เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีนทีไร ความอร่อยสไตล์จีนมักพุ่งเข้าหาโดยไม่รู้ตัว เราเลยรวม 10 ร้านอร่อยที่ไม่ได้โดดเด่นแค่รสชาติตามแบบตำรับจีนเท่านั้น หากแต่ยังมาพร้อมบรรยากาศหว่องๆ ที่เพิ่มความเป็นลูกจีนให้เราอย่างเต็มขั้น
★ 1. Zong Ter ★
“ซงเต๋อ” คาเฟ่สไตล์จีนโมเดิร์นแห่งใหม่ที่อยู่ห่างจาก MRT สถานีวัดมังกรเพียงไม่กี่ก้าว เดิมทีตัวร้านเป็นร้านขายของชำเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นอากงที่รู้จักกันในชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดซงเต็ก ก่อนที่รุ่นลูกหลานจะเติมชีวิตชีวาให้ตึกนี้อีกครั้งด้วยการเปิดเป็นคาเฟ่ 3 ชั้น ที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยป้ายไฟนีออน โคมไฟสีแดง และภาพเพนต์หญิงสาวบนผนังที่ชวนให้หลุดเข้าไปในฉากหนึ่งของภาพยนตร์จีนยุคเก่าอย่างไรอย่างนั้น
ส่วนอาหารก็เรียกได้ว่าเอาเมนูประจำตระกูลมาให้ลิ้มลอง เช่น ชุดข้าวไก่นุ่มน้ำปลาหอม สะโพกไก่อวบๆ ต้มกับซอสน้ำปลา จนได้ไก่เนื้อนุ่มกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ กินคู่กับไข่ต้มยางมะตูมและ "กาน่าฉ่ายเห็ดหอม" ที่สำคัญในเซ็ตยังเสิร์ฟทั้งชาร้อนและชาเย็น ซึ่งทางร้านอยากให้จิบชาใบเตยเย็นๆ ประเดิมก่อน แล้วจึงค่อยจิบชาอู่หลงร้อนไว้ล้างปากตอนท้าย
หรือจะลองชุดข้าวพะโล้ (ที่ต้มแบบไม่ใส่เครื่องพะโล้) ที่พกพารสเค็มอ่อนๆ ทว่ากลมกล่อม เหมาะสำหรับคนที่ไม่นิยมกลิ่นเครื่องเทศ แถมมาครบทั้งปีกไก่ยังนุ่มๆ และหมูสามชั้น เสิร์ฟเคียงมาด้วยกาน่าฉ่ายและน้ำชาร้อน-เย็นเช่นกัน ขอบอกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาได้ใจกันไปเลยทีเดียว
พิกัด : 111 ซอยเจริญกรุง 16 ถนนเจริญกรุง สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ( MRT สถานีวัดมังกร ประตู 3 )
โทร : 0-2226-3149
★ 2. Feng Zhu Pork Shop & Co. ★
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมานี้ คงต้องบอกว่า “เฟิงจู” เป็นหนึ่งในร้านที่ดังในโซเชียลมีเดียแบบฉุดไม่อยู่ ด้วยคาแรกเตอร์ร้านที่ทั้งเล็กและเรียล ให้อารมณ์เหมือนร้านดิบๆ ในจีนที่ให้เราสั่งอาหารแล้วนั่งกินกันแบบเอาต์ดอร์ ส่วนด้านข้างร้านยังแบ่งพื้นที่เป็นบาร์พร้อมเก้าอี้ไม่กี่ตัว อีกทั้งผนังยังเต็มไปด้วยหนังสือพิมพ์จีนที่ชวนเชิญให้เก็บภาพสักรูปสองรูป
หากจะให้นิยามความหมาย “เฟิงจู” จะแปลว่าหมูที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสื่อถึง “ไส้เกี๊ยว” ที่เคี้ยวแล้วรู้ในทันทีว่านี่คือเนื้อหมูจริงๆ พ่วงด้วยคอนเซ็ปต์ ไม่พึ่งรสดี ไม่มีชูรส งดคนอร์ แล้วปรุงรสด้วยเกลือและซีอี๊วนิดหน่อย จนเกี๊ยวชิ้นใหญ่ที่เห็นไส้ข้างในแบบเต็มๆ ในสนนราคาชิ้นละ 12 บาทเท่านั้น ซึ่งความดีงามยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังมีความอร่อยเด็ดดวงด้วยท้อปปิ้งหมายหน้าหลายตาอย่างไข่กุ้ง ชีส ผัก ให้เราได้สร้างสรรค์อย่างสนุก
พิกัด : ตรงข้ามโรงแรม River city ใกล้ท่าเรือสี่พระยา เจริญกรุง 24
โทร : 06-2264-4661
★ 3. ถ้วยถังไอติม ★
คาเฟ่จีนสไตล์โมเดิร์นที่กลายเป็นขวัญใจของบรรดานักศึกษาไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยราคาที่น่ารักน่าคบหา แถมยังใกล้แหล่งสถานศึกษาที่พกพาความจีนมาอย่างเต็มพิกัด แต่กลับชวนให้คิดถึงร้านติ่มซำเสียมากกว่า เพราะบนโต๊ะเต็มไปด้วยกล่องตะเกียบชุดใหญ่ ซึ่งเราคงต้องบอกว่า ใช่ค่ะ เราสามารถใช้ตะเกียบคีบไอติมได้!
อีกหนึ่งความน่ารักคงต้องยกให้ความครีเอตที่นำเอาไอติมแบบโบราณที่บรรจุอยู่ในถังสแตนเลสใบยักษ์มาจับคู่กินกับหมั่นโถวนึ่ง หมั่นโถวทอด และพุดดิ้ง ส่วนรสชาติไอศกรีมนั้นก็มีให้ให้เลือกหลากแต่ก็ไม่ซ้ำใคร เพราะมีรสแปลกๆ อย่างเช่น รสเกาลัด รสถั่วตัด รสไอติมนมชมพูถั่วแดง รสน้ำเต้าหู้งาดำ รสชานมไต้หวัน และรสไมโลโรงเรียน
ที่เราได้ลองเป็น Set Fried Bun หมั่นโถวกรอบสอดไส้ไอศกรีมเกาลัดรสหวานละมุนราดด้วยคาราเมลและไอซิง และ Set Steamed Bun หมั่นโถวนึ่งเนื้อนุ่มหนึบเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสชานมไต้หวันและครีมไข่มุกนุ่มๆ ที่อร่อยจนเราหลับตาพริ้ม
พิกัด : 981 ซอยจุฬา 12 (ริมถนนบรรทัดทอง) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร : 061-412-4702
★ 4. Tai Guan Café ★
แม้ว่าทางไปคาเฟ่ร้านนี้จะต้องเดินลัดเลาะจนเหงื่อตก แต่เมื่อผลักประตูกระจกเข้ามาใน “ไทง้วน คาเฟ่” คาเฟ่สไตล์โมเดิร์นไชนีสในชั้นล่างของบ้านเก่าอายุ 200 ปี ของชาวจีนรุ่นแรกที่เข้ามาปักหลักอาศัยในย่านตลาดน้อย เยาวราช เราก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง หลังจากปะทะบรรยากาศเก๋ไก๋กรุ่นกลิ่นอายอดีตของที่นี่
ความโดดเด่นของไทง้วนคือการปรับเปลี่ยนบ้านเก่าด้านหลังศาลเจ้าให้ดูร่วมสมัยและคงความเป็นบ้านคนจีนไว้อย่างลงตัว ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ประตูบานเฟี้ยม พื้นกระเบื้องหลากสี ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากเมนูที่ดูมีกลิ่นอายจีนอย่างเต็มขั้น ไม่ว่าจะเป็น วุ้นเก๊กเก่ากี้ เมนูซิกเนเจอร์ที่นำเก๊กฮวย เก๋ากี้ ซานจา และน้ำผึ้ง มาทำเป็นวุ้นเสิร์ฟในโดมแก้วสวยงาม
ตามด้วย ชาผลไม้ ชุดชาร้อนที่เบสด้วยชามะลิผสมผลไม้รวม รสออกเปรี้ยวอมหวานนิดๆ เสิร์ฟพร้อมสัมปันนีชิ้นเล็กๆ น่ารัก ร่วมด้วย เปี๊ยะวัฟเฟิลไส้หมูแดงและเผือกไข่เค็ม ที่นำขนมเปี๊ยะที่เรารู้จักมาอบในเครื่องทำวัฟเฟิลจนได้แป้งที่ทั้งกรอบและหอม ยิ่งกินก็ยิ่งติดใจ
พิกัด : ถนนเจริญกรุง (ด้านหลังศาลเจ้าโจวซือกง) แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
โทร : 08-7387-7770
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/830
★ 5. คนชง คนปรุง ★
หากให้เทียบในบรรดาร้านทั้งหมด คงต้องบอกว่าร้านนี้เป็นร้านรุ่นแรกๆ ที่นำบรรยากาศแบบจีนมาใช้ เริ่มตั้งแต่โต๊ะเก้าอี้ไม้ทรงกลม ภาพวาดลายเส้นจีน ไปจนถึงลูกคิดและพัดกระดาษที่น่าหยิบมาถ่ายรูปเล่นแล้ว ที่สำคัญร้านนี้ยังอยู่ในรายชื่อความอร่อยโดยได้ Bib Gourmand ของ Michelin's Guide ประจำปี 2020 มาการันตีอีกด้วยนะ
ซึ่งความอร่อยอันเลื่องชื่อก็มาจากการนำเอาความเป็นไทยและจีนผสมกันจนได้เมนูเด็ด อาทิ ข้าวหนำเลี้ยบหมูสับดอกขจร ที่เพิ่มรสชาติความเค็มอันคุ้นเคยให้มีมิติยิ่งขึ้นด้วยกากหมู หอมแดง และพริกสด แต่ถ้าอยากเพิ่มรสเปรี้ยวๆ ก็อย่าลืมบีบมะนาวลงไปด้วย
หรือจะอิ่มคำโตกับ ข้าวขาหมูทอด ขาหมูหมักเครื่องเทศชิ้นโตทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมไข่พะโล้รสกลมกล่อม ส่วนเครื่องดื่มก็มี เส้าหลิน น้ำบ๊วยปั่นกับผิวส้ม รสเปรี้ยวหวานสดชื่นที่ทำให้เรานึกถึงวัยเด็ก
พิกัด : ซอยอินทามระ 3 สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โทร : 09-7251-8178
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/336
★ 6. Heijii Bangkok ★
คาเฟ่ในซอยเจริญกรุง 43 ที่เล่าเรื่องราวความอร่อยผ่านบรรยากาศของโรงน้ำชาร่วมสมัยที่ดัดแปลงมาจากอาคารห้องแถวเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี จุดเด่นของที่นี่เลยมีตั้งแต่ ผนังอิฐปูนเปลือย โต๊ะไม้ยาวมุมกระจก เก้าอี้เหล็กพับบุหนังสีแดง ภาชนะสไตล์จีนวินเทจ ไปจนถึงเคาน์เตอร์บาร์ไม้ทาสีเขียวที่เต็มไปด้วยโหลแก้วใส่เครื่องดื่มต่างๆ ที่ทางร้านชงแบบวิธีโบราณทั้งหมด
เช่นเดียวกับเมนูที่ออกแบบมาให้เข้ากับตัวร้าน ไม่ว่าจะเป็น Yin Yang กาแฟนมที่แบ่งฝั่งเป็นหยินและหยาง ฝั่งหนึ่งเป็นมอคคา อีกฝั่งเป็นครีมกับกาแฟ เข้ากันดีกับ Financier with Kumquat Sauce ขนมฝรั่งเศสรูปร่างคล้ายทองคำแท่ง
อีกเมนูที่เราถูกใจ Hongkong Papaya Milk นมมะละกอสไตล์ฮ่องกงที่ใช้มะละกอปั่นกับนมสูตรของทางร้านจนได้รสละมุน และ Fangzi Cake เค้กทรงสามเหลี่ยมหน้าตาเหมือนบ้าน เนื้อเค้กเป็นฮาเซลนัทแทรกด้วยช็อกโกแลต และรสเปรี้ยวๆ หอมๆ ของเลม่อนไอซิ่ง
พิกัด : ซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โทร : 08-3466-8999
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/583
★ 7. Lhong Tou Café ★
อีกคาเฟ่สุดฮิตที่สร้างปรากฏการณ์ต่อคิวมาแล้วทุกสาขา (สาขาล่าสุดมีที่ The Market ราชประสงค์) จนหลายคนบอกว่านี่คือ คาเฟ่สไตล์จีนที่ผสมผสานความเก๋ไก๋เอาใจฮิปสเตอร์เสียมากกว่า แต่ความจริงแล้วนี่คือร้าน All Day Breakfast สไตล์จีนแบบเยาวราชที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง จึงออกมาเมนูฉบับลูกครึ่งไทย-จีนที่ผสมผสานวัตถุดิบดีๆ ก่อนจะดีไซน์หน้าตาเมนูออกมาให้ดูง่ายและสนุก
ไม่ว่าจะเป็น Chinese Set เซตข้าวต้มกินคนเดียวที่รวมความอร่อยจากเครื่องเคียง 8 อย่างจากเยาวราชมาไว้ในเมนูเดียว ส่วนข้าวต้มเสิร์ฟร้อนๆ หอมน่ากิน ใครชอบติ่มซำต้องลอง Lhong Tou Shumai ลูกผสมระหว่างเกี๊ยวและขนมจีบ สอดไส้หมูผสมผักกุยช่ายกินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด และ Egg Lava Bun ซาลาเปาไส้คัสตาร์ดไข่เค็มเยิ้มๆ ชิ้นกะทัดรัดที่ชวนหยิบเข้าปากอย่างที่สุด
พิกัด : ถนนเยาวราช (ใกล้สี่แยกเฉลิมบุรี) แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
โทร : 08-5824-6934
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/517
★ 8. ยุ้งฉาง ★
สาวกคนรักเส้นและบะหมี่ควรจดร้านนี้ไว้ในใจกันได้เลย เพราะยุ้งฉางได้นำความอร่อยที่ไม่เหมือนใครมาให้คนไทยได้รู้จัก ด้วยการชูโรงเส้น “เปี๋ยง เปี๋ยง เมี่ยน” บะหมี่ขึ้นชื่อของซีอานมาเป็นหัวใจหลักและปรับความเนียนนุ่มให้กินง่ายในสไตล์ของตัวเอง อีกทั้งบรรยากาศยังชวนให้นึกถึงโรงเตี๊ยมในหนังจีนอย่างไรอย่างนั้น
เมนูเด็ดขอยกให้กับ เปี๋ยงหมูสามชั้นตุ๋นย่างในน้ำซุปกระดูกหมูโครงไก่ หมูสามชั้นตุ๋นในน้ำซอส ก่อนนำมาย่างไฟจนหอม ส่วนน้ำซุปก็กลมกล่อมลื่นคอไม่มันหรือเลี่ยนจนเกินไป และ เปี๋ยงเนื้อวัวสับผัดผงกะหรี่โปะไข่แดงดิบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับที่หลายคนคุ้นเคย แต่นำเนื้อวัวมาผัดผงกะหรี่ท็อปด้วยไข่แดงดิบ แล้วราดบนเส้นเปี๋ยงแทน ซึ่งได้รสชาติเข้มข้นลงตัวอย่างสุดๆ
พิกัด : ซอยอารีย์สัมพันธ์ 6 ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โทร : 09-0976-4686
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/699
★ 9. Honest Mistake Bar ★
ส่วนใครอยากลองย้อนยุคไปสมัยเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะมาอีกหนึ่ง “บาร์ลับ” ที่ได้จำลองบรรยากาศของบ่อนพนันในสมัยหลังสงครามโลกได้ดีงามทุกกระเบียด จนเราอยากจะเปลี่ยนคอสตูมชุดเราให้เหมือนกับน้องๆ ในร้านกันเลยทีเดียว
เมื่อมาถึงอย่าลืมลองจิบเครื่องดื่มขึ้นชื่ออย่าง Hor Nang Lohm หรือ “หอนางโลม” ค็อกเทลที่ผสมผสานความหวานและเปรี้ยวจากส่วนผสมของเหล้ารัม ผสมสีสันของใบเตย รสชาติของมะพร้าว เสิร์ฟในแก้วชาโบราณพร้อมด้วยกลีบดอกบัวเพิ่มความหอมละมุน
หรือจะลอง Peach Don't Bluff วิสกี้ที่เพิ่มรสหอมหวานด้วยเหล้าพีชและกล้วยหอม ตัดรสด้วยมะนาว แถมยังเก๋ไก๋ด้วยการรมควันชาอู่หลงที่ส่งควันฉุยให้กับเราก่อนดื่ม
พิกัด : โครงการ AQUA ซอยบุญมา (ระหว่างแยกสะพานควายกับธนาคารออมสิน) ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
โทร : 062-490-5162
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/700
★ 10. Bā hào ★
บาร์สไตล์จีนที่เรารักมากที่สุด เพราะที่นี่ไม่ได้ดีงามแค่บรรยากาศจากไฟสีแดงที่ย้อมให้ร้านดูเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเท่านั้น หากที่นี่ยังมาพร้อมอาหารจีนสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดที่จับคู่กับเครื่องดื่มได้อย่างเหมาะเจาะ อาทิ Soft Tofu เต้าหู้เนื้อเบานุ่มที่หอมกลิ่นของถั่วเหลือง ราดซอสรสเปรี้ยวกินคู่กับไข่เยี่ยวม้า หรือจะลอง Duck Wontons เกี๊ยวแป้งบางสอดไส้เนื้อเป็ดนุ่มๆ ราดด้วยน้ำมันงาแบบเผ็ด เคี้ยวเต็มคำ
หากยังไม่จุใจก็ยังมี Kau Yuk with Pancake เมนูสุดล้ำที่นำเอาหมูเคาหยกเนื้อนุ่มละลายที่มีรสชาติในตัวเองมากินกับโรตีกรอบและไข่ดาว เพื่อให้ได้สัมผัสแปลกใหม่ แล้วอย่าลืมจิบ Five Rivers ค็อกเทลสุดเริ่ดที่นำเอาจุดเด่นของไฟว์สไปซ์หรือที่บางคนเรียกติดปากว่า “ผงพะโล้” มาผสมกับเหล้ารัม จนได้รสชาติเปรี้ยวๆ เย็นๆ และหอมขึ้นจมูก ไม่ลองเป็นไม่ได้!
พิกัด : 8 ซอยนานา ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
โทร : 09-1846-9659, 08-1454-4959
อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.gourmetandcuisine.com/going_out_eating/detail/88
Tag:
, รวมร้านอร่อย, อาหารจีน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น