ในที่สุด “The Commons Saladaeng” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวต่อจาก “The Commons Thonglor” ที่เปิดไปในปี 2016 แน่นอนว่าคอนเซปต์ของสาขาล่าสุดก็ยังคงละม้ายคล้ายเดิมอยู่ แต่ที่เพิ่มเติมคงต้องยกให้กับการตกแต่งและพื้นที่ของคอมมูนิตี้ที่เน้นการอยู่ร่วมกันของคนในพื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ก๊อกน้ำดื่มที่ให้ทุกคนมารองน้ำกันได้ โต๊ะเก้าอี้ที่สามารถพับขยับปรับเปลี่ยนตามพื้นที่ใช้สอย ไปจนถึงปลั๊กไฟที่แทบมีให้ทุกจุด จนเรียกว่าสามารถไปนั่งทำงาน คุยเล่น กินข้าว ได้อย่างสะดวกสบาย
The Commons ศาลาแดงมีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นแรกเรียกว่า The Ground อันเป็นที่ตั้งของร้าน Roast ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องบรันช์ ขณะที่ชั้นบนสุดจะเรียกว่า The Platform พื้นที่เอนกประสงค์ที่เตรียมไว้สำหรับกิจกรรม แต่ชั้นที่เรารักและเทใจให้คงไม่พ้นชั้น 2 The Market โซนที่ได้รวบรวมทั้งร้านอาหารร้านใหม่ ร้านสุดฮิต รวมทั้งร้านที่คุ้นเคยจากสาขาทองหล่อก็มากันที่นี่ด้วย แต่จะมีร้านอะไรบ้าง เรามาดูกันเลย!
★ 1. Pad Pad : เต็มอิ่มกับเมนูผัดฉบับ DIY ★
ร้านที่พกพาคอนเซปต์การกินแบบเรียบง่าย แถมยังน่ารักสมกับชื่อ “ผัด ผัด” เมื่อทุกคนสามารถสร้างสรรค์ความอร่อยของตัวเอง เพียงเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วสั่ง อันดับแรกเขาจะให้เลือกคาร์โบไฮเดรตก่อน ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ สปาเก็ตตี้ มักกะโรนี มาม่า ราเมน อุด้ง หรือเป็นผักแทนก็ได้ จากนั้นก็มาเลือกเครื่องเคราที่จะนำมาผัดด้วยกัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง ไส้กรอก เบคอน และผักนานาชนิด ต่อด้วยเลือกซอสสูตรเด็ด 7 รสชาติ อาทิ ซอสผัดซีอิ๊วพริกกระเทียม ซอสน้ำจิ้มแจ่ว ซอสผัดไทย ซอสเอ็กซ์โอ (สูตรซิกเนเจอร์) ซอสยากิโซบะ ซอสทัคคาลบี้ และซอสน้ำจิ้มยากินิกุ โดยสนนราคาเริ่มต้นที่ 100 บาท แล้วค่อยๆ บวกตามของที่เลือก
อย่างกล่องนี้เราได้มาในราคา 200 บาทพอดีเป๊ะ เป็นสปาเก็ตตี้ผัดซอสเอ็กซ์โอใส่ไส้กรอก เบคอน กุ้ง และเห็ดหูหนู (เยอะมาก) โรยด้วยหอมเจียวทอดนิดหน่อย ส่วนรสชาติขอบอกว่ากลมกล่อมอูมามิ แถมยังแฝงรสชาติเผ็ดปลายลิ้นมากด้วย เอาเป็นว่าแม้เห็นกล่องเล็กกะทัดรัดแบบนี้ แต่ข้างในแน่นมาก บอกเลย!!
★ 2. Fowlmouth : ไก่ทอดรสเผ็ดจี๊ดจากแนชวิลล์ ★
ร้านไก่ทอดชื่อดังจากเมืองแนชวิลล์รัฐเทนเนสซี่ที่เปิดตัวครั้งแรกไปกับ The Commons Thonglor ก็ขยับขยายความอร่อยมากันที่นี่ด้วย ซึ่งจุดเด่นคงต้องยกให้กับรสชาติของเครื่องเทศและพริกนานาชนิดที่ผนึกพลังความเผ็ดและความเข้มข้น แถมยังกรุบกรอบหอมมัน เพราะได้ยินมาว่าเป็นการทอดไก่ 2 ครั้งเหมือนไก่ทอดเกาหลี
เพื่อประกาศศักดาความเผ็ด ที่นี่เขาจะให้เราสามารถเลือกระดับความจัดจ้านกันได้ โดยมีตั้งแต่ Mild, Medium, Hot และ Extra Hot สำหรับเมนูยอดฮิต Hot Chicken Burger (270 บาท) เบอร์เกอร์ไก่ทอดส่วนสะโพกรสเผ็ดเนื้อในฉ่ำนุ่มที่เราขอลองแค่เผ็ดกลาง ซึ่งก็นับว่าเผ็ดมากแล้ว เสิร์ฟพร้อมเฟรซ์ฟราย โคลสลอว์ และซอสพริกที่มาทั้งความเปรี้ยวและเผ็ดก็ทำให้อร่อยจนยั้งใจไม่อยู่
★ 3. Crackhouse : อร่อยเน้นๆ กับเมนูไข่ ★
ร้านเครือเดียวกับไก่ทอดรสเผ็ดเลยทำให้ทำเลอยู่ติดกันแบบแนบแน่น แต่สำหรับร้านนี้จะมาในลุคสีเหลืองสดใสพร้อมสารพัดเมนูไข่ในรูปแบบของอาหารเช้ากินง่าย ไม่ว่าจะเป็น แซนวิช เบอร์ริโต้ ไปจนถึงแพนเค้ก สำหรับเมนูเด็ดที่เขาบอกมาก็ต้องลอง Crackgriddle (220 บาท) เบอร์เกอร์ไข่ที่เปลี่ยนขนมปังบันเป็นแพนเค้กเนื้อนุ่มหอมเนย ส่วนข้างในก็อัดแน่นไปด้วยไส้กรอก ออมเล็ต ชีสเชดดาร์ และเนย ซึ่งรสชาติทั้งหมดมันเข้ากันได้ดีสุดๆ จนเราต้องกัดเพิ่มอีกหลายๆ คำ
ที่สำคัญที่นี่เขามีกาแฟโคลด์บริวจากร้าน Roots เสิร์ฟกันอีกด้วยนะ
★ 4. Soho Pizza : พิซซ่าแป้งบางสไตล์นิวยอร์ก ★
สำหรับใครที่อยากอิ่มครบจบในคราวเดียว ขอแนะนำให้มุ่งหน้ามาที่ Soho Pizza ร้านที่พกพาความอร่อยของพิซซ่าแป้งบางสไตล์นิวยอร์กชิ้นโตขนาด 18 นิ้ว ในรูปแบบสไลซ์ที่เรารับประกันว่าเพียงแค่สไลซ์เดียวก็อิ่มแปล้ และที่ดีงามก็คือพิซซ่าทุกสไลซ์เค้าอุ่นในเตาถ่านและเสิร์ฟกันร้อนๆ เรียกว่ามาแบบควันฉุยชีสยืด
ที่เราลองเป็น Cheese (120 บาท) พิซซ่าหน้าชีสอร่อยหนุบหนับในแป้งบางขอบกรุบกรอบกับ Pepperoni (150 บาท) พิซซ่าหน้าเปปเปอโรนีที่ความเปรี้ยวเข้าคู่กับความเข้มข้นของชีสได้อย่างเหมาะเจาะ
★ 5. The Lobster Lab : อร่อยกับล็อบสเตอร์และหลากเมนูซีฟู้ด ★
คนรักล็อบสเตอร์และซีฟู้ดห้ามพลาดจดร้านนี้ไว้ในลิสต์ เพราะเขาได้ยกความอร่อยจากท้องทะเลมาให้ทุกคนได้เลือกอร่อยอย่างเต็มอิ่มในรูปแบบของซีฟู้ดบาร์ที่ทำให้เราได้เข้าใกล้ความอร่อยกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
เมนูแนะนำแน่นอนว่าคงไม่พ้น Signature Boston Roll ความอร่อยระดับไฮเอนด์ในราคาน่ารัก แถมยังมาเป็นเซ็ตประกอบด้วย ขนมปังบริยอชโฮมเมดยัดไส้เนื้อล็อบสเตอร์ชิ้นโตๆ เคี้ยวเด้งสู้ลิ้นคลุกเคล้ากับซอสสูตรลับรสเข้มข้นหอมมันที่เสิร์ฟมาพร้อมหอมทอดร้อนๆ และสลัดผักเพิ่มความสดชื่นให้มากินคู่กัน
★ 6. Bun Meat & Cheese x Pit Master : เต็มคำกับเบอร์เกอร์และเนื้อรมควัน ★
หลังจากประสบความสำเร็จจาก Homeburg เบอร์เกอร์สุดโด่งดังที่มีขายเพียงไม่กี่ชิ้นและไม่กำหนดราคา ก่อนจะกลายมาเป็น Bun Meat & Cheese ที่ทุกคนหลงรัก และตอนนี้ในทำเลใหม่ก็ได้พันธมิตรใหม่อย่าง Pit Master ที่เด่นในการทำเนื้อไทยนุ่มๆ ด้วยการนำมารมควันก่อนย่างอีกครั้งจนหอมกรุ่น จนเรากล้าพูดเลยว่านี่คือการรวมตัวที่คนรักเนื้อห้ามพลาด!
แน่นอนว่าเมนูที่ต้องสั่ง Bun Meat & Cheese (เนื้อ 320 / หมู 300) เบอร์เกอร์ซิกเนเจอร์ที่นำเอาคู่ซี้อย่างเนื้อเบอร์เกอร์ย่างหอมๆ กับชีสรสเข้มมาเจอกัน ส่วนขนมปังทางร้านก็เลือกใช้ขนมปังญี่ปุ่นที่มีทั้งความนุ่มหนึบและไม่ฝืดคอ แต่ใครที่ชอบเนื้อล้วนๆ ก็สามารถสั่งมากินคู่กันได้ เพราะที่นี่เขาได้เลือกเนื้อหลากหลายส่วนที่จัดว่าเด็ดๆ ทั้งนั้น อาทิ ลิ้นวัว ซี่โครง และเสือร้องไห้
★ 7. Yum Cha : ติ่มซำสูตรอร่อยตำรับฮ่องกง ★
ร้านติ่มซำร้านล่าสุดของกรุงเทพฯ ที่นำเสนอความอร่อยของติ่มซำรสชาติดั้งเดิม แต่เสริมความเป็นโมเดิร์นลงไปในหน้าตาให้ดูเทรนดี้และน่าแชะภาพมากขึ้น แต่ที่เรารักมากๆ ก็คือทุกเมนูเรียกว่าทำและนึ่งสดๆ หลังร้าน ทำให้ต้องใช้เวลารอกันสักหน่อย
เมนูแนะนำคงไม่พ้น Ha Gau (135 บาท) ฮะเก๋าแป้งบางหนึบสอดไส้กุ้งชิ้นโตที่แฝงความมันของมันกุ้งและรสชาติกลมกล่อมหอมหวานในคำเดียว หรือจะลอง Hung Yau Chau Sau (135 บาท) เกี๊ยวหมูลวกเนื้อแน่นราดด้วยซีอิ๊วน้ำมันพริกที่ให้รสเผ็ดๆ ปลายลิ้นก็กินเพลิน แล้วอย่าลืมสั่ง Cold Brew Hibicus Mint Tea (90 บาท) ชาดอกชบารสหวานละมุนที่เติมความซ่านิดๆ ด้วยใบมินต์
★ 8. PAAK : ครบเครื่องเรื่องน้ำผักและเมนูเพื่อสุขภาพ ★
เพียงแค่เห็นชื่อ “ผัก” คงไม่ต้องเอ่ยให้มากความว่าร้านนี้ต้องการสื่ออะไร เพราะถ้าใครเป็นคนรักสุขภาพก็ขอให้ลองแวะร้านนี้ หากใครชอบกินผักก็ให้แวะมาร้านนี้ หรือถ้าอยากลองกินผักก็ให้แวะมาร้านนี้ เมื่อที่นี่เขาได้เปลี่ยนเมนูผักๆ ให้ดูกินง่ายขึ้น ด้วยเมนูของหวานและน้ำผักรสชาติดี
อย่างเมนูนี้มีชื่อว่า W&M (120 บาท) ที่นำส่วนผสมที่หลายคนคิดว่าไม่เข้ากันอย่าง “แตงโม” และ “มินท์” ให้มาเจอกัน จนออกมาเป็นความหวานเย็นที่ติดรสซ่าตรงปลายลิ้น จนเราอดแปลกใจกับรสชาติไม่ได้ บอกได้แค่ว่า “ดีงาม” จริงๆ นะ
★ 9. Guss Sundae Bar : ไอศกรีมซันเดย์สุดอร่อยของ Guss Damn Good ★
เชื่อว่าแฟนคลับของคนรักไอศกรีมรสชาติไม่เหมือนใครของ Guss Damn Good น่าจะดีใจกันยกใหญ่ เพราะร้านไอศกรีมที่หลายคนรักได้เผยแตกไลน์ไอศกรีมซันเดมาให้ลองชิมกันแล้วชื่อ Guss Sundae Bar ที่ได้รวมไอศกรีมซันเดหลากรสชาติมาให้เลือก หรือถ้าใครอยากลองเลือกไอศกรีมที่ชอบ พร้อมกับซอสและท็อปปิงที่ใช่ก็ไม่ถือว่าผิดกติกา
ความอร่อยที่เราขอแนะนำก็ต้อง Two Tone (185 บาท) ไอศกรีมที่จะพาวัยเด็กของทุกคนให้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ด้วยไอศกรีมรสนมผสมกับไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รี่ที่มาพร้อมกับเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่สีแดงชิ้นใหญ่ ก่อนจะราดด้วยซอสเบอร์รี่และข้าวพองเคี้ยวกรุบกรอบ ตักกินเพลินสุดๆ
★ 10. Lykke : อร่อยได้สุขภาพจากโยเกิร์ตสุดเข้มข้น ★
ร้านเล็กไซส์กะทัดรัดสีสดใสที่นำโยเกิร์ตมาทำให้ดูน่ารักน่าอร่อย และที่สำคัญส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็น กรีกโยเกิร์ต ผลไม้แห้ง ไปจนถึงกราโนล่า ทางร้านเขาทำเองหมักเองกันทั้งหมด ส่วนวิธีสั่งโยเกิร์ตจะเริ่มต้นที่ 120 บาท ก่อนจะให้เราจับคู่กับส่วนผสมและผลไม้ที่ชอบลงไป
แต่ถ้าใครคิดไม่ออกก็มีเมนูซิกเนเจอร์ให้เลือกอย่าง Starwberry Honeycomb ที่นำเอาสตรอว์เบอร์รี่สดมาจับคู่กับน้ำผึ้งกันหวานอมเปรี้ยวกันถึงใจ แต่ถ้าชอบรสชาติสดชื่นก็ต้อง Mango Tropical ที่มีทั้งเนื้อมะม่วง น้ำผึ้งหอมๆ ร่วมด้วยมะพร้าวอบแห้งให้เคี้ยวกันกรุบกรอบ
พิกัด : The Commons Saladaeng 30 ซอยศาลาแดง 1 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทร. 080 281 8339
FB : The Commons Saladaeng
Tag:
, รวมร้านอร่อย, ศาลาแดง,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น