เป็นได้ทั้งของกินเพลินๆ และมื้อหลักแบบจัดเต็มที่รู้ตัวอีกทีก็เห็นไม้วางเรียงเป็นกอง เรากำลังพูดถึงสุดยอดอาหารที่ไม่เคยตกหล่นจากเมนูยอดฮิตอย่าง “หมูสะเต๊ะ” ที่แต่ละร้านเขามีกลเม็ดเคล็ดลับในการหมัก การย่าง ไล่ยาวไปถึงเรื่องน้ำจิ้มและอาจาด วันนี้เราจะพาไปอร่อยกับ 5 ร้านหมูสะเต๊ะที่ทำเอาพุงแน่นแบบไม่รู้ตัว

★ 1. มังกรทอง ★

ร้านหมูสะเต๊ะมาแรงในโลกโซเชียลจนเราต้องรีบมาพิสูจน์ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังในความนุ่มฉ่ำลิ้นที่พอได้กินก็ถึงกับฟินจนลืมเวลา จุดเด่นของหมูสะเต๊ะมังกรทองคือความนุ่มไร้มันส่วนเกิน เพราะทางร้านนำหมูสันนอกมาบรรจงเลาะส่วนมันหมูออกจนหมด เหลือเพียงเนื้อหมูล้วนๆ แล้วหมักกับเครื่องปรุงรสและสมุนไพรหลายชนิด โดยใช้เวลาในการหมักทั้งหมด 2 วัน (ตั้งอกตั้งใจขนาดนี้เนื้อไม่นุ่มเครื่องปรุงไม่ซึมถึงเนื้อในให้รู้ไป)

ส่วนการเสียบหมูยิ่งไม่ธรรมดา เพราะใช้วิธีเสียบย่นเพื่อให้ชิ้นหมูหนานุ่ม เคี้ยวแล้วชุ่มฉ่ำเต็มปาก หมูสะเต๊ะที่สมบูรณ์แบบจะขาดกำลังเสริมอย่างน้ำจิ้มสูตรเด็ดไม่ได้ ซึ่งทางร้านให้ความสำคัญไม่น้อยหน้าส่วนอื่น ส่วนผสมทุกอย่างคัดอย่างดีไม่ว่าจะเป็นกะทิคั้นสด ถั่วลิสงคั่วบดเกรดเอ ผสมกับมัสมั่นสูตรลับที่รสชาติกลมกล่อมไม่เผ็ดมาก และถ้าจะให้อร่อยที่สุดต้องกินตอนร้อนๆ จุ่มน้ำจิ้มชุ่มๆ แล้วส่งเข้าปากละเลียดช้าๆ เพื่อสัมผัสทุกมิติของกลิ่นและรสสัมผัสไปพร้อมกัน หรือจะลองขยับไปจุ่มอาจาด 3 รสที่กลมกล่อมไม่เหมือนใครก็ช่วยเสริมรสชาติให้หมูสะเต๊ะมังกรทองอร่อยขึ้นแบบทวีคูณทีเดียว

กินที่ร้านอิ่มแล้วอยากซื้อติดมือกลับบ้านทางร้านแนะนำให้เก็บใส่ตู้เย็นไว้ เวลาจะกินก็แค่หยิบมาอุ่นในไมโครเวฟ 20-30 วินาทีก็ได้หมูสะเต๊ะเนื้อนุ่มใกล้เคียงกับตอนกินที่ร้านแล้ว

พิกัด : 314 ถนนมิตรภาพไทย-จีน แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ วันจันทร์ 17.00-22.00 น., วันอังคาร-อาทิตย์ 10.00-22.00 น.
โทร. 06-2164-6461
 

★ 2. หมูสะเต๊ะ “นายนะ” เข้าวัง-ทรงเสวย ★

ใครผ่านมาแถวร้านค้าสวัสดิการกลางกองทัพบกย่านพระราม 6 แล้วได้กลิ่นหอมชวนหิว แนะนำให้เร่งฝีเท้าตามมาจะได้พบกับหมูสะเต๊ะร้อนๆ บนเตาถ่านที่มีความยาวถึง 4 เมตรครึ่ง ซึ่งเป็นที่มาของความหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณของหมูสะเต๊ะนายนะที่ยืนหยัดความอร่อยมายาวนานกว่า 20 ปี

ความเหนือชั้นอยู่ที่ขั้นตอนสุดพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่เลือกใช้เฉพาะหมูส่วนสันนอก นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงจนเข้าเนื้อก็ได้เวลาบรรจุลงถุงใส่ตู้แช่ รอให้ถึงเวลาปิ้งค่อยนำออกมาเสียบไม้ เสียบให้กลมๆ เพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำไว้ หมูต้องไม่แน่นเกินและไม่น้อยไป ให้รูดกินได้แบบพอดีคำ อีกเคล็ดลับถนอมความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูคือเทคนิคควบคุมไฟไม่ให้แรงเกิน ต้องคอยพลิกหมูไปมาและสังเกตว่าถ้าหน้าเริ่มตึงก็ถึงเวลาชุบน้ำกะทิเพิ่มความนุ่ม ทำซ้ำเป็นระยะเพื่อให้เนื้อหมูสุกระอุอยู่ด้านใน หมูสะเต๊ะที่พร้อมเสิร์ฟจะส่งกลิ่นหอมและมีสีนวลสวยชวนน้ำลายสออย่างที่เห็น

ส่วนน้ำจิ้มถือเป็นทีเด็ด นายนะจะตื่นแต่เช้าตรู่มาเคี่ยวด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าได้รสชาติกลมกล่อมไม่ผิดเพี้ยน เช่นเดียวกับอาจาดทำเอง ใส่ทั้งหอมแขกและแตงกวาให้เคี้ยวกรุบกรอบช่วยตัดเลี่ยน ที่นี่ยังมีไก่สะเต๊ะและเนื้อสะเต๊ะที่ระดับความนุ่มไม่เป็นรองกัน เคี้ยวฟินกินเพลินทุกไม้

พิกัด : ร้านค้าสวัสดิการกลางกองทัพบก ถนนพระราม 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
เปิดบริการ ทุกวัน 07.00-14.00 น.
โทร. 08-1921-9826, 08-0910-8143
 

★ 3. ชองกี่ หมูสะเต๊ะ ★

ยังเป็นร้านหมูสะเต๊ะที่ตรึงใจไม่เคยเปลี่ยน สำหรับร้านชองกี่แห่งซอยสุกรที่สืบทอดความอร่อยมากว่า 80 ปีตั้งแต่รุ่นอากงจนถึงรุ่นหลาน เอกลักษณ์ของร้านคือการทำห้องย่างหมูหลังร้าน ไม่ได้วางเรียงด้านหน้าเหมือนร้านอื่น แถมมีท่อสำหรับดูดควันอย่างดี (หากอยากเห็นกรรมวิธีการย่างระดับตำนานก็ลองขอเข้าไปดูได้)

ใครอุดหนุนกันอยู่เป็นประจำจะรู้ว่าหมูสะเต๊ะของชองกี่มีรสชาติเฉพาะตัวคือรสออกเค็มอ่อนๆ ไม่หวาน กินแล้วรู้สึกได้ถึงเครื่องหมัก เพียงเริ่มไม้แรกก็กินต่อได้อีกยาวๆ ที่ร้านใช้เนื้อหมูส่วนสันนอกหมักกับเครื่องเทศทั้งจีนและไทย เสียบไม้แบบชิ้นหนาให้เคี้ยวได้สะใจ ย่างด้วยเตาถ่าน ระหว่างนั้นก็ออกแรงพัดให้ไฟแรง พรมด้วยน้ำกะทิไปด้วย เนื้อหมูจึงฟู ฉ่ำ และไม่กระด้าง ส่วนน้ำจิ้มของร้านก็เด็ดมาก ได้ความข้นจากถั่ว กะทิ และเครื่องเทศล้วนๆ โดยไม่ผสมแป้ง ที่สำคัญใส่เครื่องแกงไทยลงไปด้วย รสจัดจิ้มเพลินแบบฉุดไม่อยู่

ที่โด่งดังไม่แพ้กันคือตับสะเต๊ะที่ขายทุกวันไม่เคยขาด ชิ้นหนาและนุ่ม ที่ร้านใช้ “ตับแป้ง” ไม่เหม็นคาว ย่างแล้วไม่มีเลือดไหลซิบออกมา หมักกับเครื่องเทศคนละสูตรกับหมูสะเต๊ะ แต่ย่างแบบเดียวกันจึงนุ่มอร่อย อย่าลืมสั่งขนมปังปิ้งมากินคู่กัน ที่ร้านยังใช้ขนมปังหัวกะโหลกโบราณจากโรงงานเดิมตั้งแต่สมัยอากง เนื้อเบา พอเจอน้ำจิ้มที่เป็นแกงแล้วเข้ากันเป็นพิเศษ

พิกัด : 84-88 ซอยสุกร 1 ถนนตรีมิตร แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ วันจันทร์ 09.30-14.00 น., วันอังคาร-อาทิตย์ 09.30-17.30 น.
โทร. 0-2233-4100
 

★ 4. หมูสะเต๊ะซอยสว่างเจ้าเก่า ★

ถือเป็น 1 ในตำนานสำหรับร้านหมูสะเต๊ะซอยสว่างเจ้าเก่า ร้านดังสูตรดั้งเดิมอายุกว่า 60 ปีที่วันนี้เข้าสู่เจเนอเรชันที่ 3 แล้ว แต่ยังคงรสชาติได้คงเส้นคงวาเหมือนสมัยอากงผู้บุกเบิก การเดินทางก็แสนง่ายแค่เลี้ยวเข้าซอยสว่าง 6 แล้วเดินตามกลิ่นหอมๆ มาได้เลย ร้านอยู่หัวมุมพอดี มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกินสบายๆ ไปพร้อมกับชมลีลาการย่างหมูสะเต๊ะไฟลุกอยู่หน้าร้าน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของร้านนี้ที่ต้องใช้ไฟแรงให้เนื้อหมูพองฟู สลับกับพรมหัวกะทิเพิ่มความหอมมันและชุ่มฉ่ำให้กับเนื้อหมู ผิวนอกที่สัมผัสความร้อนจะเกรียมนิดๆ เวลาเคี้ยวจะหนึบหนับได้กลิ่นหอมควันไฟขึ้นจมูก

ทีเด็ดความนุ่มของหมูสะเต๊ะอยู่ที่ใช้หมูสันนอกอย่างดีหมักข้ามวันก่อนนำมาเสียบไม้ เน้นความหนานุ่ม เวลาเคี้ยวจะรู้สึกเต็มปากเต็มคำ เคี้ยวไป ฟินไป เสริมรสด้วยน้ำจิ้มถั่วลิสงเกรดเอเคี่ยวกับหัวกะทิคั้นสด ทั้งเข้มข้น หอมมัน มีรสเค็มนิดๆ ติดปลายลิ้น กินกับอาจาด 3 รสเพิ่มความสดชื่นและช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว  ที่ปลื้มมากคือใส่แตงกวาและหอมซอยมาให้แบบพูนจาน สะใจคนรักผัก

พิกัด : ซอยสว่าง 6 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เปิดบริการ ทุกวัน 12.00-20.00 น.
โทร. 0-2236-2059, 08-0552-7644
 

★ 5. มิ้งโภชนา ★

ปิดท้ายด้วยร้านมิ้งโภชนา หมูสะเต๊ะเจ้าดังแห่งย่านบรรทัดทองที่ครองใจคนรักหมูสะเต๊ะมายาวนาน ที่มาของความนุ่มหอมเคี้ยวหนึบอยู่ที่การเลือกใช้เนื้อหมูสันนอกติดมัน นำมาแล่ชิ้นเล็กๆ หมักด้วยเครื่องปรุงหลายชนิดแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนรอให้ส่วนผสมกลมกลืนเข้าด้วยกันจึงนำมาเสียบไม้ให้กินได้แบบพอดีคำ ทางร้านเน้นไฟแรงปานกลางเพื่อรักษาความชุ่มฉ่ำของน้ำในเนื้อไว้ ระหว่างการย่างจะพรมน้ำกะทิเพิ่มความหอมมันและช่วยให้ผิวนอกนุ่มไม่กระด้าง เวลาเคี้ยวจะหนึบหนับได้รสชาติของเครื่องปรุงรสที่กลมกล่อมกำลังดี แต่ถ้าจะให้ครบรสต้องจบด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ดสักหน่อย โดยเฉพาะน้ำจิ้มถั่วต้นตำรับที่เข้มข้นจนต้องยกนิ้วให้ และน้ำจิ้มดำสูตรพิเศษ รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ กินตัดรสได้อย่างพอดิบพอดี

นอกจากหมูสะเต๊ะทีเด็ดยังไม่หมดเท่านี้ เพราะมีคู่ซี้อย่างไก่สะเต๊ะที่เนื้อนุ่มหอมมันเข้ามาช่วยเสริมทัพ แต่ที่จับใจและอยากกดไลค์ให้รัวๆ เพราะกินที่ไหนก็ไม่เหมือนคือตับสะเต๊ะ ทางร้านเน้นหั่นชิ้นหนาให้เคี้ยวได้สะใจ มีทั้งความนุ่มและสู้ฟัน ที่สำคัญไม่มีกลิ่นกวนใจ ถ้าจะให้ครบรสสูตรเด็ดต้องสั่งขนมปังปิ้ง ผิวนอกกรอบเกรียมนิดๆ แต่กัดแล้วเนื้อในนุ่มมาก จัดเป็นเมนูกินเล่นที่กินแล้วอิ่มท้องได้เลย

พิกัด : Stadium One ปากซอยจุฬา 6 ถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 09.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
โทร. 0-2611-7921, 0-2214-1750, 08-4499-9515

Tag: , รวมร้านอร่อย, หมูสะเต๊ะ,