สเต๊กเนื้อนุ่มละมุนลิ้น โรยเกลือน้อยๆ จิ้มซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ถือเป็นสวรรค์ของเหล่า Steak Lover ทั้งหลาย ซึ่งแต่ละร้านที่เราคัดมานั้น ล้วนเป็นสเต๊กเกรดพรีเมียม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บอกเลยว่าสายเนื้อทั้งหลายต้องถูกใจกับร้านที่เราคัดมาให้แน่นอน!

1. Harrison Butcher
หลังจากคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงเนื้อมายาวนาน ตอนนี้ Harrison Butcher ขยับขยายจากการเป็นบุชเชอร์ที่ส่งต่อเนื้อดีๆ ไปตามร้านอาหารหลายแห่ง สู่การเปิดร้านสเต๊กเฮาส์อย่างเต็มรูปแบบในซอยเพชรบุรี 47 สะดุดด้วย Dried-age room ห้องกระจกใสมีเนื้อดรายเอจส่วนต่างๆ แขวนโชว์เหมือนกับโชว์รูมเนื้อขนาดใหญ่ ความน่าสนใจคือการส่งเสริมโคขุน สายพันธุ์ชาร์โรเล่ส์ สายพันธุ์ฝรั่งเศสที่ขุนในไทย จุดเด่นอยู่ที่เนื้อเยอะ ตัวใหญ่ กลิ่นเนื้อไม่แรง ที่สำคัญเลี้ยงอย่างปลอดภัย ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดง

เมนูสเต๊กแนะนำ
Harrison Selected - ร้านคัดเนื้อส่วนที่ดีที่สุดประจำวันมาทำเป็นสเต๊กเสิร์ฟ 3 ชิ้น Strip loin, Short rib และ Sirloin พร้อมซอสเกรวี่ กินคู่จานเคียงอย่างมันบด ขนมปังกระเทียม กระเทียมย่าง หรือสลัดผลไม้ราดซอสส้มตำแซ่บๆ

ที่ตั้ง : 11/56 ซอยเพชรบุรี 47 แขวงบางกะปิ ห้วยขวาง กทม
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2821-5889
เวลาเปิด – ปิด : 11.30-22.00 น.

2. New York Steakhouse
กว่า 16 ปีที่เปิดให้บริการ ร้านนี้ยังคงครองใจคนที่ชื่นชอบสเต๊กอยู่เสมอ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อการเสิร์ฟเมนูสไตล์คลาสสิค เนื้อสเต็กชิ้นใหญ่ๆ ซอสรสชาติที่คุ้นลิ้น และการบริการที่ไม่เป็นรองใคร ทำให้มีลูกค้าทั้งครอบครัว กลุ่มเพื่อนและนักธุรกิจเป็นลูกค้าขาประจำ

เมนูสเต๊กแนะนำ
Spice Rubbed Wagyu Tomahawk - ออสเตรเลียวากิวโทมาฮอว์คเนื้อติดซี่โครงชิ้นโตหนักกว่า 1.5 กิโลกรัม ย่างสุกแบบปานกลางมาหั่นเสิร์ฟที่โต๊ะ เนื้อมีกลิ่นหอม นุ่ม เคี้ยวเพลิน

ที่ตั้ง : โรงแรมเจดับบลิวแมริออท กรุงเทพ 4 ถนนสุขุมวิท ซอย2 กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 0-2656-7700
เวลาเปิด – ปิด : 18.00-23.00 น.

3. Steak Factory
พิกัดความอร่อยของสายเนื้อที่อยากเชื้อเชิญเพราะเข้าถึงง่ายใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ อีกทั้งสเต๊กร้านนี้ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 100 บาทแต่ใช้เนื้อเกรดดีๆ ทั้งนั้น ใครอยากย่างเนื้อเองก็มีเตาร้อนให้สนุกกับการย่างเนื้อที่เลือกระดับความสุกได้ตามชอบอีกด้วย

เมนูสเต๊กแนะนำ
Steak Factory No.1 - นำทีมโดยหมูพริกไทยดำ พอร์กชอฟ ไก่สไปซี่ และปลาดอรีราดซอสโฮมเมดมาพร้อมสลัดผัก 5 อย่างราดครีมฉ่ำๆ และเฟรนช์ฟรายส์กรอบนอกนุ่มใน

ที่ตั้ง : โครงการ The Quarter วุฒากาศ ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางค้อ เขตจองทอง กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 09-8653-4624
เวลาเปิด – ปิด : 16.30-22.00 น.

4. AantArm Café
ขอยกให้เป็นขวัญใจนักชิมชาวตลาดพลูในตอนนี้สำหรับ “AantArm Café” (เอ แอนต์ อาร์ม คาเฟ่) ร้านอาหารเล็กๆ สไตล์โฮมเมดบนถนนเทอดไท ที่ตั้งตามชื่อของ 3 พ่อแม่ลูกเจ้าของร้าน ที่อยากนำเสนอเมนูอร่อยกินง่ายสูตรเด็ดฝีมือคุณ ที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีแบบที่เรียกว่าคุ้มค่าเกินราคาและกินได้ทุกวัน ที่นี่เลือกใช้เนื้อโคขุนและเนื้อไทยระดับคุณภาพและเลือกใช้เนื้อแต่ละส่วนให้อร่อยเหมาะกับทุกเมนู

เมนูสเต๊กแนะนำ

Thai – French Chuck Steak - สเต๊กเนื้อสันคอย่างแบบมีเดียมแรร์ กินคู่ซอสสูตรลับสไตล์ญี่ปุ่นรสเค็มหวาน (ที่เจ้าของร้านแอบเรียกว่าซอสอเนกประสงค์ เพราะอร่อยเข้ากันกับแทบทุกเมนู) เสิร์ฟพร้อมกระเทียมเจียวกรอบๆ และผักสลัด

ที่ตั้ง : ซอยเทอดไท 29 ถนนเทอดไท แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 08-1831-7630
เวลาเปิด – ปิด : 11.30 – 20..0 น. (หยุดทุกวันพุธ)

5. Journey of Meats
ร้านสเต๊กเฮาส์และบุชเชอร์ช็อปในบ้านสีขาวหลังใหญ่ ซึ่งเจ้าของร้านติดใจสไตล์ร้านสเต๊กเฮาส์ในนิวยอร์กที่เสิร์ฟเนื้อชิ้นหนา กินแล้วจุใจ แถมรสชาติดี เมื่อเปิดร้านของตัวเองจึงแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทำโซนบุชเชอร์ ให้ลูกค้าได้เลือกเนื้อที่ต้องการ จากนั้นเลือกจานเคียงตามชอบ แล้วมานั่งรอเสต๊กจานอร่อยที่โต๊ะได้เลย โดยเนื้อของที่ร้านนำเข้ามาจากหลายแห่ง อาทิ US Angus, Australian Wagyu, Australian Black Angus รวมถึงของดีใกล้ตัวอย่างเนื้อไทยโคขุน ทีเด็ดคือเนื้อไทยดรายเอจที่เอจจิ้งด้วยบรั่นดีไทย กลิ่นหอมชัดและได้รสชาติที่เข้มขึ้นอีกระดับ

เมนูสเต๊กแนะนำ
Mixed Grill - สเต๊กรวม 4 เนื้อ อกไก่ พอร์คช็อป เนื้อแกะส่วนแลมป์ช็อป และเนื้อดรายเอจออสเตรเลียนแบล็คแองกัสส่วนสันใน ชิ้นหนา ย่างแล้วยังคงความชุ่มฉ่ำ เคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติของเนื้อได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ที่ตั้ง : 9 ซ.รามคำแหง 24 แยก 20 หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 0-2077-0660, 061 407 6060
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ - ศุกร์ 17.00-22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ 11.00-14.00 และ 17.00-22.00

6. Flat Marble
ร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ซึ่งในแต่ละวันรับลูกค้าเพียง 3 รอบ 17.00-19.00 น., 19.00-21.00 น. และ 21.00-24.00 น. รอบละ 12 คน ทำให้เชฟและหุ้นส่วนร้านมีโอกาสได้พูดคุยและดูแลลูกค้าในอารมณ์ของเชฟเทเบิล แต่สิ่งที่แตกต่างคือเสิร์ฟอาหารแบบอะลาคาร์ต ไม่ใช่คอร์สแบบตามใจเชฟ เรามีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ชอบ โดยเมนูอาหารจะปรับเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่ได้มาในแต่ละวัน

T-Bone Steak - เนื้อสันในและเนื้อสตริปลอยน์ติดมันหน่อยๆ เสิร์ฟกับซอสเรดไวน์และซอสมัชรูม หรือจะทานกับเกลือเดดซีที่ชูรสได้ดีก็อร่อยไม่แพ้กัน

ที่ตั้ง : ถนนพหลโยธิน ซอย 9 (ซอยชำนาญอักษร) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 06-1695-9666
เวลาเปิด – ปิด : 17.00-24.00 น. (หยุดวันเสาร์)

7. Bull & Bear
คนรักเนื้อและกลิ่นสโมคหอมๆ ต้องเทใจให้เมื่อ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ยกร้านสเต็กชั้นดี “บูลแอนด์แบร์” (Bull & Bear) จากนครนิวยอร์คมาเสิร์ฟที่กรุงเทพฯ ภายใต้ชื่อ “บูลแอนด์แบร์” ซึ่งมาจากสถานที่ตั้งของร้านสาขานิวยอร์คที่อยู่ใกล้กับตลาดหลักทรัพย์ คำว่า “Bull” หรือกระทิงนักค้าหุ้นจะใช้เรียกในวันที่หุ้นขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ส่วน “Bear” หรือ หมีจะใช้เรียกในวันที่หุ้นมีราคาตกลงนั้นเอง

เมนูสเต๊กแนะนำ
Bone in Ribeye - สเต็คเนื้อริบอายชิ้นใหญ่ติดกระดูก เชฟคุมอุณหภูมิและย่างไฟมาอย่างดี ได้ผิวกรอบที่เป็นครัสสีน้ำตาลสวย เนื้อในนุ่มสีชมพูฉ่ำแบบสุกปานกลาง

ที่ตั้ง : ชั้น 55 โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ 151 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
เบอร์โทร : 0-2846-8888
เวลาเปิด – ปิด : 18.00 น. – 22.00 น.

Tag: , ร้านเสต๊ก, เนื้อวากิว, เนื้อสเต๊ก,