ย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ก็ถึงเวลาของเทศกาลแห่งความรัก คนมีคู่คงหัวใจพองโตและกำลังมองหาร้านสุดโรแมนติกเตรียมฉลองในวันวาเลนไทน์กัน G&C คัดสรรร้านวิวสวยหลักล้านและที่สำคัญคือไม่ต้องกังวัลว่าจะมี PM 2.5 มาบั่นทอนสุขภาพ เพราะทุกร้านมีโซนอินดอร์โดนๆ ให้คุณได้ดื่มด่ำมื้อพิเศษกับคนรักโดยไม่ต้องสนมลภาวะทางอากาศ!
1. Mahanakhon Bangkok Skybar
ก้าวแรกจากลิฟต์สู่โค้งประตูไม้บริเวณโถงด้านหน้า เราสัมผัสได้ถึงความหรูหราสง่างามสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานความวิจิตรแบบไทย ภายในรายล้อมไปด้วยโคมไฟและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ สูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้เห็นวิวมหานครได้อย่างเต็มตา อีกทั้งเนรมิตพื้นที่เอาท์ดอร์ให้ได้บรรยากาศป่าดงดิบ เปรียบเสมือนนั่งอยู่ในป่าบนท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
เมนูแนะนำ :
ลาบเป็ด เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีดอง และข้าวเกรียบ (Larb Ped – Spicy Grilled Duck Salad) ความพิเศษของจานนี้อยู่ที่การแยกเนื้อเป็ด เครื่องยำรสแซ่บสไตล์ไทย และข้าวเกรียบบางกรอบ เป็นคำๆ แล้วห่อทานคล้ายเมี่ยงคำ อร่อยและสนุกแบบไทยๆ
ปลากะพงพร้อมน้ำจิ้มสูตรเข้มข้น (Andaman Sea Bass*) เนื้อปลากะพงสดห่อใบตองกริลล์ด้วยเตาถ่าน เคียงคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติเข้มข้นแต่ไม่จัดจ้านเกินไป เด็กๆ สามารถทานได้ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเมนคอร์สสำหรับครอบครัวเลยทีเดียว
ชีสเค้กใบมะกรูด เสาวรส มะม่วง และมังคุด (Kaffir Lime Cheese Cake) ชีสเค้กรสนุ่มหอมกลิ่นใบมะกรูดของไทย ทานคู่กับซอสเสาวรสและซอสมะม่วงเพิ่มความสดชื่น ปิดท้ายคำด้วยมังคุดสดรสชาติหอมหวาน
ช็อคโกแลตทาร์ต คอฟฟี่กานาช และคาปูชิโนเจล (Chocolate Tart) ช็อคโกแลตแท้รสเข้มข้นทานคู่กับคอฟฟี่กานาชและคาปูชิโนเจลหอมกรุ่น ดึงรสชาติกลับด้วยไอศกรีมช็อคโกแลตรสหวานกลมกล่อม ช็อกโกแลตเลิฟเวอร์และเด็กๆ น่าจะหลงรักจานนี้ได้ไม่ยาก
ที่อยู่ :114 นราธิวาสราชนครินทร์ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
โทร : 02-677-8722
เปิดบริการ : 17.00 – 01.00 น.
2. Flamenco Bangkok
‘ฟลาเมงโก’ สื่อถึงดนตรี เพลง และการเต้นรำอันพลิ้วไหว ทุกตารางเมตรของที่นี่จึงถูกดีไซน์ออกมาให้สนุกสุดเหวี่ยง ให้ความรู้สึกลึกลับนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ ตั้งแต่การเลือกใช้สีฉูดฉาดตัดกับเฟอร์นิเจอร์แอนทีค ภาพเพ้นต์บนผนัง โคมไฟแชนเดอเรียคริสตัล (ชุดของพนักงานก็สีสวย กระโปรงพลิ้วมาก) ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นไสฟ์สเตจเพิ่มดีกรีความสนุกด้วยดนตรีจังหวะละติน รุมบ้า และแซมบ้า มีเลาจน์ชั้นลอยสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว รวมถึงพื้นที่ด้านนอกให้จิบเครื่องดื่มดีๆ พร้อมชมวิวยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ แบบ 180 องศา
เมนูแนะนำ :
Tuna Tartare Sopes ทาโก้กรอบๆ ท็อปด้วยอโวคาโดบดและทูน่าหั่นเต๋าคลุกเคล้าซอส เคียงด้วยซาวครีม กัวคาโมเล่ และซัลซ่าแบบเมกซิกันก็เริ่มต้นมื้อได้ดี
Seafood Paella ข้าวอบสเปนเสิร์ฟบนกระทะร้อนที่หอมกรุ่นมาแต่ไกล ข้าวปรุงรสด้วยแซฟฟรอนและปาปริก้า ท็อปด้านบนด้วยกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ และโชริโซรสจัด เราชอบความกรอบเล็กๆ ของข้าวที่ขอบกระทะ ตักเข้าปากแล้วได้รสชาติของซีฟู้ดแบบเต็มคำ
ที่อยู่ : ชั้น 9 ดิ เอ็มควอเทียร์ โซนฮีลิกซ์
โทร : 0-2003-6006
เปิดบริการ :18.00-01.00 น
3. SEEN Restaurant & Bar Bangkok
แค่ได้ยินชื่อ Rooftop หัวใจก็พองโตไปถึงไหน ยิ่งถ้าเป็นที่บรรยากาศดีๆ ยิ่งทำให้เรารู้สึกอยากไปมากเท่านั้น วันนี้เราชวนทุกคน มาสัมผัสวิวพาโรนามาของแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมอิ่มท้องกับอาหารสุดเลิศรส Seen Restaurant & Bar Bangkok Rooftop ย่านพระราม 3 ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับบรรยากาศ จนไม่อยากลุกไปไหน
เมนูแนะนำ :
Truffle lobster salad สลัดล็อบเตอร์รสชาติเข้มข้นถึงใจ แถมยังได้ความหอมจากเห็ดทรัฟเฟิลมาช่วยเพิ่มจานนี้ดูน่ากินยิ่งขึ้น
Niwatori miso Chicken ไก่ชิ้นโตๆ มาพร้อมซอส 2 สไตล์อย่างเทอริยากิและพริกไทยดำ ไม่ว่าจะจิ้มซอสไหนก็ดูเข้ากันเหลือเกิน
ที่อยู่ : Seen Restaurant & Bar ชั้น 26 โรงแรม Avani+ Riverside Bangkok
โทร : 02-431-9120
เปิดบริการ :18:00 - 01:00 น.
4. The Loft
เมื่อก้าวเข้ามาบนชั้น 56 ของวอลดอร์ฟ แอสโทเรียโรงแรมสุดหรูบนถนนราชดำริ ก็รู้สึกตื่นตะลึงกับวิวเมืองหลวงอันงดงาม รวมทั้งบรรยากาศของบาร์ตกแต่งสไตล์อาร์ตนูโวสวยงาม มีโต๊ะทำงานเปื้อนสี ภู่กัน หลอดสีและจานสี เหมือนห้องทำงานของศิลปิน
เมนูแนะนำ :
Jumbo Crab Cake แครปเค้กเนื้อปูก้อนใหญ่ ทอดมาได้กรอบนอกนุ่มใน ปรุงรสกำลังดี ได้กลิ่นหอมและรสหวานของเนื้อปูเต็มๆ คำ
Tiger Prawn Cocktail ใช้กุ้งไซส์จัมโบ้ตัวใหญ่เนื้อหวานเด้ง เสิร์ฟในแก้วทรงสูงกับอโวคาโดและผักสลัด ราดซอสค็อกเทลรสเปรี้ยวอมหวาน
Waldorf ซิกเนเจอร์ค็อกเทลสูตรจากนิวยอร์ค ใช้เหล้าหลายชนิดทั้งเบอร์เบิร์น สวีทเวอร์มุท และวิสกี้อินฟิวส์กับเบซิล ใส่เมเปิ้ลไซรัป และช็อกโกแลตให้กลิ่นหอมน่าดื่ม
ที่อยู่ :โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ 151 ถนนราชดำริ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร :0-2846-8888
เปิดบริการ : ทุกวัน 17.30-23.45 น.
5. บูลแอนด์แบร์
บูลแอนด์แบร์ออกแบบและตกแต่งโดยบริษัทอาฟโรโค่ ใช้สีโทนเข้มขรึมอย่างน้ำตาล ดำ เทา และแดงเข้ม แทรกด้วยสีบรอนซ์และทองเหลืองดูหรูหรา มีห้องส่วนตัว โซฟาเข้ามุมและที่นั่งเคาน์เตอร์หน้าครัวเปิด เห็นเชฟกำลังย่างเนื้อด้วยเตาย่างพิเศษที่มีฝาเป็นโดมขนาดใหญ่ สั่งทำขึ้นจากประเทศออสเตรเลีย เตานี้ใช้ย่างและรมควันได้ในขั้นตอนเดียว
เมนูแนะนำ :
Bone in Ribeye สเต็คเนื้อริบอายชิ้นใหญ่ติดกระดูก เชฟคุมอุณหภูมิและย่างไฟมาอย่างดี ได้ผิวกรอบที่เป็นครัสสีน้ำตาลสวย เนื้อในนุ่มสีชมพูฉ่ำแบบสุกปานกลาง
Char Grilled Tiger Prawn กุ้งลายเสือตัวใหญ่ย่างเตาจนสุกกำลังดีเนื้อหวานเด้ง
Truffle Mac & Cheese แมคแอนด์ชีสที่อร่อยเข้มข้นเพราะใส่ชีส 3 ชนิดผสานกับทรัฟเฟิลราชาแห่งเห็ดส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
ที่อยู่ :ชั้น 55 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ 151 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
โทร :0-2846-8888
เปิดบริการ :18.00 น. – 22.00 น.
6. Le Normandie
โทนสีเหลืองทองเพดานให้โปร่งขึ้นด้วยการนำผ้าไหมสีเหลืองทองออกแล้วเติมแชนเดอเลียร์เข้าไปแทน เพิ่มความสวยงาม หรูหรา และสบายตามากขึ้น เปลี่ยนลวดลายของพรม และเพิ่มมุมเครื่องดื่มก่อนและหลังมื้ออาหารขึ้นมา
เมนูแนะนำ :
Roasted Duck Foie Gras ฟัวกราส์อบกินกับส้มหลากหลายชนิดที่ให้รสเปรี้ยวหวานขมผสมกันไป ราดด้วยซอสที่ใช้น้ำเกรวีจากเป็ด
BurgaudChallans Duck อกเป็ดจากเมืองทางตะวันตกของฝรั่งเศสอบแบบมีเดียมแรร์เพื่อให้นุ่มและชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำสต๊อกเป็ดที่เคี่ยวจนงวด กินกับบีตรูตพูรีและชัตเนย์ผลไม้ เนื้อเป็ดนุ่มหอม เพิ่มรสชาติด้วยชัตเนย์ผลไม้ที่มีความหวานเปรี้ยวและหอมสมุนไพร
Araguani Chocolate ช็อกโกแลตสอดไส้รสเย็นๆ ของมินต์ ไอศกรีมมินต์และสปันจ์เค้ก
ที่อยู่ :โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซอยโอเรียนเต็ล ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทร :0-2659-9000
เปิดบริการ :12.00-14.00 น. และ 19.00-22.00 น.
7. Vertigo Too
เวอร์ทิโก ทู ถือว่าเป็นภาคต่อของเวอร์ทิโกและมูนบาร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ปรับโฉมมาจากห้องอาหารจีนไบยุนให้กลายเป็นบาร์สุดเก๋ในโทนสีทองแดง ดำ เงิน และม่วง ด้านบนเพดานมีแสงไฟระยิบระยับคล้ายดวงดาว รายล้อมด้วยแสงสีและวิวยามค่ำคืนของเมือง
เมนูแนะนำ :
Why So Cereal?!? ได้ไอเดียจากเบียร์มาต่อยอด วิสกี้ข้าวไรย์เบลนด์วิสกี้ ไซรัปเบียร์โฮมเมด และบิตเตอร์ก่อนเสิร์ฟรมควันด้วยกลิ่นแอปเปิล กลิ่นรสที่ได้คล้ายกับค็อกเทลที่มีวิสกี้เป็นตัวหลัก สโมกๆ หวานๆ
The Hitchcock ใช้จินบดผสมกับแตงกวา ใส่เวอร์มุธไซรัปเอลเดอร์ฟาวเวอร์อินฟิวกับน้ำผึ้ง และเลมอนโซดา ใครชอบความสดชื่นแบบแตงกวาน่าจะชอบ
Final Countdown ใช้เบอร์เบินผสมลิเคียวร์เชอร์รีลิเคียวร์สมุนไพร และแอปเพรีทีฟ เรียกว่าบาลานซ์กันระหว่างสปิริต จึงให้กลิ่นรสที่แรงกว่าค็อกเทลที่ผสมกับไซรัปและน้ำผลไม้
ที่อยู่ :ชั้น 60 โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ 21/100 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
โทร : 0-2679-1200
เปิดบริการ :17.00-01.00 น
8. Char Bangkok
ชาร์ แบงค็อก แบ่งเป็น 3 ส่วน รูฟท็อปบาร์ ห้องอาหาร และห้องไพรเวตที่มีเมนูอาหารพิเศษออกไป โดยยังมีอาหารซิกเนเจอร์จากชาร์ เซี่ยงไฮ้ อาทิ ล็อบสเตอร์บิสก์ ฟัวกราส์ครัมเบิล ดั๊กกงฟี และบานาน่าชีสเค้ก ความพิเศษของชาร์ยังอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศและอาร์ติซานโปรดักต์ อาทิ ขนมปังเมซง ฌอง ฟิลิปป์, เนื้อวัวเอจจิงบางส่วนจากอาร์โนลด์เดอะบุชเชอร์, ชีสบูราตาในประเทศ, ผักโครงการหลวง, กุ้งลายเสือจากอยุธยา และเนื้อแกะจากปากช่อง
เมนูแนะนำ :
Smoked Beef Tartar เนื้อวัวกับฟรุตมัสตาร์ดและหอมแดง เรียกน้ำย่อยเบาๆ
Lemongrass Infused Lobster Bisque ล็อบสเตอร์บิสก์รสชาติมาตรฐาน แต่เติมโฟมตะไคร้เข้ามา
North Pacific Black Cod Steak ปลาค้อดเนื้อหวานกับซัลซาที่หอมเครื่องเทศ
ที่อยู่ : ชั้น 25 Hotel Indigo Bangkok ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร : 0-2207-4999
เปิดบริการ :18.00-24.00 น.
9. Pink Bar
บนชั้น 61 ของโรงแรมหรู เลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ มีแชมเปญบาร์เปิดใหม่ตกแต่งด้วยสีชมพูพาสเทลสุดสวยให้ความรู้สึกผู้หญิงๆ ภายในร้านมีโซฟานุ่มบุกำมะหยี่สีชมพู เพดานสีทองดูหรูหราและผนังฝั่งหนึ่งมีแชมเปญเซลล่าวางโชว์ขวดเรียงรายสวยงาม
เมนูแนะนำ :
King Crab Waffle วาฟเฟิลแผ่นบางกับเนื้อปูคิงแครป กับผลไม้สดผสมครีมรสเบาๆ สดชื่น
Raspberry Macaron มาการองสีชมพูสอดไส้ครีมชันเทอรี ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รี่สดสีหวานสวย
Top Me Up ที่ทำจากน้ำแครนเบอร์รี่ ยูสุ น้ำเชื่อมลิ้นจี่ และโทนิคพิ้งค์เกรฟฟรุ๊ต รสหวานอมเปรี้ยวกลิ่นหอมสดชื่น ถูกใจสาวๆ
ที่อยู่ : โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ 1055 ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทร : 0-2624-9555
เปิดบริการ : 17.00-01.00 น.
10. Chef’s Table Bangkok
เชฟเทเบิ้ลแบงคอก ร้านใหม่บนชั้น 61 ของโรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ สีลม จะทำให้คุณใจเต้นตั้งแต่ก้าวแรก เพราะทั้งวิวสวยๆ ของกรุงเทพ และการได้ประจันหน้ากับครัวเปิดที่มีเตาบนเคาท์เตอร์หินอ่อนขนาดใหญ่อยู่กลางร้านดูหรูหรา ให้คุณได้เห็นทีมเชฟปรุงอาหารกันสดๆ ตรงหน้า
เมนูแนะนำ :
John Dory, Caviar Impérial de Sologne ปลาจอนดอรี่โพชเนื้อนุ่มรสเค็มอ่อนๆ กับหอยหลอดและคาร์เวียร์ เสิร์ฟพร้อมวอเตอร์เครสซอสสีเขียวเข้มรสมัน ตัดรสเปรี้ยวด้วยมะนาวหั่นชิ้นเล็ก
Duo of Challans Duck จานนี้เสิร์ฟเป็ดชาลลองจากฝรั่งเศสใน 2 สไตล์คือ เนื้ออกเป็ดเซียร์และอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟกับซอสที่เคี่ยวจากกระดูกเป็ดรสเข้มข้นหวานอมเปรี้ยว คู่มากับอาร์ติโชคบดและย่างซอส
Black Beer Biscuit and Chocolate Ganache ความอร่อยที่ผสานกันของซอฟท์ช็อกโกแลตบิสกิต ช็อกโกแลตกานาช คาราเมลซอสที่อินฟิวส์ด้วยชาไทย และไอศกรีมช็อกโกแลตซอเบท์ ได้รสทั้งหวานเค็มผสมกัน มีรสของชาไทยที่ให้ทั้งกลิ่นหอมและตัดเลี่ยนได้ดี
ที่อยู่ : โรงแรมเลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ 1055 ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทร : 0-2624-9555
เปิดบริการ : 18.00-01.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
Tag:
, ฝุ่น PM2.5, รูฟทอปบาร์, วาเลนไทน์,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น