนุ่มนวล หอมกลิ่นสโมคเบาๆ เคล้าไปกับข้าวที่ผสมผสานสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆ รสเผ็ดร้อน อร่อยจนอยากกินอีกคำ
- Keawkaika กุยช่ายทอดที่เราคุ้นเคย กลิ่นหอมฟุ้งชวนหิว แป้งบางๆ กรอบนอกนุ่มใน อัดแน่นไปด้วยผัก เข้ากันดีกับพริกน้ำส้มรสเปรี้ยวเผ็ด
พิกัด : 1 1/1 ซอย สุขุมวิท 49 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
เปิดบริการ : 18.00 – 23.00 น.
โทร. 02-004-3997
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Karmakamet Conveyance ร้านอาหารที่ไร้นิยาม แต่สร้างความสุข
★ 2. Côte by Mauro Colagreco ★
ร้านไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ของโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ที่จีบเชฟชื่อดัง เมาโร โคลาเกรคโค เจ้าของร้านมิชลินสตาร์ “มิราซูร์” (Mirazur) อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มาเปิดร้านที่ถนนเจริญกรุง เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์ร่วมสมัย โดยมีเมนูเด็ดที่ได้รับความนิยมจากร้านมิราซูร์มาเสิร์ฟแบบไฟน์ไดนิ่งในคอนเซ็ปต์ Riviera to the River ส่งผ่านความอร่อยจากเฟรนช์ริเวียร่าสู่ลุ่มเจ้าพระยา
เมนูแนะนำ :
- อูนิกับดอกกะหล่ำ เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กๆ ต้องตักลึกให้ถึงก้นถ้วยจะได้ทั้งอูนิหวานมัน ดอกกะหล่ำกรุบๆ ฮอสแรดิชฉุนซ่า และโฟมอัลมอนด์หอมนุ่มๆ ได้รสชาติและสัมผัสที่หลากหลายในคำเดียว
- นกพิราบ จานที่เสิร์ฟแบบเดียวกับที่ฝรั่งเศส เสิร์ฟทั้งเนื้อส่วนขา และส่วนอกที่ย่างมาเล็กน้อยให้หนังมีกลิ่นหอม และสันในแบบแรร์ กินกับบาร์เลย์ริซอตโตผัดมานุ่มหนึบ ทีเด็ดที่ซอสจูส์นกพิราบและวีเนแกรตงาดำรสเข้มข้น ทำให้เข้ากับเนื้อนกพิราบได้เป็นอย่างดี
พิกัด : โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ 300/2 ถนนเจริญกรุง ยานนาวา สาทร กทม. 10120
เปิดบริการ : วันพุธ-อาทิตย์ 12.00-14.00 น. และ 18.00-22.00 น.
โทร. 0-2098-3888
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Côte by Mauro Colagreco จากริเวียร่าสู่เจ้าพระยา
★ 3. HOBS ★
บาร์วิวดี ที่มีโลเคชั่นติดอยู่กับร้าน Fallabella River Front ให้คุณได้สัมผัสลมเย็นๆ ที่มากระทบใบหน้า ช่วยผ่อนคลายความร้อนและความอบอ้าว มองไปเบื้องหน้าจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาผืนกว้าง ตึกสูงน้อยใหญ่ที่ทำให้เมืองกรุงฯ กลายเป็นป่าคอนกรีต ถึงแม้ว่าจะดูวุ่นวายแต่ก็งดงามอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน นอกจากจะตกแต่งสถานที่ให้คุณดื่มด่ำกับวิวสวยๆ แล้ว ฮอบส์ยังให้คุณผ่อนคลายไปกับดนตรีสดแสนไพเราะ เคล้าอาหารโฮมเมดนานาชาติอันหลากหลาย
เมนูแนะนำ :
- Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นบิ๊กเบิ้ม ขนมปังบันนุ่มๆ ประกบเนื้อทอดหอมฟุ้งสีเหลืองทองน่ากิน ที่ด้านในซ่อนชีสครีมมีเยิ้มๆ เอาไว้ กัดกินพร้อมกันสร้างความเซอร์ไพรส์ให้เราไม่น้อยเลย เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอด ข้าวโพดย่าง และมันบดเนื้อเนียน
- Mussels Leffe หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวอ้วน คลุกเคล้าไปกับซอสสูตรโฮมเมดที่ทำมาจากเบียร์ ให้กลิ่นหอมๆ และรสเปรี้ยวอมหวาน
พิกัด : 299 Soi Charoen Nakhon 5 ถ. เจริญนคร แขวง คลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
โทร. 095-197-1905
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ชิลล์เอาท์ที่ HOBS บาร์วิวสวยแห่ง ICONSIAM
★ 4. Fallabella River Front ★
“Fallabella River Front” สาขาที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 6 ชื่อ “ทัศนานคร เทอร์เรซ” ในห้างแห่งความภูมิใจของคนไทยอย่าง ICONSIAM ตัวร้านเป็นเอาท์ดอร์เปิดโล่งรับลมทั้งหมด พื้นและเฟอร์นิเจอร์สีเทาพรีเซนท์ถึงความทันสมัย มีทั้งโต๊ะดินเนอร์แบบคู่รัก หรือโต๊ะใหญ่ๆ สไตล์ครอบครัว แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่มุมไหนก็จะสามารถชื่นใจไปกับวิวหลักล้านของท้องฟ้ากว้าง และความสงบงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างถนัดตา
เมนูแนะนำ :
- Orange and Prosciutto Aged Goat Cheese Salad ผักต่างๆ อาทิ หัวหอม กะหล่ำม่วง ผักสลัด ส้มโอรสเปรี้ยวอมหวาน พาร์มาแฮมรสเค็ม ซีสนมแพะครีมมี คลุกเคล้ากับน้ำสลัดบัลซามิก ทำให้จานนี้กลายเป็นสลัดที่กินแล้วสดชื่น
- Fallabella Rustica พิซซ่าเตาถ่าน กรอบนอกนุ่มในหน้าชีสมอซซาเรลลา พาร์มาแฮม หอมกรุ่นกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิล
พิกัด : 299 ซอย เจริญนคร แขวง คลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
เปิดบริการ : 11.00 – 22.00 น.
โทร. 096-892-6425
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ชมวิวหลักล้าน รับประทานอาหารฟิวชั่น ที่ Fallabella River Front @ICONSIAM
★ 5. ABar Rooftop ★
รูฟท็อปบาร์ที่ฮอตที่สุด ณ ขณะนี้ ของโรงแรมแบ็งคอก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ที่ขอขีดเส้นใต้เอาไว้ตรงนี้ว่าสายปาร์ตี้ห้ามพลาด เพราะมีไฮไลต์เป็นวิวของกรุงเทพฯ ที่มองเห็นได้กว้างสุดสายตา โดยเฉพาะช่วงโพล้เพล้ที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีส้ม ยิ่งทำให้ที่นี่สวยเป็นพิเศษ และยังเป็นบาร์ที่รวมรวม Gin ไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เครื่องดื่มของเอบาร์จึงดีไซน์แต่ละแก้วออกมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ถึงอย่างนั้นเมนูม็อกเทลก็เก๋ไม่แพ้กัน
เมนูแนะนำ :
- Rose Tea ชากุหลาบที่สดชื่นทุกครั้งที่ยกขึ้นจิบ มีผลสตรอว์เบอร์รี่สดให้เคี้ยวได้เพลินๆ หอมหวานจากน้ำผลไม้และสดชื่นจากใบสะระแหน่ แก้วถัดมาให้อารมณ์เข้มและเท่
- Spicy Tuna Taco ทาโก้ที่ใช้แป้งเกี๊ยวทอดจนกรอบสอดไส้สลัดทูน่าที่ปรุงรสได้จี๊ดจ๊าดดี
พิกัด : โรงแรมแบ็งคอก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ชั้น 38 คลองเตย กรุงเทพ
เปิดบริการ : พุธ-อาทิตย์ 17.00-23.00 น.
โทร. 0-2059-5999
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : ไปนั่งชิลบนดาดฟ้าที่ ABar Rooftop @โรงแรมแบ็งคอก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค
★ 6. สิริมหรรณพ ★
สิริมหรรณพ เป็นเรือที่มีต้นแบบมาจากเรือสำเภาสามเสาของราชนาวีไทย หรือ “เรือทูลกระหม่อม” ซึ่งเป็นเรือพาณิชย์ที่นำสินค้าจากสยามไปค้าขายยังต่างประเทศในช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นแรกคือดาดฟ้าเรือ (Upper deck) มีบาร์เครื่องดื่มพร้อมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนชั้นล่างนั้นอยู่ใต้ท้องเรือ (Lower Deck) ก็จะได้อีกบรรยากาศที่เงียบสงบ
เมนูแนะนำ :
- Slow-cooked Chicken Thigh เมนูนี้ประกอบไปด้วยเครื่องเทศที่สดใหม่เพราะเรือสิริมหรรณพเทียบท่าอยู่ไม่ไกลจากเจริญกรุงและเยาวราช ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายเครื่องเทศสำคัญของกรุงเทพมหานคร และยังหยิบจับผักดอง (Pickle) ที่เป็นอาหารตะวันตกมาตัดกับรสชาติของน้ำซอสถั่วลิสงรสชาติหวานมัน เข้ากับเนื้อไก่นุ่ม ๆ กินกับข้าวตังเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบ
- Oyster หอยนางรมสด ๆ เหล่านี้คัดเลือกมาจากทุกแหล่งทั่วทุกมุมโลก เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านสไตล์ไทยแท้ และ Pineapple Vinegar ที่ให้รสเปรี้ยวตัดกับรสของหอยนางรมได้ดี ได้อีกรสชาติที่แตกต่าง
พิกัด : ท่าเรือ ASIATIQUE The Riverfront ถ.เจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 16.00 – 23.00 น.
โทร. 02-059-5999
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : สิริมหรรณพ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ท่าเรือ ASIATIQUE The Riverfront
★ 7. Stage ★
ถ้าคุณรู้สึกว่าการเข้าร้านอาหาร Fine Dining เป็นเรื่องยาก เราขอแนะนำให้สตาร์ทจากร้านที่มีบริการคล้ายกัน แต่ให้ความรู้สึกสบายกว่าอย่างประเภทร้าน Casual Fine Dining ก่อน เพราะนอกจากราคาไม่แรงเท่า คุณยังได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ อาหารอร่อย ถ่ายรูปสวย แถมบริการที่ต้องประทับใจแน่ๆ ใช่แล้ว! เรากำลังพูดถึง Stage (สตาช) ร้านที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเพื่อให้ทุกคนจะได้สัมผัสเรื่องราวผ่านรสชาติอาหารที่ทีมเชฟเตรียมมาบอกเล่าจากจุดเริ่มต้นที่สั่งสมประสบการณ์จาก L’Atelier de Joel Robuchon กรุงเทพฯ มาด้วยกัน
เมนูแนะนำ :
- ปู Brown Crab และข้าวโพด Milk Corn ที่ได้พันธุ์จากฮอกไกโดมาปลูกในไทยเนื้อปูหอมเครื่องเทศ กับข้าวโพดเบิร์นไฟเล็กน้อยยิ่งเพิ่มความหอม ชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟข้างวานิลลาโฟมนุ่มๆ ยิ่งรู้สึกดีปิดท้ายด้วยอูนิที่สดมากๆ เนื้อเนียนละเอียด ละลายในปากถือว่าฟินนาเล่มาก
- Dessert Trolley ประกอบด้วยขนม 5 แบบ ได้แก่ ไอศกรีมทรัฟเฟิล, ช็อกโกแลตสอดไส้เฮเซลนัท, เชอร์รี่สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตมูส, มาร์ชเมลโล่พีชกับน้ำผึ้ง และบานาน่าครัมบ์สอดไส้งาดำ
พิกัด : 359/2 เอกมัยคอมเพล็กซ์ ถ.สุขุมวิท 63 (เอกมัย) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 12.00 – 20.00 น.
โทร. 02 002 5253
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Stage (สตาช) กับอาหารสไตล์นอร์ดิก พร้อมกิมมิกแบบ Casual fine dining จากเชฟเจย์–สายนิสา
★ 8. Maze Dining ★
ลีลาดุเดือดและจริงจังกับการแข่งขัน ทำให้หลายคนสมัครเป็นแฟนคลับของ เชฟเมย์-พัทธนันท์ ธงทอง ผู้เข้าแข่งขันรายการ Top Chef Thailand แทบจะทันที ก่อนหน้านี้ต้องบินไปถึงเชียงใหม่เพื่อชิมฝีมือเชฟเมย์ แต่ตอนนี้แฟนคลับไม่ต้องไปไกลแล้วเพราะเธอมาเปิดร้านใหม่สไตล์ไฟน์ไดนิ่งที่กรุงเทพฯ ที่มีดีทั้งร้านสวยและเมนูที่มีความสร้างสรรค์ในสไตล์ของเธอเข้าไว้ด้วยกัน
เมนูแนะนำ :
- Phuket Lobster & Green Shooter เมนูไฮไลท์ที่ได้ไอเดียจากกุ้งแช่น้ำปลากับยำมะม่วง แต่ครีเอทหน้าตาใหม่โดยใช้ภูเก็ตล็อบสเตอร์สดๆ ช็อกที่อุณหภูมิ -347 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและพยาธิต่างๆ ให้เรากินดิบได้อย่างปลอดภัย จากนั้นเก็บไว้ในอุณหภูมิ -40 องศาเซลเซียสตลอดเวลาจนกว่าจะเสิร์ฟ เนื้อล็อบสเตอร์จะเด้งนุ่มหนึบเหมือนไอศกรีมเย็นๆ เสิร์ฟพร้อมคาร์เวียร์น้ำปลาหวาน ใช้น้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวา ในแก้วชอตใบเล็กคือ กรีนแมงโก้โมฮิโต้ เป็นน้ำมะม่วงดิบสกัดเย็น เชครวมกับใบสะระแหน่ พริกขี้หนู ได้รสชาติแบบยำมะม่วง ต้องกินล็อบสเตอร์กับคาร์เวียร์แล้วเคี้ยวให้แตกในปาก จากนั้นจิบชอตตามเข้าไปแล้วกลืน จานนี้ได้รสเค็มหวานและรสเปรี้ยวสดชื่นจริงๆ
- Mountain to the sea แซลมอนกับกาแฟเป็นจานที่เชฟใช้ในการแข่งขัน Top Chef แล้วชนะในโจทย์ประจำสัปดาห์ ใช้แซลมอนหมักกับน้ำตาลทรายแดงและเกลือหรือเรียกว่า กราฟลักซ์ เพื่อดึงความชื้นออกและเนื้อปลาจะเฟิร์มขึ้น หมักไว้ 12 ชั่วโมง ล้างแล้วอบที่ 90 องศาเซลเซียส นาน 7 นาที ทีเด็ดคือกาแฟจาก อ.โป่งแยง จ.เชียงใหม่ ทำเป็นคาร์เวียร์กาแฟเม็ดเล็กกลม ทำซอสกาแฟกับน้ำส้มสดที่ต้มจนงวดแล้วทาบนเนื้อปลา และสุดท้ายซอสต้มข่ากาแฟ เสิร์ฟกับแยมเซเลอรี ได้รสเปรี้ยวหวานเค็ม และชิพทำจากหนังปลา เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอุ่นๆ สไตล์ฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบ
พิกัด : 114/3 Setsiri R, แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เปิดบริการ : 11.30 – 14.30 และ 18.00 – 21.30 น.
โทร. 061 549 9500
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Maze Dining ไฟน์ไดนิ่งร้านใหม่ของเชฟเมย์ Top Chef Thailand
★ 9. Keller ★
ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งบรรยากาศสวยที่ซอยสวนพลู โดยเชฟเมอร์โค เคลเลอร์ อดีตเชฟจากร้าน Water Library จามจุรีสแควร์ ผู้มีประสบการณ์ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน ที่นี่เสิร์ฟอาหารยุโรปร่วมสมัยผสมผสานเทคนิคการทำอาหารสไตล์คลาสสิค เมื่อก้าวเข้ามาในร้านจะพบกับบรรยากาศสบายและเรียบหรู ที่นั่งโซฟากำมะหยี่ทรงโค้งให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว มองเห็นเชฟทำงานในครัวผ่านกระจกบานใหญ่
เมนูแนะนำ :
- Fish Mousse ปลาฮามาจิสดเนื้อนุ่มโรยหน้าไข่ปลาเทร้าท์สีส้มสดใส หอมกลิ่นสดชื่นจากเลมอน เสิร์ฟพร้อมข้าวเกรียบกุ้งทำเองหอมกรอบ เป็นจานแรกที่เริ่มต้นได้ดี
- Charred Galician Octopus หนวดปลาหมึกยักษ์ชิ้นใหญ่เนื้อนุ่มหนึบ เสิร์ฟกับเซเลอรีแอคโพเลนต้าเนื้อเนียนกลิ่นหอม และซอสเนยไวน์แดงรสกลมกล่อม
พิกัด : 31 สวนพลูซอย 2 สาทร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันจันทร์ - ศุกร์ 17.30 – 23.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ 11.30 – 14.30 และ 17.30 – 23.00 น. (ปิดวันอังคาร)
โทร. 02 092 7196
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Keller ลิ้มรสไฟน์ไดนิ่งกับเชฟเมอร์โค เคลเลอร์
★ 10. Le Normandie ★
Le Normandie คงกลิ่นอายดั้งเดิมแต่เสริมเพิ่มความทันสมัยเข้ามา ที่นี่ยังคงโทนสีเหลืองทองเอาไว้ แต่ปรับเพดานให้โปร่งขึ้นด้วยการนำผ้าไหมสีเหลืองทองออกแล้วเติมแชนเดอเลียร์เข้าไปแทน เพิ่มความสวยงาม หรูหรา และสบายตามากขึ้น เปลี่ยนลวดลายของพรม และเพิ่มมุมเครื่องดื่มก่อนและหลังมื้ออาหารขึ้นมา
เมนูแนะนำ :
- Roasted Duck Foie Gras ฟัวกราส์อบกินกับส้มหลากหลายชนิดที่ให้รสเปรี้ยวหวานขมผสมกันไป ราดด้วยซอสที่ใช้น้ำเกรวีจากเป็ด
- BurgaudChallans Duck อกเป็ดจากเมืองทางตะวันตกของฝรั่งเศสอบแบบมีเดียมแรร์เพื่อให้นุ่มและชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำสต๊อกเป็ดที่เคี่ยวจนงวด กินกับบีตรูตพูรีและชัตเนย์ผลไม้ เนื้อเป็ดนุ่มหอม เพิ่มรสชาติด้วยชัตเนย์ผลไม้ที่มีความหวานเปรี้ยวและหอมสมุนไพร
พิกัด : โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซอยโอเรียนเต็ล ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 12.00 – 14.00 และ 19.00 – 22.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
โทร. 02 659 9000
อ่านรีวิวเพิ่มเติม : Le Normandie โฉมใหม่ที่ยังคงคลาสสิก
Tag:
รวมร้านอร่อย, ร้านกาแฟ, วาเลนไทน์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น