เพียงแค่ชื่อก็บอกคาแรกเตอร์ของร้านได้อย่างแจ่มชัด เมื่อมีขนมปังโฮมเมดอบสดใหม่ทุกวันรอคุณอยู่ที่นี่อย่างพร้อมเพรียง (วางแน่นเต็มรอบร้าน!) อีกทั้งยังมีหลายรสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นขนมปังขาว ขนมปังนมฮอกไกโด ขนมปังชาเอิร์ลเกรย์ และล่าสุดกับขนมปังมันม่วง ซึ่งความสนุกไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะขนมปังต่างๆ ได้กลายมาเป็นเมนูหน้าตาดีทั้งคาวและหวานให้ทุกคนได้อิ่มกันตลอดทั้งวัน       เมนูแนะนำ Mile High Roast Beef ขนมปังบาแกตต์ชิ้นโตสอดไส้เนื้อวากิวสุดนุ่มชุ่มฉ่ำด้วยหัวหอมผัด เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรพิเศษทำจากกระดูกวัวเคี่ยว   Toast Company Steak แซนด์วิชสูตรซิกเนเจอร์ที่อัดแน่นความอร่อยเต็มคำด้วยเนื้อสเต๊กแองกัสส่วนซี่โครงมาปรุงในซอสรสเผ็ด นุ่มละลายในปาก   The Earl of Grey โทสต์ขนมปังชาเอิร์ลเกรย์ เสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลลา ราดซอสคัสตาร์ดชาเอิร์ลเกรย์และซอลต์คาราเมล   Marsh Choc ขนมปังโทสต์ชุ่มซอสช็อกโกแลตเยิ้มๆ สลับชั้นด้วยครีมสด ท็อปปิงด้วยมาร์ชแมลโลว์ย่างเนื้อนุ่มยืด มาพร้อมความเย็นชื่นใจของไอศกรีมช็อกโกแลต

Baker gonna Bake คาเฟ่แห่งใหม่ของกลุ่มเพื่อนรักที่หลงใหลการทำขนมและความขมเข้มของกาแฟร่วมกัน ที่นี่จึงเด่นทั้งเบเกอรี่โฮมเมดและเครื่องดื่มที่ทำกันอย่างละเมียดละไม อาทิ  Soft Cookies ที่ทั้งเข้มและหนึบด้วยผงโกโก้นำเข้าจากเบลเยียม ชา Rustic & Blue ส่งตรงจากเชียงใหม่ ส่วนเมล็ดกาแฟรับจากโรงคั่วที่คุ้นเคยกันดี อีกหนึ่งความเก๋ของที่นี่คือการตกแต่งจานขนมด้วยผักสวนครัวอย่างใบมะกรูด โหระพา สะระแหน่ ผักชีลาว หรือแม้แต่โรสแมรี่ แถมตอนนี้ยังเปิดคลาสสอนทำขนมให้เรียนกันอีกด้วย       เมนูแนะนำ Banoffee Toast โทสต์หนานุ่มอบหอมกรุ่น เนื้อในมีกล้วยราดด้วยซอลต์คาราเมลโฮมเมดและวิปครีม   Mango Tart ทาร์ตมะม่วงที่ทั้งเก๋และอร่อย เลือกใช้มะม่วงน้ำดอกไม้จัดเรียงเป็นดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน ชั้นล่างแอบซ่อนข้าวเหนียวมูนไว้เป็นเซอร์ไพรส์   Rose Soda เครื่องดื่มสีชมพูสวยจากน้ำลิ้นจี่สดและไซรัปกลิ่นกุหลาบ เพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่นด้วยน้ำมะนาวสด   Flat White กาแฟและฟองนมบางนุ่มเข้ากับเบเกอรี่ในร้านเป็นอย่างดี 

“กินข้าวบ้านเพื่อน” คงเป็นนิยามที่เหมาะสมที่สุดของ Sundays ร้านอาหารของเพื่อน 4 คนที่นำความชอบศิลปะและอาหารอร่อยที่เหมือนกันมาถ่ายทอดผ่านบรรยากาศและการตกแต่งสุดชิว ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าเป็นการรวมของเก่าหลังบ้าน (แต่เก๋) ของทุกคน รวมทั้งเมนูโฮมเมดที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “เบสิกแต่พิเศษ” แม้กระทั่งไข่เจียวก็ยังไม่ธรรมดา เพราะใช้สูตรลับในการทอดจนกรอบฟูอร่อยไม่เหมือนใคร     เมนูแนะนำ Namprik Narok Mun Goong Angel Hair เส้นแองเจิลแฮร์ผัดน้ำพริกนรกกุ้ง มันกุ้ง เนื้อกุ้ง และไข่กุ้ง รสเข้มข้นจัดจ้าน   Grilled Cheese Sandwich ทีเด็ดอยู่ที่เบคอนเคลือบเมเปิลไซรัปและชีสเยิ้มหนาทำจากชีสมอซซาเรลลาผสมชีสเชดดาร์   Banana Pancakes แพนเค้กหนานุ่มกินคู่กับกล้วยเคลือบคาราเมลและวิปครีมแบบจัดเต็ม โรยอัลมอนด์และซินนามอนเพิ่มความหอม   White Shake ความอร่อยที่ลงตัวของนมปั่น วิปครีม นมเม็ด และมาร์ชแมลโลว์เบิร์น

ร้านอาหาร All Day Breakfast ที่ได้แรงบันดาลใจจากวัตถุดิบสำหรับเริ่มต้นวันใหม่ของทุกคนอย่าง “ไก่” และ “ไข่” มา “ทวิสต์” จับความโดดเด่นของอาหารเอเชียนและยูโรเปียนมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างไข่กระทะหลุมเล็กของเวียดนาม แต่ใส่ท็อปปิงแปลกใหม่ อาทิ แซลมอน ไข่ปลา เคเปอร์ หรือพัฟฟ์ไส้แกงเขียวหวานเนื้อน่องลายที่ไม่ว่าใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ   เมนูแนะนำ Egg-E-Egg-Egg ไข่นกกระทาทอดในหลุมเล็กน่ารัก พร้อมท็อปปิง 8 ชนิด ที่ชอบเป็นพิเศษคือหน้าแซลมอนรมควัน ไข่กุ้ง และชีส   Soft Shell Crab Burger เบอร์เกอร์ไส้ปูนิ่มตัวโตทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดและซอส 3 สไตล์   Spaghetti AOP with Garlic King Prawn เส้นสปาเกตตีนุ่มหนึบผัดกระเทียมและน้ำมันมะกอก ท็อปด้วยกุ้งแม่น้ำคั่วเกลือ   Zucchini Almond Salad ซุกกินีย่างน้ำมันมะกอก เพิ่มความอร่อยด้วยอัลมอนด์สไลซ์และชีสเฟตา

คาเฟ่นั่งสบายสไตล์บ้านแบบยุโรป ซึ่งหากไม่ก้าวเข้ามาคงไม่รู้ว่าเมนูเด็ดของที่นี่คือ “ชูร์โร” ฝีมือเชฟชาวเกาหลีที่อร่อยไม่เหมือนใคร ด้วยความกรอบนอกเนื้อในนุ่มหนึบ แถมยังใช้น้ำมันคาโนล่าทอดซึ่งดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือการหยิบชูร์โรที่เราคุ้นเคยในรูปลักษณ์สตรีทฟู้ดมาครีเอตเป็นเมนูแปลกใหม่หน้าตาน่ากินทั้งของคาวและของหวาน อาทิ ชูร์โรซันเด ชูร์โรเบอร์เกอร์ และชูร์โรเอ้กเบเนดิกต์ ที่เราขอบอกว่าห้ามพลาด     เมนูแนะนำ Dolly Churro C&C เมนูยอดนิยมที่จับคู่ชูร์โรกับซอสช็อกโกแลตและครีมชีสสูตรพิเศษของร้าน   Dolly Churro Cup Cake คัปเค้กชูร์โรมาพร้อมแยมสตรอว์เบอร์รีด้านล่างและครีมโฮมเมดด้านบน   Dolly Churro Storey ชูร์โรสลับชั้นด้วยครีม ราดเมเปิลไซรัป ตัดความหวานด้วยสตรอว์เบอร์รีสด   Lemonade Rosie ไซรัปหอมกลิ่นกุหลาบเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่นด้วยมะนา  

ใครที่ชอบกินเค้กแต่ก็รักสุขภาพไปพร้อมๆ กัน แนะนำให้ลองแวะมาชิม “เค้กผัก” ฝีมือคุณกุ๊กเจ้าของร้านคนสวย ที่นำเข้าร้านเบเกอรี่แบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่นมาที่บ้านเราเป็นสาขาแรก คุณกุ๊กตั้งใจนำเสนอเมนูเบเกอรี่เพื่อสุขภาพที่เรียนมาจากเชฟชาวญี่ปุ่น จุดเด่นอยู่ที่เลือกใช้ผักออร์แกนิกนานาชนิดมาทำขนมอร่อยกว่า 11 เมนู รสชาติละมุน ไม่มีกลิ่นฉุน แถมยังใช้เนยคุณภาพดี น้ำตาลไม่ขัดสี ไม่ใช้เจลาตินหรือวัตถุกันเสีย ทั้งสี กลิ่น และรสที่ได้มาจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ รับประกันเลยว่าเด็กๆ และคนที่กินผักไม่เก่งกินได้สบาย       เมนูแนะนำ เค้กถั่วฝักยาว สปันจ์เค้กนุ่มฟูสลับชั้นด้วยครีมชีสผสมถั่วฝักยาวและครีมชาเขียว   เค้กตำลึงมะเขือเทศ แป้งเค้กนุ่มหอมผสมใบตำลึงบดละเอียดสลับชั้นกับครีมนุ่มๆ และมะเขือเทศสดฉ่ำหวาน   มูสกาแฟดอกกะหล่ำ มูสกาแฟรสละมุนเข้ากันกับคุกกี้อัลมอนด์กรุบกรอบและมาสคาร์โปนผสมดอกกะหล่ำ   สมูทตีซุกกินี ใบมินต์ และกะทิออร์แกนิก น้ำผักกลิ่นหอมผสมกับน้ำกะทิรสนวล หวานน้อย

คอฟฟี่เลิฟเวอร์ที่ชอบดื่มกาแฟโทนฟรุตตี้ต้องลองแวะมาที่นี่ เพราะคุณโอเจ้าของร้านคัดเมล็ดกาแฟ  ซิงเกิลออริจินติดเปรี้ยวเล็กน้อยอย่างเอธิโอเปีย โคลอมเบีย และบราซิล ฯลฯ จากโรงคั่วหลายแห่งมาใช้ดริปกาแฟ นอกจากนี้ยังมีเมล็ดกาแฟเบสเอสเปรสโซเบลนด์ 2 แบบสำหรับทำกาแฟร้อนและเย็นโดยเฉพาะจากโรงคั่ว Bottomless ไว้ให้ดื่มคู่กับครัวซองต์ Maison Jean Philippe สคอนโฮมเมดเนื้อฉ่ำ หอมเนย หรือแกล้มกับอาหารจานเดียวก็อร่อยไปอีกแบบ ส่วนใครที่ไม่ถนัดดื่มน้ำดำก็มีเครื่องดื่มชนิดอื่นชวนให้ลองอีกหลายเมนู     เมนูแนะนำ Latte Macchiato ความพิเศษอยู่ตรงวิธีการดื่ม 3 ขั้นตอน เริ่มจากชิมเอสเปรสโซร้อนด้านบน จากนั้นยกดื่มให้นมหอมมันไหลผ่านมาผสม สุดท้ายคนให้เข้ากัน รับรองว่าอร่อยจนดื่มหมดภายในพริบตา   Cafe Latte กาแฟเบลนด์คั่วกลางเข้ากันกับนมสตรีมฟองนุ่มกำลังดี   Lychee and Thyme น้ำลิ้นจี่โซดาเย็นซ่าเพิ่มกลิ่นหอมๆ ด้วยใบไทม์ และ Passion Fruit and Mango น้ำมะม่วงสุกหอมหวาน ผสมน้ำเสาวรสรสเปรี้ยว   Spaghetti Garlic Bacon เส้นนุ่มเหนียว หอมกลิ่นกระเทียม พริกแห้ง และเบคอนยั่วใจ  

คาเฟ่ชื่อเก๋ที่นำเอาอักษรตัวแรกของผลไม้ชื่อติดปากของคนไทยอย่าง “แอปเปิล มะละกอ กล้วย ส้ม” มาผสมรวมกัน จุดเด่นของร้านนี้จึงหนีไม่พ้นการนำสิ่งดีๆ จากผลไม้มาจับคู่ของหวาน กลายเป็นเมนูหน้าตาดีที่เพียงเห็นก็ตกหลุมรัก เช่นเดียวกับรสชาติที่ขอบอกว่าทำออกมาได้อย่างลงตัว กินได้แบบเพลินๆ อร่อยไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว       เมนูแนะนำ Sheep & Fruit มูสเค้กไวต์ช็อกโกแลตเนื้อนุ่มละมุน ตกแต่งหน้าด้วยครีมสดเป็นแกะน้อยขนฟู ยิ่งได้ผลไม้รสเปรี้ยวมากินคู่ด้วยแล้วก็ยิ่งรัก   Sweet Potato & Coconut Kakigori เมนูเด่นที่ไม่มีใครเหมือน น้ำแข็งไสรสนมท็อปปิงด้วยมันม่วงกวนผสมมะพร้าวอ่อนรสหวานละมุน   Sizzling Banoffee Toast ขนมปังโทสต์กรอบนอกนุ่มในหั่นชิ้นพอดีคำเสิร์ฟในกระทะร้อน ท็อปปิงด้วยครีมและอัลมอนด์กรุบกรอบ ตามด้วยซอสคาราเมลอีกชุดใหญ่   Cotton Candy Tree Strawberry ชีสเค้กเนื้อเนียนมาพร้อมไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีและสายไหมสีชมพูฟูฟ่องสุดมุ้งมิ้ง

ร้านไอศกรีมน้องใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ถูกแชร์ในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยคอนเซ็ปต์เก๋ไก๋ซ่อนตัวภายในร้านเสื้อผ้าสุดแนว Thief Studio อันเป็นที่มาของภาพกราฟิกรูปตาใหญ่ยักษ์ของจอมโจรบนถ้วยไอศกรีม แต่ทีเด็ดจริงๆ คงต้องยกให้กับรสชาติและความลงตัวของซอฟต์เสิร์ฟโยเกิร์ตไขมันต่ำหวานน้อยที่ไม่ว่าจะจับคู่กับท็อปปิงอะไรก็อร่อยไปเสียหมด ในสนนราคาเริ่มต้นเพียง 79 บาทเท่านั้น     เมนูแนะนำ Most Wanted No.001 ซอฟต์เสิร์ฟโยเกิร์ตรสพิเศษ (เปลี่ยนตามฤดูกาล) จัดหนักด้วยผลไม้สดอย่างกีวี สตอรว์เบอร์รี และกล้วย   Banana Nutella Salted Caramel Parfait ฟาร์เฟต์สุดเข้มข้นที่เน้นความอร่อยของช็อกโกแลต มาพร้อมท็อปปิงอย่างนูเทลลา ครัมเบิลรสมอลต์ บราวนี่ และซอลต์คาราเมลหวานมัน   Rose Velvet Parfait พาร์เฟต์สีหวานหอมกลิ่นกุหลาบ อร่อยเพลินด้วยบราวนี่เรดเวลเวต ครัมเบิลรสเนย และวุ้นกุหลาบ   Lavender Jelly Float น้ำหวานสีม่วงกลิ่นลาเวนเดอร์มาพร้อมเจลลีลิ้นจี่และซอฟต์เสิร์ฟโยเกิร์ต  

เพียงแค่เห็นหุ่นอัศวินเหล็กที่ยืนรอต้อนรับหน้าประตูเหล็กแบบโบราณก็ทำให้เราแอบตื่นเต้นนิดๆ แล้ว เมื่อผลักประตูเข้าไปก็ยิ่งตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศในโลกเทพนิยายของ Dessert Bar น้องใหม่ในทองหล่อที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์โลกคู่ขนานบอกเล่าเรื่องราวแฟรีเทลส์สุดแฟนตาซีผ่านการตกแต่งร้านสไตล์ปราสาทลึกลับที่รอให้เหล่านักชิมเข้าไปค้นหา (ความอร่อย)     โลกแฟรีเทลส์ของที่นี่ไม่ได้แค่นำเสนอผ่านการตกแต่งร้าน แต่ยังสอดแทรกกิมมิกไว้แทบทุกจุด ทั้งเมนูของหวานและเครื่องดื่มสร้างสรรค์ขึ้นมาตาม “เนื้อเรื่อง” ของเทพนิยายที่ถูกแต่งและแบ่งเป็น Chapter ต่างๆ ซึ่งตอนนี้เรื่องราวดำเนินมาถึงตอน “Pirates Attack” ที่เล่าถึงเหตุการณ์ปราสาท Mocking Tales โดนเหล่าโจรสลัดยกพลมาบุกเพื่อค้นหาสมบัติล้ำค่า     การตีความเรื่องราวน่าตื่นเต้นสไตล์ Pirate จึงออกมาเป็นเมนูเด็ดจานใหม่อย่าง The Lost Treasure โทสต์รูปหีบสมบัติสุดเท่ที่ทำจากขนมปังหมึกดำ เมื่อเปิดฝาหีบจะเจอมาร์ชแมลโลว์เบิร์น คุกกี้ และคอนเฟล็ก สอดแทรกซอสลาวารสชาไทยหอมหวาน เสิร์ฟพร้อมเมเปิลไซรัปและไอศกรีมโฮมเมด (แนะนำให้ลองรส Cookie Monster คุกกี้แอนด์ครีมกลิ่นมินต์ และ Rum Cranberry ที่ใช้แครนเบอร์รีแทนลูกเกด)     และ The Stolen Dwarf Beer เบียร์สูตรเด็ดของคนแคระที่เพิ่มความอร่อยด้วยสปาร์กลิงเจลลีรสแอปเปิลซ่า ท็อปด้วยไอศกรีมซอร์เบต์รสเบียร์ เสิร์ฟคู่กับถั่วเคลือบคาราเมล     ส่วนใครอยากสัมผัสรสชาติในบทแรกของม็อกกิงเทลส์ ที่นี่ยังคงบางเมนูขวัญใจขาประจำอย่าง Poisoned Apple แอปเปิลแดงลูกโตอบซินนามอน ท็อปด้วยไอศกรีมซอร์เบต์รสแอปเปิล มาพร้อมคาราเมลและครัมเบิล     นอกจากนี้เมนูกาแฟและสมูทตี้อย่าง Guinevere เอสเพรสโซช็อตผสมซอสคาราเมล ท็อปด้วยมาร์ชแมลโลว์เบิร์นและครัมเบิล กลมกล่อมหอมหวาน และ Green Valley คะน้าปั่นกับเสาวรสและสับปะรดที่รับรองว่ากินง่าย ไม่เหม็นเขียว ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน...     จนทำให้เราแทบอดใจรอไม่ไหวสำหรับเรื่องราวบทต่อไปของเทพนิยายเรื่องนี้  

คาเฟ่ขนาดกะทัดรัดอันเป็นส่วนต่อขยายความอร่อยจากร้าน Tenyuu Grand ด้วยการนำพระเอกของร้านอย่าง “คากิโกริ” (Kakigori) หรือน้ำแข็งไสญี่ปุ่นมาเพิ่มเติมรสชาติให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยขนมที่ดีไซน์เก๋ผสมผสานงานศิลปะและกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแต่ละชิ้นล้วนทำขึ้นมาอย่างตั้งใจแสดงให้ดูผ่านครัวเปิด นอกจากหน้าตาสวยแล้วรสชาติยังถูกใจอีกต่างหาก       เมนูแนะนำ Matcha Ten ขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากทีรามิสุนำเค้กชาเขียวและคุกกี้ช็อกโกแลตมาจับคู่กับชีสมาสคาร์โปเนแทนสูตรต้นตำรับ   Cho Pao แซนด์วิชไอศกรีมที่นำซาลาเปามาทอดจนกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ไอศกรีมวานิลลารสหอมหวาน   Sakura Kagikori เมนูน้ำแข็งไสประจำฤดูกาลที่หยิบเอาสีสันสดใสของซากุระมาเสิร์ฟแบบจัดเต็ม เนื้อในมีวุ้นซากุระนุ่มนิ่มมาให้ชิมด้วย   Blue Sky อิตาเลียนโซดาที่เพิ่มความสดใสด้วยน้ำแข็งรสเลมอนหอมอมเปรี้ยว

ได้เวลากล่าวคำว่า "ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านมูมิน" ในบ้านเราสักที เพราะคุณพลอย กรชนก นักไวโอลินที่หลงรักเสียงดนตรีจากการ์ตูนสุดคลาสสิกของฟินแลนด์ได้คว้าลิขสิทธิ์มูมินคาเฟ่มาครองเป็นที่เรียบร้อย จำลองบรรยากาศภายในบ้านของครอบครัวมูมินมาแบบช็อตต่อช็อต ทั้งตัวบ้านสีฟ้า หลังคาสีแดง แถมตุ๊กตาทุกตัวยังใหญ่เบิ้มเป็นพิเศษให้กอดกันได้จุใจส่วนเมนูอาหารทั้งคาวหวานคิดขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยแอบเติมความอร่อยแบบไทยๆ ลงไปในบางเมนูด้วย       เมนูแนะนำ ยำส้มโออกเป็ดรมควัน จานนี้อร่อยสดชื่นมากส้มโอหวานตัดกับรสเค็มของอกเป็ดรมควันได้ดีงาม   MoominTonkatsu Curry Rice ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดชิ้นโตให้เคี้ยวเต็มคำ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหน้ามูมิน   Spaghetti with Stinky’s Pink Sauce สปาเกตตีเส้นดำซอสครีมมะเขือเทศ โรยไข่กุ้ง ท็อปด้วยหอยเชลล์ย่างตัวอวบ   Moomin’s Mud Brownie บราวนี่รสเข้มข้นเสิร์ฟคู่ผลไม้และไอศกรีม ชิมคำเดียวก็หลงรัก

ด้วยบรรยากาศสบายน่านั่งที่สอดแทรกกิมมิกเก๋ไก๋ผ่านการตกแต่งที่แฝงความหมายของ “น้ำผึ้ง” ไว้แทบทุกมุม ทั้งที่จับประตูรูปที่ตักน้ำผึ้ง กำแพงลายรังผึ้ง โคมไฟโครงเหล็กจากชุดคนเก็บน้ำผึ้ง และเพดานลายดอกไม้ ไปจนถึงเมนูโฮมเมดซิกเนเจอร์ที่มีน้ำผึ้งคุณภาพเยี่ยมเป็นส่วนผสม เราจึงไม่แปลกใจที่นอกจาก Honey จะกลายเป็นดินแดนแห่งน้ำผึ้งแสนอร่อยแล้ว ยังเป็น “ที่รัก” ของใครหลายคนอีกด้วย       เมนูแนะนำ Chicken Waffle วัฟเฟิลที่ใช้สูตรแป้งครัวซองต์ทำให้กรอบไม่เหมือนใคร มาพร้อมไก่ทอดสูตรพิเศษชิ้นโตและไข่ดาว   Honey Butter Pancake แพนเค้กหนานุ่มเสิร์ฟคู่เนยและน้ำผึ้งดอกไม้ ตัดความหอมหวานด้วยเบอร์รีสดหลากชนิด   Honey Bun ขนมปังเดนิชกรอบนอกนุ่มในราดช็อกโกแลตเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกล้วย ไอศกรีม และมูสช็อกโกแลต     Manuka Toddy น้ำผึ้งมานูก้าผสมเสาวรส ให้รสเปรี้ยวกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่นชุ่มคอสุดๆ 

ร้านของหนุ่มหล่อหน้าตี๋ “เชฟนน-นนทวรรธ” ที่ซุ่มเตรียมเปิดร้านของหวานมานานหลายปี หลังจากเรียนจบเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตธานีและคิดค้น “สูตรของหวานจากความทรงจำ” จนได้ตามที่ต้องการแล้ว จึงตัดสินใจเปิดร้านสไตล์ดิเสิร์ตและบาร์เท่ๆ นอกจากเสิร์ฟจานหลักเป็นเมนูของหวานที่ทำจากขนมปังบริออชและครัวซองต์โฮมเมดจากวัตถุดิบคุณภาพแล้ว ยังมีค็อกเทลและม็อกเทลให้เลือกดื่มอย่างหนำใจ เห็นทีคุณผู้ชายจะเดินเข้าร้านของหวานได้อย่างไม่เคอะเขินก็คราวนี้        เมนูแนะนำ Brix Box ขนมปังบริออชหนานุ่มหอมเนย สอดไส้ช็อกโกแลตกานาชรสเข้มจากเบลเยียม เสิร์ฟพร้อมเบอร์รีสดสีสวยและไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดจากฝักวานิลลา   Hotto Keiki แพนเค้กซูเฟล่เนื้อเนียนนุ่มจากซาวร์ครีมเสิร์ฟอุ่นๆ มาในกระทะใบจิ๋วกินคู่กับไอศกรีมวานิลลา กล้วย ครัมเบิลกรุบกรอบ และน้ำผึ้งหวานหอม   Spritzle เครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นรสเปรี้ยว ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเกรปฟรุต น้ำส้ม และพริกแห้ง   Berries Brioche Ice Cream Sandwich ขนมปังบริออชเสิร์ฟมาในรูปแบบแซนด์วิช สอดไส้ไอศกรีมวานิลลาและเบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน 

ถึงแม้บ้านเราอากาศจะร้อนอบอ้าวชวนหงุดหงิดใจมากแค่ไหน แต่ก็นับว่ามีเรื่องโชคดีอยู่บ้าง ที่ร้านน้ำแข็งไสจากหลากหลายแบรนด์ดังต่างทยอยกันมาเปิดให้เราเลือกกินอย่างชุ่มปอด เช่นเดียวกับร้านน้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่นร้านใหม่ล่าสุดของคุณเม After You ที่นำไอเดียมาจากประเทศญี่ปุ่น เกล็ดน้ำแข็งปุยนุ่มละเอียด ราดซอสโฮมเมดที่ปรุงด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากแดนซากุระ แถมในแต่ละฤดูกาลยังมีเมนูใหม่หมุนเวียนมาให้เราลองชิมเสมอด้วย (น่าตื่นเต้นจัง!)       เมนูแนะนำ Mont Blanc น้ำแข็งไสราดครีมเกาลัดหอมหวานมัน โรยเนื้อเกาลัดให้เคี้ยวเพลินๆ เสิร์ฟพร้อมซอสน้ำตาลดำ   Hojicha ซอสชาโฮจิชะกลิ่นหอมไหม้ราดบนน้ำแข็งไส กินกับครีม สาหร่าย และขนมอาราเล่ (คล้ายขนมเซมเบ้) กรุบกรอบ   Uma น้ำแข็งไสฟูฟ่องราดซอสบ๊วยสีชมพูสวย ในน้ำแข็งไสมีวุ้นบ๊วยรสเปรี้ยวเค็มซ่อนอยู่   มะยงชิด (เมนูเฉพาะหน้าร้อน) น้ำแข็งไสราดซอสมะยงชิดรสเปรี้ยวอมหวาน กินแกล้มกับพริกเกลือ อร่อยชื่นใจสไตล์ไทยบ้านเรา 

คาเฟ่น้องใหม่ที่นับเป็นโปรเจ็กต์ชิ้นสำคัญของ Propaganda แบรนด์เครื่องใช้มากไอเดียที่กำลังจะเปิดตัวให้ครบ 4 สาขาในปีนี้ แต่ละสาขาจะมาพร้อมเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป สำหรับที่นี่เป็นสาขาแรก เราจะได้พบกับการตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ และบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งจิบกาแฟในอาร์ตแกลเลอรีย้อนยุคที่มีบาริสตาสุดเท่ และอาหารรสชาติไทยๆ จนคุณไม่อยากลุกไปไหนเลย       เมนูแนะนำ Iced Ginger Latte ลาเต้เย็นสูตรซิกเนเจอร์ที่เพิ่มความหอมละมุนให้กาแฟแก้วโปรดด้วยไซรัปขิงโฮมเมด   Passion Lemon ม็อกเทลรสจี๊ดจ๊าดที่มีส่วนผสมของน้ำมะนาวและเสาวรส ก่อนจะเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยมะกรูด   ไก่ย่างสูตรนมสด เมนูล่าสุดที่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยกันมากขึ้นกับไก่ย่างเนื้อนุ่มและข้าวเหนียวร้อนๆ   หมูสับปลาเค็ม แฮมเบิร์กสไตล์ไทย ทำจากหมูสับคลุกเคล้ากับเนื้อปลาเค็มจนได้รสเค็มๆ มันๆ  กินเล่นก็ได้ กินกับข้าวยิ่งดี

ย้อนไปหลายปีก่อน Chu Chocolate Bar & Café ตั้งต้นด้วยการขายเพียงชูร์โรส์และช็อกโกแลตร้อนภายในอาคารเอ็กซ์เชนจ์ทาวเวอร์ อโศก แต่หลังจากคุณเต้ย-จิรยุว์ ณ ระนอง เจ้าของร้านเห็นว่าลูกค้ามักจะถามถึงอาหาร จึงปรับคอนเซ็ปต์ใหม่กลายเป็นร้านอาหารสไตล์ออลเดย์ไดนิงจนกลายเป็นที่รู้จักของย่านอโศก แน่นอนว่าเขาไม่ได้หยุดความฝันเพียงเท่านั้น เมื่อมีโอกาสจึงต่อยอดสาขาใหม่ใจกลางเมืองที่อาคารตรีนิตี้สีลม      ดีไซน์ของที่นี่แตกต่างจากสาขาเดิมพอสมควร แต่ก็ยังคงกลิ่นอายสไตล์อินดัสเทรียล ไม้ๆ เหล็กๆ ดูโปร่งสบายขึ้นด้วยโทนสีขาวสบายตา โดยเฉพาะมุมเคาน์เตอร์บาร์ที่คุณเต้ยเพิ่มขึ้นมาเอาใจลูกค้าที่มาคนเดียว และมุมนั่งสบายอย่างโซฟาริมหน้าต่างที่แสงสว่างส่องถึง     คุณเต้ยออกตัวว่าวัตถุดิบส่วนหนึ่งทำเองสไตล์โฮมเมดกับอีกส่วนหนึ่งเลือกสนับสนุนวัตถุดิบคุณภาพดีในประเทศที่เห็นว่าทำได้ดีกว่าตัวเอง อาทิ กาแฟจากรูท ไส้กรอกของโจสโลน ขนมปังจากเมซงฌองฟิลลิป    อาหารแนะนำเป็น BBQ Pulled Pork Burger ขนมปังบริออชกับหมูนุ่มๆ ที่คลุกเคล้ากับซอสบาร์บีคิวแจ็คแดเนียลและศรีราชามาโยโฮมเมด     ส่วนอาหารที่ต่างจากสาขาแรกเป็นวัฟเฟิล ซึ่งเกิดจากความชอบอาหารเช้าเป็นการส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก จึงมักจะซื้อแป้งกลับมาทำวัฟเฟิลกินเอง วัฟเฟิลสูตรนี้เคยขายในงานออกร้านหลายครั้งจึงถึงเวลาบรรจุลงเป็นเมนูใหม่ สูตรนี้ใช้ยีสต์ตีกับไข่ขาวให้ฟู ซึ่งทำครั้งละน้อยและต้องทิ้งแป้งไว้นาน 1 ชั่วโมงก่อนนำมาทำวัฟเฟิล Banana Caramel Waffle เนื้อแป้งฟู กรอบนอกนุ่มใน ใส่กล้วย ซอลต์คาราเมล ช็อกโกแลตชิป และไอศกรีมช็อกโกแลต     เร็วๆ นี้จะมีหน้าไก่ทอดและพูลพอร์กโอ้ย! พูดแล้วก็อยากกินหน้าไก่ทอด ถ้าอยากจัดหนักของหวาน Fresh Berries Pancakes แพนเค้กเนื้อนุ่มรสเค็มตัดกับรสหวานของไซรัปและรสเปรี้ยวของเบอร์รี      อีกเมนูที่ไม่อยากให้พลาด Peanut Butter Lava ลืมไปได้เลยกับลาวาช็อกโกแลตธรรมดาๆ เพราะที่นี่สอดไส้พีนัตบัตเตอร์อุ่นๆ กินกับไอศกรีมราสป์เบอร์รี  

A Dessert Moments นับเป็นอีกหนึ่งร้านที่กลับมาสร้างสรรค์บ้านเกิดเมืองภูเก็ตให้มีชีวิตชีวาโดยคุณตุ๊ดตู่-วันรวี เต็มไตรเพท และ คุณสอง-อาทิตยา เต็มไตรเพท สองสาวที่ย้ายตามคุณแม่กลับมายังบ้านเกิด ทั้งคู่เลือกเอาถนนสายหลักเป็นที่ตั้งร้านแล้วปรับโฉมบ้านเก่าแบบชิโนโปรตุกีสให้กลายเป็น Seaside Café ขึ้นกลางเมืองภูเก็ต เนื่องจากใครมาภูเก็ตก็มักจะนึกถึงทะเลเป็นอันดับแรก และพวกเธอก็เสียดายความสวยงามของบ้านเก่า      ที่นี่ต้อนรับเราด้วยชิงช้าไม้และสีสันสดใสบริเวณหน้าร้านเพื่อสื่อความสดชื่นของท้องทะเล ส่วนด้านในเน้นโทนสีขาว ฟ้า และน้ำเงิน ที่ล้อไปกับอวนจับปลาที่ขึงไว้เด่นบนเพดาน รวมถึงของตกแต่งที่สื่อความเป็นทะเล นอกจากนี้ยังมีมุมหนึ่งขายของที่ระลึกของร้านซึ่งเข้ากันได้ดีกับคอนเซ็ปต์     จุดเด่นของร้านอยู่ที่ไอศกรีมแบบไอซ์เชฟ (Ice Shaved) ซึ่งให้เนื้อไอศกรีมที่นุ่มนวล เย็นฉ่ำ และละลายช้า มีทั้งหมด 9 รสชาติ ได้แก่ ชาไทย นมเย็น กล้วย ซูเปอร์นม ช็อกโกแลต เสาวรส ชาเขียว มะม่วง และโยเกิร์ต เมนูไอศกรีมของร้านยังตั้งชื่อตามท้องทะเลและหมู่เกาะยิ่งชี้ชวนให้อยากกินขึ้นไปอีก Melon Miami ไอซ์เชฟรสซูเปอร์นมรสหวานเย็นฉ่ำที่มาพร้อมเมลอนฉ่ำหวานและกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์     Mango Maldives ไอซ์เชฟรสมะม่วง มะม่วงสุกและซอสมะม่วงให้รสชาติแบบมะม้วงมะม่วง     แต่มาภูเก็ตเราไม่อยากให้พลาด Phuket Passion ไอซ์เชฟรสเสาวรส มาในผลสับปะรดภูเก็ตและซอสเสาวรส      เร็วๆนี้ทางร้านยังได้เตรียมทำไอซ์เชฟรสทุเรียน ราดซอสแบบข้าวเหนียวทุเรียน เสิร์ฟมาในผลทุเรียนแฟนๆ ทุเรียนน่าจะชอบกัน ไม่เพียงเฉพาะไอศกรีมเย็นฉ่ำที่นี่ยังมี A Bread Cliff ที่พอจะสู้กับไอศกรีมของร้านได้อย่างสูสี ขนมปังก้อนสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเนื้อนุ่มพอดีคำฉ่ำด้วยเนย กินกับไอศกรีมวานิลลา น้ำผึ้ง และวิปครีม   

ก่อนอื่นต้องขอชูมือขึ้นสุดแขน ถ้าหากมีใครถามว่าเราเคยติดตามผลงานของสำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตรไหม แน่นอนว่านอกจากการอุดหนุนสติ้กเกอร์ไลน์ ตามซื้อหนังสือและอ่านบทความออนไลน์ของนักเขียนและนักวาดหลายๆ คนแล้ว ก็ยังรีบมาที่นี่เมื่อรู้ว่าพี่พฤทธิ์ เจ้าของสำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตรเปิดคาเฟ่กึ่งแกลอรี่นำหนังสือที่ตีพิมพ์แล้ว สินค้าแฮนด์เมดแสนน่ารักของนักเขียนและนักวาด (สิริ มุนิน ฯลฯ) ประจำสำนักพิมพ์มาให้เราชอปกันถึงที่ รวมถึงยังมีห้องนิทรรศการจัดแสดงงานศิลป์ของศิลปินที่จะหมุนเวียนไปทุกเดือน และเวิร์คชอปงานอาร์ตที่จัดขึ้นเป็นประจำมารวมอยู่ในที่เดียวกัน         ความพิเศษของร้าน 10 ml ที่เราชอบมากคือการเปิดกว้างให้ศิลปินทุกคนทั้งมีชื่อและโนเนมเข้ามาใช้พื้นที่ ทั้งภาพวาดของนักศึกษาที่เป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่ม ช่างภาพสักคนที่อยากแบ่งปันผลงานเจ๋งๆ ก็สามารถเข้ามาคุยกับพี่พฤทธิ์ได้เสมอ เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าทุกเดือนเราจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการมาเดินดูงาน อีกทั้งทุกวันเสาร์และอาทิตย์ยังเพิ่มความน่าสนใจขึ้นไปอีกขั้นด้วยกิจกรรมสอนถ่ายภาพ ปั้นตุ๊กตาดินจิ๋ว จัดดอกไม้ วาดภาพสีน้ำหรือลายเส้นง่ายๆ กระทั่งคลาส D.I.Y Wedding ก็มีให้เราเลือกเรียนได้ตามความสนใจด้วยนะ (ดูล่วงหน้าจาก FB ทางร้านได้เลย)           ส่วนเมนูอาหารเราต้องบอกว่าเก๋และมีความครีเอทสุดๆ เพราะอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มของที่นี่จะเปลี่ยนไปตามคาแรกเตอร์ของศิลปินที่มาจัดแสดงงาน แม้จะมีเมนูให้เลือกไม่มากแต่ทุกจานก็ผ่านการคิดมาอย่างตั้งใจแถมรสอร่อยเกินหน้าตาอาหารเสียด้วย   ช่วงที่เราไปเป็นเดือนจัดงานของมุนินพอดี อาหารก็จะให้อารมณ์เหมือนกับข้าวที่บ้าน อย่าง เซทข้าวแกงใบชะพลูหมู แกงใบชะพลูรสเข้มข้นเผ็ดร้อนกินคู่กับข้าวไข่ระเบิด เค้กมะพร้าว ได้รสมะพร้าวน้ำหอมเต็มคำเข้ากันกับเนื้อเค้กนุ่มๆ หวานน้อย รวมถึงเครื่องดื่ม แดนซ์ซิ่งเมอร์เมด เป็นบลูเลมอนโซดา รสเปรี้ยวหวานซ่า ตกแต่งแก้วได้น่ารักสดใส เหมาะกับภาพวาดของมุนินจริงๆ       

ระยะหลังเราเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มหันมาใส่ใจบ้านเกิดของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ละเลยที่จะเก็บอดีตเอาไว้ด้วย ซึ่ง QuipliciousFood Bar เป็นหนึ่งในนั้น ที่นี่คือผลผลิตของลูกหลานคนภูเก็ตนี่แหละ    หลังจากที่ปลุกปั้น Quip ที่พักสไตล์เบดแอนด์เบรกฟาสต์จนกลายเป็นที่รู้จักมาแล้ว คุณจักริน กตัญชลีกุล ก็ต่อยอดความชื่นชอบในอาหารจนกลายเป็นควิปลิเชียสอย่างที่เราเห็น บรรยากาศร้านก็ไม่ได้จ้างใครที่ไหนออกแบบ คิดเองทำเองจนได้ออกมาในกลิ่นอายแบบซักกะที่หยิบจับโน่นนิดนี่หน่อยให้ดูอบอุ่น แน่นอนว่ายังซ่อนเอาคำคม (Quip) ไว้ในการตกแต่งร้าน     ด้วยความเข้าใจเรื่องการกิน อาหารที่นี่จึงถูกคิดไว้แล้วว่าควรเป็นทาปาส เพื่อให้ลูกค้าได้กินอาหารที่หลากหลายก่อนที่จะอิ่มท้องเกินไป จานเด่นก็คือ Quiplicious Set ทาปาส 12 คำ กุ้งผสมหมูสับปั้นก้อน ซุปปวยเล้ง สลัดบีตรูต แกงไก่อินเดียในแตงกวา พัฟไก่ซอสถั่ว ทาร์ตสตูหมูมันบด เต้าหู้ไส้ไก่ แตงกวาญี่ปุ่นกับเห็ดและแอปเปิลผัด ซีซาร์พัฟกุ้ง แซลมอนวาซาบิ มินิสเต๊กเนื้อ และมันฝรั่งสตูหมู ทุกคำรสชาติจัดในคำเดียวกินคู่กับขนมปังกระเทียม      เพิ่มความสดชื่นและตัดเลี่ยนด้วยเครื่องดื่มสไตล์ควิป Magic Drink น้ำแข็งมะนาว เทน้ำอัญชันสีน้ำเงินลงไปกลายเป็นสีม่วง ให้รสหวานด้วยน้ำผึ้ง     แต่ถ้าอยากเต็มอิ่มต้อง Super Bowl อิตาเลี่ยนโซดาในโถใหญ่ยักษ์ มาพร้อมปีโป้เพิ่มเนื้อสัมผัส     ไม่เพียงเฉพาะอาหารสมัยใหม่ ควิปลิเชียสกำลังพยายามอนุรักษ์และพัฒนาอาหารท้องถิ่นให้น่าสนใจ ซึ่งตอนนี้มี Phuket Icecream ให้ได้ชิมกันก่อน สูตรดั้งเดิมเป็นไอศกรีมของแป๊ะป๋องที่ไม่มีขายที่ไหนแล้ว แต่ทำให้ที่นี่เท่านั้น ไอศกรีมข้าวโพดกะทิมาพร้อมกับซุปข้าวโพด ทับทิมกรอบ ถั่วลิสง ข้าวเหนียว และลูกชิด      อดใจรอกันอีกนิด เพราะที่นี่กำลังทดลองทำไอศกรีมโอ้วเอ๋วและไอศกรีมอาโปง ซึ่งเป็นของหวานประจำภูเก็ตอยู่ คาดว่าน่าจะอร่อยไม่แพ้ไอศกรีมภูเก็ตเลยทีเดียว