ตอกย้ำความแรงแบบไม่เคยตกของ K Food กันต่อสักนิด นอกจากเราจะได้เห็นแบรนด์ร้านอาหารแสนคุ้นตาที่ยกทัพมาปักหมุดกันที่กรุงเทพฯ จนตามอัปเดตแทบไม่ทันแล้ว ตามตรอกซอกซอยของกรุงเทพฯ ยังมีร้านอาหารเกาหลีและคาเฟ่เล็กๆ ที่ชวนหลงรักซ่อนตัวอยู่อีกเพียบ

★ 1. Norang Narang Korean Restaurant ★

ประเดิมความหิวที่ร้านแรก นอราง นาราง ร้านกระจกใสขอบสีแดงที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปนั่งกินที่เกาหลีแบบเป๊ะๆ ทั้งคาแรกเตอร์ร้านและเมนูอาหารที่เข้าถึงง่าย ซึ่งเจ้าของร้านเดิมเป็นชาวเกาหลี แต่ตอนนี้ดูแลโดยคุณแนน เจ้าของร้านคนสวยที่อินกับอาหารเกาหลีแบบสุดๆ

มาถึงแล้วจะพลาดทีเด็ดอย่างชุดหมูสามชั้นย่างเกาหลีก็เหมือนมาไม่ถึง เนื้อหมูสามชั้นมาพร้อมมัน เห็ด หอมหัวใหญ่ และกิมจิหมักเอง ย่างฉู่ฉ่าบนเตาย่างนำเข้าจากแดนกิมจิ ทำให้หมูไม่ติดกระทะ แถมกรอบอร่อย คีบวางบนผัก ตามด้วยกิมจิรสเปรี้ยวนำแบบโฮมเมด แล้วห่อคำโตๆ ส่งต่อเข้าปาก เพลิดเพลินมาก ตามด้วยเมนูยอดฮิตของร้าน Cheese Chicken Galbi เนื้อไก่ผัดสูตรพิเศษรสเผ็ดหวาน รายล้อมด้วยชีสเดือดปุด คีบไก่ไว้ให้มั่นแล้วพันด้วยชีส รสชาติเข้ากันดีเชียว ปิดท้ายด้วยไก่ทอด ซึ่งเราสั่งแบบมิกซ์ทั้งรสออริจินอลและแบบคลุกซอสเกาหลีเข้มข้น กินคู่เฟรนช์ฟรายส์และหัวไช้เท้าดอง เราปลื้มที่แป้งกรอบ เนื้อไก่ชุ่มฉ่ำตามแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ เลย

พิกัด : 160 ซอยพิพัฒน์ 2 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 10.30-22.00 น.
​โทร. 09-7001-5782
 

★ 2. Kiani Korean Restaurant ★

นี่แหละ “อาหารเกาหลีรสมือแม่” ที่เราอยากให้ลองชิมดูสักครั้ง  คุณลี จง จิน เจ้าของร้านชาวเกาหลีนำเมนูแสนอร่อยของคุณแม่มาแบ่งปันให้เราได้ลิ้มลองในร้านอาหารเล็กๆ แต่อบอุ่นสไตล์ครอบครัว มาถึงแล้วมีเครื่องเคียงเสิร์ฟก่อนเลย 5 อย่างทั้งถั่วงอกยำน้ำมันงา กวางตุ้งไทยยำน้ำมันงา กิมจิผักกาดขาว กิมจิมะละกอ และแพนเค้กผัก (กรอบชนะเลิศ)

มาคีอานิแล้วต้องสั่งหมูย่างกระทะร้อน รสชาติหวานเค็มลงตัว เสิร์ฟพร้อมผักสด 1 ตะกร้า (เติมได้ไม่อั้น) ข้าวสวย และน้ำจิ้มซัมจังเพิ่มความเข้มข้น ตามด้วยซุปกิมจิหมูร้อนๆ มาซดสักหน่อย ในชามอัดแน่นด้วยกิมจิ เต้าหู้ และเนื้อหมูนุ่มๆ อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์บิบิมบับ ข้าวยำแบบเกาหลีที่ทางร้านให้เครื่องเครามาแบบไม่มีหวง นอกจากนี้ยังมีคิมบับ หรือข้าวห่อสาหร่ายแบบเกาหลี เด่นที่หัวไช้เท้าดอง จาจังมยอน บะหมี่ซอสถั่วดำที่คุณลีอิมพอร์ตเส้นเหนียวนุ่มส่งตรงจากเกาหลี รวมถึงเมนูอื่นๆ อีกเพียบ รีบตามมาชิมกันด่วน

พิกัด : 90 ถนนสุขุมวิท ซอย 55 (ซอยทองหล่อ 2) เขตคลองตันเหนือ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 11.00-21.00 น.
​โทร. 0-2714-7730
 

★ 3. ปูดองอันยอง Have A Seat ★

แฟนคลับปูดองอันยองที่เคยติดอกติดใจปูดองซีอิ๊วสไตล์เกาหลีพร้อมน้ำจิ้มแซ่บแบบเดลิเวอรีและเทคโฮมคงได้ยิ้มกันแก้มปริ เพราะตอนนี้เพิ่งเปิดตัวปูดองอันยอง Have A Seat @Central Ladprao สาขาแรกที่มีที่นั่งกินสบายๆ พร้อมเมนูพิเศษซึ่งหาไม่ได้ที่สาขาอื่น

นอกจากเมนูปูดองจะครองใจ เมนูอื่นบอกเลยว่าไม่น้อยหน้า เริ่มด้วยของกินเล่นอย่างอันยอง Hot Dog ฮอตดอกทอดร้อนๆ ผิวนอกเป็นเกล็ดขนมปังกรอบ กัดแล้วเจอชีสยืดๆ ที่ซ่อนไว้ด้านใน กินคู่ซอส 4 แบบทั้ง Honey Mustard, Sweet Potato Wasabi (เราชอบซอสตัวนี้), Spicy Mayo และ Ketchup อีกเมนูสำหรับคนรักปู โจรขโมยข้าว กินเท่าไร่ก็ไม่อิ่ม! ข้าวโปะด้วยเนื้อปูม้าดองซีอิ๊ว ไข่ดองซีอิ๊ว โรยสาหร่ายกรอบ อร่อยฟินแบบไม่เปื้อนมือ หอยแครงชุบน้ำปลาร้า เสิร์ฟเย็น ลวกได้เซียนมาก เนื้อกรอบ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรน้ำปลาร้า ปิดท้ายด้วยชาบูมันปู หวานหอม น้ำซุปเคี่ยวกับมันปูใส่สาหร่าย กลมกล่อมมาก เลือกได้ทั้งชุดหมู เนื้อ และซีฟู้ด กินกับน้ำจิ้มแจ่วกะปิและน้ำจิ้มแจ่วปลาร้า

พิกัด : ชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 10.00-22.00 น.
​โทร. 09-2249-2442
 

★ 4. Won Korean Restaurant ★

แวะไปฝากพุงยามหิวมานานหลายปีสำหรับร้านอาหารเกาหลีริมถนนรัชดาภิเษก โดยเจ้าของร้านชาวเกาหลีที่เปิดร้านมานานกว่า 10 ปีแล้ว ความน่ารักของร้านนี้คือเสิร์ฟอาหารจานโตในราคาสบายกระเป๋า แถมเครื่องเคียงก็อร่อยทั้งกิมจิ หัวไช้เท้าดอง ปลากรอบ ไข่ม้วน ฯลฯ ที่หมุนเวียนไปในแต่ละวัน

นอกจากจาจังมยอนของร้านจะดีงามมากๆ แล้ว เราอยากให้ลองบะหมี่เย็นใส่ปลาแห้งเกาหลี คลุกให้เข้ากัน รสเปรี้ยวสดชื่นเรียกพลัง เส้นก็เหนียวซู้ดสนุก หรือใครโปรดปรานแบบน้ำก็มีเหมือนกัน ต่อด้วย Sundubu-jjigae ซุปเต้าหู้อ่อน รสกลมกล่อมมาก เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าซุปกิมจิเปรี้ยวเกินไป ชามนี้ใส่เต้าหู้อ่อนเด้งดึ๋งและไข่ดิบ กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันมาก และอีก 1 จานเด็ด 10 คะแนนเต็มยกให้ Gun Mandu เกี๊ยวทอดไส้ผักแบบเกาหลีที่กรอบนอกนุ่มใน ชิ้นใหญ่ จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรของร้าน รสออกเค็มนิด เผ็ดหน่อย เข้ากันดีเหลือเกิน

พิกัด : ริมถนนรัชดาภิเษก ซอย 10 กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 11.00-22.00 น.
​โทร. 0-2246-0926
 

★ 5. Tea & Kor ★

Tea & Kor คาเฟ่เล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ใน RCA ของคู่รักชาวเกาหลีที่แค่เปิดประตูเข้าไปก็เหมือนได้สัมผัสความเป็น Korean Vibes ได้ชัดเจนมากๆ ตั้งแต่การใช้ผ้าม่านสีขาวมาเล่นเป็นกิมมิก ประดับด้วยดวงไฟเล็กๆ ตัดกับผนังสีเทาเรียบเท่ ไม่ว่าจะทิ้งตัวนั่งลงตรงไหนก็ถ่ายรูปสวยไปหมด

ไม่ใช่แค่ตัวร้านที่ดึงดูดสายตาเท่านั้น เมนูเครื่องดื่มและขนมยังครีเอตออกมาได้เก๋ อาทิ Strawberry & Lemonade แก้วนี้สีสวยมาก รสเปรี้ยวหวานสดชื่น แล้วเติมความซ่าด้วยโซดา หรือจะลอง Yuza Yogurt โยเกิร์ตปั่นมีกลิ่นหอมของส้มยูซุนวลๆ เบาๆ ส่วนขนมก็ทำออกมาได้น่ารัก เราชอบ Scone with Cream สคอนเนื้อไม่แน่นเกินไป กินกับครีมตามด้วยกล้วยหอมแล้วได้ความหอมหวานที่พอดิบพอดีเชียว

พิกัด : 23/111 ถนนเพชรบุรี เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-19.00 น., วันเสาร์ 10.00-17.00 น.
​โทร. 06-4662-0350

★ 6. Woolloomooloo Café & Bar ★

ปิดท้ายกันที่คาเฟ่สีขาวที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและเมนูบรันช์สไตล์ออสซี แอบถามได้ความว่าเจ้าของร้านสาวเก๋ชาวเกาหลีใต้ได้แรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตในออสเตรเลียสะท้อนมาสู่คาเฟ่ที่เธอยากทำ ตัวร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวทั้งหมด แล้วเติมสีสันด้วยดอกไม้เล็กๆ พร้อมการฉายภาพบนผนัง น่ารักจนต้องถ่ายรูปเก็บไว้หลายแชะ แนะนำ Honey Milk Tea ชานมน้ำผึ้งหอมหวานกำลังดี และ Einspanner กาแฟนมสไตล์เวียนนารสนุ่มนวล ส่วนสายขนมอย่าพลาด Terrine Cheese ชีสเค้กเนื้อเนียนนุ่มละมุนที่ไม่ใส่แป้งและใช้การนึ่งแทนการอบ หรือ Terrine Chocolate เค้กช็อกโกแลตเข้มข้นหอมหวานสูตรเดียวกันมากินไปด้วยจะยิ่งอร่อยลงตัว

พิกัด : 145 ซอยวิภาวดี 16 ถนนวิภาวดี-รังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 10.30-20.00 น.
​โทร. 09-5757-4990

Tag: , รวมร้านอร่อย, อาหารเกาหลี,