รายงาน 10 เทรนด์อาหารสุดฮิตที่ควรลองไปชิมกันก่อนหมดปี เพื่อที่ปีหน้าฟ้าใหม่เราจะได้อิ่มอร่อยกับของใหม่แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
1. Cold Brew Coffee
เริ่มกันด้วยเครื่องดื่มสุดฮอตอย่างกาแฟที่ตอนนี้มาแรงทั้งโคลด์บริว (Cold Brew) และโคลด์ดริป (Cold Drip) แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันทั้งวิธีการและอุปกรณ์ โคลด์บริวใช้การบดเมล็ดกาแฟแบบหยาบ โดยใช้น้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องตามสัดส่วนที่เหมาะสมแล้วทิ้งไว้ให้กาแฟถูกสกัดออกมาในเวลาประมาณ 12-24 ชั่วโมง แล้วกรองเอากากออก ในขณะที่โคลด์ดริปส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ตามที่แต่ละแบรนด์ออกแบบ แต่มีหลักการเดียวกันคือ มีโถใส่น้ำ โถใส่เมล็ดกาแฟที่บดแล้ว และมีก๊อกเปิดปิดเพื่อให้ปริมาณน้ำหยดลงไปตามระยะเวลาที่กำหนด เหมือนเครื่องกรองน้ำแต่กรองน้ำกาแฟแทน กาแฟโคลด์บริวไม่เพียงเป็นที่นิยม แต่ยังเพิ่มความเหนือล้ำด้วยการอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปเรียกว่าไนโตรโคลด์บริว (Nitro Cold Brew) ทำให้เกิดพรายฟองคล้ายเบียร์และให้สัมผัสที่เย็นฉ่ำกว่าโคลด์บริวปกติ
พิกัดความอร่อย
Cold Brew
- Roots The Commons ทองหล่อ โทร. 09-7059-4517
- Dakasi ทุกสาขา FB : dakasithailand
Nitro Cold Brew
- Kaizen Coffee Co. ระหว่างซอยเอกมัย 26-28 โทร. 09-8831-6009
- Bhava Café ซอยนราธิวาส 1 ตลาดสีลมสแควร์หลังตึก ITF โทร. 08-6898-0800
- Pacamara Coffee Roasters x Specialty Coffee Lab ซอยทองหล่อ 25 โทร. 09-0930-9340
2. Tea Latte with Espresso
จะว่าไปแล้วการดื่มชาผสมกาแฟเป็นอะไรที่ดูมึนๆ อยู่หน่อยๆ จำได้ว่าเมื่อแรกเห็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจเลยก็คือ "มันจะกินได้เหรอ!?!" แต่เมื่อแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่อย่างสตาร์บัคส์ (Starbucks) ออกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ในนาม "ทีวาน่า (Teavana)" พร้อมกับเปิดตัว Iced Matcha & Espresso Fusion ก็ทำให้เครื่องดื่มชาผสมกาแฟกลับมาคึกคักกลายเป็นหนึ่งในเมนูฮอตฮิตในคาเฟ่บ้านเรา พร้อมกับช่วยยืนยันว่าเมนูนี้กินได้จริงนะ (ฮา!) ซึ่งระเบียบวิธีดื่มเครื่องดื่มแบบนี้ให้อร่อยอย่างสูงสุดนั้น สิ่งแรกคือห้ามเขย่ารวมกันเด็ดขาด (เดี๋ยวรสชาติจะปนเปจนปวดใจ) แต่ให้ใช้หลอดค่อยๆ ดูดส่วนผสมด้านล่าง แล้วค่อยๆ ขยับหลอดขึ้นมาด้านบนเพื่อจิบเครื่องดื่มทีละชั้นๆ แทน
พิกัดความอร่อย
- Childhood Cafe ซอยสุขุมวิท 23 โทร. 0-2664-4043
- SNP Headquarter ชั้น G อิตัลไทย ทาวเวอร์ โทร. 0-2723-4442
3. Kakigori vs Bingsu
ชั่วโมงนี้หากพูดถึงหวานเย็นในบ้านเราชื่อของ Kakigori และ Bingsu คงเป็นเมนูที่ใครหลายคนถวิลหา ด้วยคาแรกเตอร์เด่นของ "คากิโกริ" น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะเนื้อเนียนละเอียดที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น ราดด้วยน้ำหวานหรือซอสสีสวย และ "บิงซู" น้ำแข็งไสปุยนุ่มรสนมจากเกาหลี ที่เรียกคะแนนด้วยซอสหลากรสกินคู่กับผลไม้นานาชนิด ทำให้คนเมืองร้อนอย่างเรากินแล้วหลงรักกับความสดชื่นถึงขั้วหัวใจ แถมแต่ละร้านยังขยันทำเมนูใหม่ออกมาให้เห็นถึงความฮิตอยู่เรื่อยๆ อย่างคากิโกริร้าน APBO ที่นำมันม่วงมากวนผสมมะพร้าวอ่อนทำเป็นซอสรสหวานละมุน ส่วนร้าน Maygori ก็เลือกมะยงชิดรสเปรี้ยวอมหวานมาทำซอสแบบไทยจับคู่กับพริกเกลือได้อย่างลงตัว บิงซูร้าน Elmar Offwhite ก็นำสูตรน้ำแข็งไสจากแดนกิมจิที่เป็นต้นตำรับมากินคู่กับซอสมะม่วงโฮมเมดและมะม่วงน้ำดอกไม้หวานหอม ถ้ามาร้าน Sugar Pop ต้องลองบิงซูเมลอนรูปน้องกระต่าย เนื้อเมลอนนุ่มๆ หวานฉ่ำเข้ากันกับน้ำแข็งไสรสนมเมลอน เรียกว่าดีต่อใจเหมาะกับอากาศร้อนบ้านเราสุดพลัง!
พิกัดความอร่อย
- APBO ชั้น 2 The Promenade รามอินทรา โทร. 08-1449-4220
- Maygori ชั้น 2 The Commons ทองหล่อ โทร. 0-2185-2519
- Elmar Offwhite ซอยเอกมัย 2 โทร. 09-9194-6169
- Sugar Pop ซอยพหลโยธิน 7 โทร. 0-2045-9494, 09-7112-1516
4. In the Name of "Churros"
แม้ "ชูร์โร" จะไม่ได้เป็นของใหม่ในวงการอาหาร แต่ในปีนี้เราขอยกให้ชูร์โรขึ้นแท่นเป็นขนมสุดฮิต เพราะมีร้านใหม่เปิดให้ลองชิมกันแบบเต็มอิ่ม ไม่ใช่เฉพาะแต่ในบ้านเราเท่านั้น เมื่อชูร์โรยังฮอตในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์อีกต่างหาก จุดเด่นที่ทำให้ใครๆ หลงรักเจ้า "ปาท่องโก๋สเปน" อย่างเต็มเปานั้น น่าจะอยู่ที่ความกรอบนอกนุ่มในของแป้งโดที่ทอดและเสิร์ฟกันแบบร้อนๆ อีกทั้งชูร์โรยังสามารถดัดแปลงหน้าตาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเอาไปจุ่มในซอสหรือกินคู่กับไอศกรีมก็ดีงามไปหมด
พิกัดความอร่อย
- Cielo Churros ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน FB : cielochurros
- Dolly Churro Cafe ซอยทองหล่อ 11 โทร. 09-0236-3626
- Hello Churros! ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว FB : Hello Churros
- 1Q84 Churros ชั้น 2 ศูนย์การค้า Central Eastville
5. Cheese Tart We Love
ตบเท้าเข้ามาขโมยหัวใจคนรักชีสทาร์ตกันแบบ Non-Stop ทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอก โดยเฉพาะร้านดังจากแดนซามูไรทั้งฝั่งฮอกไกโดและโอซากาที่ใครเคยได้บินไปชิมถึงถิ่นเป็นต้องกลับมาเพ้อหา ด้วยกลิ่นหอมและความเนียนนุ่มของเนื้อครีมชีส รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ แต่มีความละมุน กลืนไปแล้วยังอวลอยู่ในปากช่างไปได้ดีกับแป้งทาร์ตกรอบร่วน ซึ่งแต่ละแบรนด์ล้วนมีจุดเด่นต่างกัน ทั้งความหนาของครีมชีสและเนื้อสัมผัสของแป้งทาร์ต จะให้ตัดสินว่าแบรนด์ใดอร่อยที่สุดคงต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง ส่วนปีหน้าเทรนด์ชีสทาร์ตที่กำลังฮอตฉ่าอยู่ ณ ตอนนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน คงต้องจับตาดูยาวๆ
พิกัดความอร่อย
- Bake Cheese Tart ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ FB : bakecheesetartthailand
- Pablo Cheese Tart Thailand ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน FB : PABLOCheesetartThailand
6. Fresh From the Oven
ร้านพิซซามีไม้เด็ดมาให้เราว้าวอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ความเก๋าของแต่ละร้านไม่ได้วัดกันแค่การนวดแป้งหรือเรื่องท็อปปิงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการอบเป็นพิเศษเพื่อให้พิซซาทุกชิ้นมีรสชาติอันน่าจดจำจนต้องกลับมากินซ้ำสอง เคล็ดลับที่ซ่อนอยู่หลังครัวคือเตาอบแบบสั่งทำขึ้นมาพิเศษ อาทิ เตาอบของร้าน Peppina ตัวฐานเตาทำจากหินลาวา เตาของร้าน Pizza Massilia ที่เก็บความร้อนดีเยี่ยม เพียงอึดใจเดียวพิซซาก็สุกหอมพร้อมเสิร์ฟ โดยยังคงรสชาติของวัตถุดิบไว้ครบถ้วน รวมถึงร้านพิซซาน้องใหม่สัญชาติเกาหลีอย่าง Mr.Pizza ที่ใช้วิธีการ 'ย่าง' พิซซาช้าๆ ในเตาอบ ผลลัพธ์คือพิซซาที่ทั้งหอมและกรอบแบบไม่อมน้ำมัน
พิกัดความอร่อย
- Peppina ซอยสุขุมวิท 33 โทร. 0-2119-7677
- Pizza Massilia ซอยร่วมฤดี โทร. 0-2651-5091
- Mr.Pizza ศูนย์การค้า The Street โทร. 0-2121-1805
7. It's Your Table
กระแสของอาหารแนวเชฟเทเบิล (Chef Table) หรืออาหารแบบตามใจเชฟก็ยังไม่เอาต์ไปเสียทีเดียว เพราะตอนนี้เชฟเทเบิลบางแห่งเริ่มนำเสนอในรูปแบบใหม่ ขยับความขึงขังจาก 'โต๊ะของเชฟ' สู่การเป็น 'โต๊ะของคุณ' เมนูที่เคยกำหนดไว้เป๊ะประดุจไม้บรรทัดก็ปรับได้ตามพูดคุยล่วงหน้า แถมบางที่พ่วงคุกกิงคลาสแบบส่วนตัวให้เราได้สวมบทบาทการเป็นเชฟสักครั้งในชีวิต เช่น ร้าน Johann Kitchen ของเชฟคริสเตียน โจฮัน คอสเนอร์ หรือเชฟเทเบิลแบบไทยแท้ที่ Bangkok Bold Cooking Studio ซึ่งนำทีมโดยเชฟหน่อย-ช่อทิพย์ อวยพรชัยสกุล ส่วนราคาขึ้นอยู่กับจำนวนคนและเมนูอาหาร แนะนำให้โทรไปพูดคุยล่วงหน้าจะได้เตรียมสตางค์ไปพอดี ไม่มีภาวะกระเป๋าฉีก
พิกัดความอร่อย
- Johann Kitchen ซอยสุขุมวิท 23 โทร. 08-4436-5545 (รับจองตั้งแต่ 4-12 คน)
- Bangkok Bold Cooking Studio ถนนพระสุเมรุ โทร. 09-8829-4310
8. "Shabu Steam" is Coming to Town
ชาบุธรรมดาหลบหน่อย! เพราะ "ชาบุสตีม" กำลังขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งอาหารสุขภาพที่น่าสนใจ เทรนด์การกินนี้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากฝั่งฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยใช้วิธีการนึ่งอาหารแทนการต้มทำให้รักษาความสดของวัตถุดิบเอาไว้ เแถมยังไม่เสียรสชาติเท่าการลวกแบบที่เราคุ้นชิน เราขอแนะนำ 2 ร้านห้ามพลาดคือ Little Hong Kong ของดีเจเวฟ คูเปยจง ร้านแรกๆ ที่นำชาบุสตีมเข้ามาในบ้านเราและ Seven Flavours ที่มีน้ำจิ้มสูตรพิเศษ 7 ชนิดและอาหารทะเลสดใหม่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นหมัดเด็ด โดยเฉพาะล็อบสเตอร์เนื้อแน่นหวานตัวโตราคาแสนคุ้มค่า ทำเอาเรากลับไปนอนฝันหวานอยู่นานหลายวัน (หิวเลย)
พิกัดความอร่อย
- Little Hong Kong ชั้น B ศูนย์การค้า The Street โทร. 08-2207-4924
- Seven Flavours ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 2 โทร. 0-2266-6955
9. The New Global Food Brand
"อยู่เมืองไทย อยากกินอะไรต้องได้กิน!" เราสามารถพูดประโยคนี้ได้เต็มปากเต็มคำ เพราะในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมามีแบรนด์อร่อยจากเมืองนอกเข้ามาให้เราได้กินและอินกันแบบสุดๆ เช่นเดียวกับปีนี้ที่มีน้องใหม่เข้ามาให้ลองชิม เริ่มกันด้วย Ben & Jerry's แบรนด์ไอศกรีมชื่อดังจากอเมริกาที่อิมพอร์ตความอร่อยหนักมาให้ลิ้มลองกัน ตามด้วย Potato Corner อีกหนึ่งแบรนด์จากอเมริกาที่ยกขบวนความอร่อยของเฟรนช์ฟรายส์ชิ้นโตที่ทอดตามออร์เดอร์ ก่อนจะมาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศสูตรพิเศษของทางร้านที่มีให้เลือกหลายรสชาติ (เราขอเทใจให้รสชีส) และล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้สาวกช็อกโกแลตดี๊ด๊าคงไม่พ้น Godiva Boutique จากเบลเยียม
พิกัดความอร่อย
- Ben & Jerry's ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน
- Potato Corner ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
- Godiva Boutique ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
10. Hit In the Mart
นี่คือหน้าตาสินค้าสุดฮอตในร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven, Lotus Express, Family Mart) ที่เป็นที่สุดของที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2016 ถึงแม้ว่าขนมบางชนิดจะหากินแสนยากเย็นจนเป็นแรร์ไอเท็มที่ใครได้ครอบครองแล้วต้องน้ำตารื้น (เพราะความภูมิใจ) แต่เชื่อว่าคงมีนักล่าหลายคนไม่ถอดใจไปตามหากินกันจนได้ (สิน่า!) อย่างแรกต้องยกให้
- 1. Glico Ice Cream ไอศกรีมจากแดนปลาดิบที่ทุกคนตั้งตารอคอย จนเมื่อต้นปีเกิดปรากฏการณ์ "ไอศกรีมกูลิโกะฟีเวอร์" ขายเกลี้ยงตู้ทุกหนแห่ง อย่าว่าแต่หาไอศกรีมกูลิโกะรสละมุนครบทั้ง 4 แบบ 8 รสเลย เจอแค่รสเดียวก็เหมือนได้รับชัยชนะมากแล้ว (อวดเพื่อนได้สบาย แบร่!)
- 2. HERSHEY’S Soyfresh เพราะความครีเอตที่นำนมถั่วเหลืองแบรนด์ Soyfresh ซึ่งใช้ถั่วเหลือง Non GMO 100 % จากแคนาดามาผสมกับช็อกโกแลตคุณภาพตราเฮอร์ชีส์ ความพรีเมียมนี้จึงทำให้คนไทยซึ่งเป็นประเทศที่ 8 ของโลกได้ลองดื่มแล้วติดใจ มี 3 รสให้เลือกคือ ช็อกโกแลต มอคคา และคุกกี้แอนด์ครีม
- 3. Koko Krunch Chocolate Cereal Bar ส่วนทางเนสท์เล่ก็ส่งผู้ท้าชิงนาม "โกโก้ครั้นช์แบบแท่ง" มาลงสนาม ความเก๋ไก๋อยู่ตรงการนำโกโก้ครั้นช์มาอัดแท่งให้กินง่ายขึ้นแล้วเคลือบด้วยช็อกโกแลตหวานหอมด้านบนและไวต์ช็อกโกแลตด้านล่าง แต่ใครอยากกินต้องตามล่ากันหน่อยนะ เพราะหาซื้อยากมาก (อีกตามเคย)
- 4. Royal Project Ice Cream ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงก็ไม่มีอะไรทำให้ลังเลใจในการเดินไปเปิดตู้ไอศกรีมได้อีก ด้วยกลิ่นหอมๆ แบบธรรมชาติและรสชาติที่แน่นเต็มคำนี่ล่ะ ทำให้ไอศกรีมโครงการหลวงเข้าไปนั่งอยู่ในใจใครหลายคนได้ไม่ยากเลย รวมถึงเราด้วย (ซื้อได้ที่ร้านโครงการหลวงและ Golden Place ทุกสาขา)
- 5. Korean Ice Cream นักร้องและโอปป้าจากซีรีส์แดนโสมว่าดีงามแล้ว ไอศกรีมรสผักผลไม้จากบ้านเขาก็ชวนเราซารังเฮหมดใจ อย่างไอศกรีมข้าวโพดรสนวลจากแบรนด์ Lotte ที่มากันเป็นฝัก! หรือจะเป็น Cool Short - Peach Ice Cup น้ำแข็งก้อนสีชมพูเย็นฉ่ำรสพีชหวานหอม และ Tank Boy ไอศกรีมรูปขวดจิ๋วกินแล้วนึกถึงหวานเย็นตอนเด็ก ตามไปซื้อกันได้ที่ K-market รัชดาและร้านค้าใน Korea Town นะ
- 6. Thai-Denmark Yogurt ปิดท้ายด้วยไอเท็มตัวท็อปประจำร้านสะดวกซื้ออย่างโยเกิร์ตตราวัวแดงเจ้าของเดียวกับนมพาสเจอไรซ์ไทย-เดนมาร์คที่ตีตลาดด้วยโยเกิร์ตหอมมันจากนมวัว ผสมผลไม้ไทยอย่างลูกชิดเคี้ยวหนุบและมะเกี๋ยงรสเปรี้ยวหวาน เรียกความสนใจจากเหล่าฮิปสเตอร์ได้มากจริงๆ
Tag:
, เทรนด์อาหาร,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น