ตั้งแต่รู้จักครั้งแรกเมื่อปลายปี 66 “Duck Donuts” ร้านดังจากอเมริการ้านนี้ก็รั้งตำแหน่งร้านโดนัทเบอร์หนึ่งในใจเราแบบไม่เคยหลุดโผ ไฮไลท์คือโดนัทชิ้นโต แป้งนุ่มนิ่ม เคี้ยวฉ่ำลิ้น ท็อปปิ้งมีวาไรตี้ให้เลือกมาก และบรรยากาศสดใสเหมือนอยู่ในสวนสนุกที่ทำให้เรารู้สึกกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง วันไหนอยากเติมความหวานชื่นก็มาได้ทุกวันแบบนันสต็อป เจ้าเป็ดเหลืองเซเลบตัวน้อยของร้านจะยืนคอยต้อนรับ พร้อมชูเมนูน่ารักชวนกินมาให้เราได้เลือกเพียบเหมือนเดิม เริ่มต้นกันที่ Donut Sandwiches Premium เต็มปากเต็มคำกับโดนัทพรีเมียมชิ้นโต เนื้อนุ่มแน่น สอดไส้เบคอน ไข่ และชีส และซอสสูตรลับฉ่ำๆ หวานกำลังดี ต่อด้วย Classic Donut Sundae โดนัทต้นตำรับที่มีเนื้อแน่นเป็นพิเศษ ท็อปด้วยไอศกรีมซันเดลูกโต หวานฉ่ำถูกปาก วันไหนร้อนจัด สั่งเมนูนี้ไปดับร้อนได้ ชิ้นนี้ยิ่งห้ามพลาด Strawberry Confitti โดนัทมีรูเคลือบน้ำตาลรสสตรอว์เบอร์รีกรอบๆ ที่โดนลิ้นก็แทบละลายหมดแล้ว ด้านบนโรยท็อปปิ้งเพิ่มกิมมิกกรุบกรับยามเคี้ยว Chocolate Caramel Crunch โดนัทมีรูเคลือบช็อกโกแลต โรยถั่วราดด้วยซอลต์คาราเมล หวานๆ เค็มจางๆ ที่ปลายลิ้น Coconut Island Bliss โดนัทเคลือบช็อกโกแลต ท็อปปิ้งด้วยถั่วและมะพร้าว อร่อยตีคู่มาแบบสูสี เครื่องดื่มแนะนำ Salted Caramel หวานสุดใจยกให้แก้วนี้ ใครไม่กินหวานบอกน้องพนักงานให้ลดระดับได้ อีกแก้วคือ Latte จะดื่มที่ร้านก็ได้ หรือซื้อติดมือกลับบ้านก็ดี หอมหวานกลมกล่อม จิบได้ทั้งวัน    ทางร้านมีโปรโมชั่นมาเอาใจคนรักโดนัทเรื่อยๆ อย่าลืมกดติดตามเพจจะได้ไม่พลาดความอร่อยนะคะ

ชวนไปฮีลใจให้หายเหนื่อยในคาเฟ่สไตล์โฮมมีวินเทจที่ Camelot Café คาเฟ่ตึกสูงที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเจริญกรุง 45 บอกเลยว่าบรรยากาศอบอุ่นและไวบ์ดีมาก คาเฟ่นี้ตั้งชื่อตามหนังดังอย่าง Camelot หนังดราม่าแฟนตาซีอเมริกันปี 1967 ซึ่งเป็นหนังที่เจ้าของร้านชื่นชอบจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน ตึก 3 ชั้นที่พร้อมต้อนรับเราด้วยประตูไม้บานใหญ่ เมื่อก้าวเข้าไปด้านในต้องเป็นใจฟู เพราะเจ้าของร้านตั้งใจหยิบจับและตกแต่งออกมาในสไตล์โฮมมีผสมกับความวินเทจหยอกล้อกับความดิบจากผนังปูนเก่า มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้และหนังต่างๆ และเติมเต็มสีสันให้น่ารักมากยิ่งขึ้นด้วยตุ๊กตาและของเล่นของลูกสาวและของสะสมต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าอากาศหนาวกำลังมาเยือนอยู่ตลอดเวลา (เจ้าของร้านแอบกระซิบว่ายังไม่เปลี่ยนธีมเพราะยังไม่มีเวลาเก็บ) นอกจากชั้นล่างจะเปิดเป็นคาเฟ่แล้วเมื่อเดินขึ้นไปยังชั้น 2 เปิดเป็นโซนไวน์บาร์ที่ดีไซน์ออกเป็นแนว 80s พร้อมมุมโซฟาและเครื่องดนตรีที่เต็มไปด้วยแผ่นเสียงรุ่นเก่าไว้เปิดฟังเพลินๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มแบบชิลๆ สำหรับชั้น 3 เป็น living Room ไว้สำหรับเป็นมุมอ่านหนังสือและห้องนั่งเล่นไว้ให้เอนจอยกันกับเพื่อนๆ ได้สบาย สำหรับอาหารที่นี่ก็รังสรรค์ได้อย่างโฮมมีเช่นกัน โดยเริ่มตั้งแต่การทำขนมปังซาว์โดเองไปจนถึงรีดเส้นพาสตาสด ซึ่งครั้งนี้เราไปเราได้ไปลิ้มลอง Carbonara Pasta พาสตาเส้นเฟตตูชินีสดที่รีดกันวันต่อวัน นำมาผัดเส้นสุกกำลังดี ได้รสชาติเข้มข้นและครีมมี หอมกลิ่นเบคอน ตักจิ้มคู่กับไข่แดงสดก็เพิ่มความครีมมีได้อย่างทวีคูณ Signature Steak Sandwich Wagyu เรียกได้ว่าเป็นพระเอกของร้าน เนื้อวากิวย่างสุกระดับมีเดียมแรร์ เสิร์ฟมาในขนมปังซาว์โดเนื้อนุ่มหนึบ พร้อมกับสลัดต่างๆ บอกได้คำเดียวหากใครมาแล้วห้ามพลาด! Biscoff Caramel Cheese Cake ชีสเค้กเนื้อสัมผัสแน่น ฐานด้านล่างเป็นคุกกี้บิสคอฟบด ให้ความกรุบกรอบเพิ่มความอร่อยให้กับครีมชีสได้เป็นอย่างดี ราดด้วยซอสคาราเมล หวานกำลังดี อย่าลืมปิดท้ายด้วย Iced Red Thai Tea ชาไทยที่เสิร์ฟมาในรูปแบบไอซ์บอล หอมกลิ่นชา เสิร์ฟมาพร้อมกับนมจืดและไซรัป ทั้งบรรยากาศและรสชาติของอาหารก็เติมเต็มวันธรรมดาๆ ให้ใจฟูได้

เปลี่ยนบรรยากาศการกินเต่าบินที่ปกติจะสั่งได้แค่เครื่องดื่ม แต่ล่าสุดทางแบรนด์ได้เปิด Pop-up Cafe ให้เหล่าฟู้ดดี้ไปเปิดประสบการณ์การสั่งของหวานผ่านตู้เต่าบินที่คุ้นเคยที่ เต่าบินคาเฟ่ (Tao Bin Cafe) สาขาแรก เดอะมอลล์บางกะปิ ทางร้านยังคงคอนเซ็ปต์การสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่ตู้เหมือนเช่นเคย แต่ที่พิเศษสุดๆ ก็คือที่นี่เขาเน้นเสิร์ฟขนมหวานและกาแฟสด โดยสามารถสั่งผ่านตู้เต่าบินทางด้านหน้าร้านได้เลย รับรองว่าทุกคนจะต้องประทับใจกับรสชาติใหม่ๆ ของแต่ละเมนูที่ทางแบรนด์นำเสนออย่างแน่นอน อย่าพลาด Tao Pang Original ขนมปังชิ้นใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น หอมนุ่มชุ่มเนย เสิร์ฟคู่ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และซอสหลากรส เราเลือกเป็นไอศกรีมรสนมเนื้อเนียนนุ่ม มีความหอมมันและหวานเล็กน้อย เพิ่มรสชาติด้วยซอสสตรอว์เบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวาน อร่อยจนวางช้อนไม่ลง Soft Serve Thai Tea ไอศกรีมชาไทยเนื้อเนียนละเอียด ได้กลิ่นหอมของชาชัดเจน รสหวานไม่มาก แถมติดขมที่ปลายลิ้น บอกเลยว่าเข้มข้นสุดๆ ให้กินหมดถ้วยคนเดียวก็ไหว กินเสร็จแล้วอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ที่ Photo Booth กันนะ

แม้เพียงเดินผ่านก็คงต้องสะดุดตากับตุ๊กตาหลากสีสันยอดฮิตที่นั่งเรียงกันเป็นแถวบนชั้นวางกว่า 20 คาแรกเตอร์ และพี่หมีใหญ่ Love-a-Lot Bear Standy ที่ยืนแจกความสดใสอยู่หน้าร้าน Care Bears Cafe คาเฟ่คาแรกเตอร์น้องหมีที่จะทำให้คุณ 'ยิ้มกว้าง' ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบเจอแต่เจ้าหมีแคร์แบร์ที่ยกขบวนมาต้อนรับเรากันแน่นร้าน และยังมาพร้อมกับสินค้า Care Bears ลิขสิทธิ์แท้อีกหลากรูปแบบ มีให้เลือกช้อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมอนผ้าห่ม เคสโทรศัพท์ เครื่องเขียน พวงกุญแจ กระเป๋า และสินค้า Exclusive Merchandise ที่ผลิตขึ้นเพื่อวางจำหน่ายเฉพาะ Care Bears Cafe เท่านั้น นอกจากนี้ทางคาเฟ่ยังมีพื้นที่ที่สามารถนั่งรับประทานของหวานได้อีกด้วย แนะนำเป็น Soft Serve Ice Cream Cone รส Strawberry Yogurt ให้รสหวานอมเปรี้ยว สดชื่นมาก ต่อด้วย Hokkaido Milk เนื้อไอศกรีมเนียนนุ่ม มีความหอมละมุนลิ้น รสชาติหวานกำลังดีเลย เครื่องดื่มก็มีให้ลองทั้ง Thai Milk Tea ชาไทยรสเข้มข้น หอมกลิ่นชา ท็อปด้วยฟองนมและคุกกี้หน้าหมีน้อย และ Caramel Milk รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นคาราเมล กินคู่คุกกี้รูปหมีและวิปครีม อร่อยไม่แพ้กัน อย่าช้อปเพลินจนลืมสั่งกันนะ  

คาเฟ่ฮอปเปอร์ที่ตระเวนเช็คอินมาแล้วทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ยังไม่เจอคาเฟ่ที่ได้บรรยากาศของป่าเขา เราแนะนำ Kenora Park n Play คาเฟ่ย่านติวานนท์ที่จำลองบรรยากาศสดชื่นของเขาใหญ่มาไว้ชานเมือง บริเวณร้านกว้างขวางรองรับลูกค้าได้จำนวนมากแบบไม่แออัด เหมาะกับการพักผ่อนของทุกคนในครอบครัว จากทางเข้าด้านหน้าจะมุ่งสู่ตัวอาคารชั้นเดียวที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับและศูนย์รวมความอร่อย ดีไซน์โดดเด่นทรงเอเฟรม กรุกระจกให้มองเห็นพื้นที่สีเขียวด้านนอก เสมือนกระท่อมน้อยในป่าใหญ่ ส่วนการตกแต่งด้านในเน้นความโปร่งโล่ง โทนสีอบอุ่นเพื่อให้ล้อไปกับธรรมชาติที่รายล้อม รวมถึงมีสเปซให้ยืดแขนขาได้สบายๆ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจับจองโซนเอาท์ดอร์ที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ มีสนามเด็กเล่นให้น้องๆ หนูๆ ได้ปล่อยพลัง รวมถึงใครอยากนั่งพักเอนกายริมลำธาร ฟังเสียงน้ำไหลเซาะโขดหิน ก็ชาร์ตพลังได้อย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ เพราะเป็นคาเฟ่ของทุกคนในครอบครัว อาหารจานเด็ดจึงเน้นที่กินง่ายถูกปากทุกเจนเนอเรชั่น อาทิ Spaghetti Creamy Shrimp Sauce สปาเก็ตตีครีมซอสไข่กุ้ง เส้นสปาเก็ตตี้ลวกได้นุ่มหนึบ คลุกเคล้ากับซอสไข่กุ้งที่มีความครีมมี่ หอมมันและเข้มข้น มีเนื้อสัมผัสจากน้ำสต๊อกที่ทำจากเปลือกกุ้งสูตรลับของร้าน เสิร์ฟพร้อมขนมปังกระเทียมอบร้อนๆ รสเค็มๆ นัวๆ หอมกลิ่นกระเทียม ถัดมาเป็น ไก่กรอบซอสหัวหอม ไก่ทอดสูตรเด็ดที่เด็กปลื้ม กรอบนอกนุ่มใน ไร้ความมันส่วนเกิน ราดด้วยซอสหัวหอมเพิ่มความเข้มข้นไปอีกขั้น ถ้ารู้สึกว่าเลี่ยนเกินไปก็มีเลมอนให้บีบตัดรสชาติ ส่วนอาหารจานเดียวยอดนิยมยกให้ Chilli and Garlic Pork Belly with Omurice ข้าวไข่ข้นหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ รสชาติกลมกล่อมเจือเผ็ดปลายลิ้น กินแล้วคิดถึงรสมือแม่ที่คุ้นเคย อาหารของร้านอาจไม่ได้มีวาไรตี้ให้เลือกมาก เพราะคัดมาแล้วว่าดีต่อใจที่สุด จะสั่งเมนูไหนก็ไม่ผิดหวัง นอกจากอาหารที่ควรค่ากับการฝากท้อง ที่นี่ยังเด่นเรื่องเครื่องดื่มที่มีทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ให้สั่งได้อย่างจุใจ ร้านสวย ฟีลธรรมชาติ ไม่ต้องขับรถไกล ก็ได้เพลินใจ แถมสบายพุง  

เมื่อนึกถึงร้านโดนัทรสชาติดีสักร้าน อย่างไรซะก็จะมองข้าม “Brassica bkk” ไปเสียไม่ได้ ร้านโดนัทสไตล์อังกฤษลูกโตๆ เนื้อนุ่มหนึบของคุณเมย์ – วรนุช เตชะธนะชื่น และชอง เหวิน (Cong Wen) เชฟฝีมือดีจากประเทศสิงค์โปร์  ที่ครั้งนี้ขยายโลเคชั่นใหม่มาที่ Emsphere (BTS พร้อมพงษ์) ตัวร้านโดดเด่นด้วยสีไวน์แดง เพื่อลิ้งก์กับสาขาแรกที่นางลิ้นจี่ พร้อมให้คุณลิ้มลองโดนัทโฮมเมดทอดใหม่สดๆ ร้อนๆ ก่อนนำไปคลุกน้ำตาลให้ทั่ว สอดไส้กวนเองรสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมวานิลลา แยมสตรอว์เบอร์รี เนยถั่ว ช็อกโกแลต (ไส้มีให้เลือกเยอะมาก) ที่ทางร้านเขาจะบีบสดใหม่ ไม่ทำไว้รอลูกค้าเพื่อสัมผัสที่ดีของโดนัท แถมสาขานี้ยังมีโดนัทไส้คาวอย่างไก่ทอด เอาไว้เอาใจสายฟู้ดอีกด้วย เริ่มชิมจาก Fried Chicken Nanban San Doughnut ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในร้อนจี๋ เข้ากันดีกับแป้งโดนัทเนื้อเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นเบิร์นไฟอ่อนๆ และซอสนัมบังรสครีมมีเข้มข้น ได้รสเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศหอมๆ เต็มพิกัด ตามด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Leche Flan Doughnut Sandwich คัสตาร์ดคาราเมลเนื้อเนียนนิ่ม เปี่ยมไปด้วยรสหวานของคาราเมล กัดพร้อมแป้งนัทเนื้อฟูๆ มีความหนึบเล็กๆ ก่อนเสิร์ฟเบิร์นไฟเล็กน้อย Creme Brulee Doughnut เมนูดาวเด่นประจำร้านตลอดกาล โดนัทลูกใหญ่ๆ แป้งนุ่มนิ่ม สอดไส้ครีมวานิลลาคัสตาร์ดที่ทำมาจากฝักวานิลลาแห่งเกาะมาดากัสการ์ รสหวานมันสุดฟิน ตัวนี้ยังไม่เคยลอง Pistachio & Raspberry Doughnut โดดเด่นด้วยครีมพิตตาชิโอรสครีมมี ตัดด้วยรสเปรี้ยวอมหวานของแยมราสป์เบอร์รีรสเปรี้ยว ต่อด้วย Lemon Cheesecake Doughnut ที่เรารัก เพลิดเพลินกับเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวกลมกล่อม ไปด้วยกันได้ดีกับครีมวานิลลาคัสตาร์ดหวานมัน และแป้งโดนัทเนื้อนิ่ม Kaya Butter Brulee Doughnut แป้งโดนัทโฮมเมดเบิร์นไฟ ประกบสังขยาใบเตยทำเองรสหวานพอเหมาะ หอมกลิ่นใบเตยละมุน และเนยเค็มนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ส่วนเครื่องดื่มเราแนะนำ HK Tea ชานำเข้าจากประเทศฮ่องกง กลิ่นหอมชวนลิ้มลอง ผสานกับมะนาวและน้ำผึ้ง ปิดท้ายด้วย Root Beer ซาบซ่าชื่นใจ โดนัทแบบไม่มีไส้ก็มีขายนะ

เหมือนหลุดไปในอาณาจักรขนมหวาน Scene Bangkok ร้านสวยบนถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 ด้านหน้าเป็นร้านเบเกอรี่ที่ดีไซน์แบบโมเดิร์นแฝงด้วยด้วยกลิ่นอายฝรั่งเศส มีชั้นลอยที่เมื่อมองลงมาจะเห็นบาร์เปิดแบบ 360 องศา รายล้อมด้วยขนมที่ทั้งอร่อยและน่ารักตามแบบฉบับของทางร้าน ด้านนอกเป็น Scene Secret Garden และบ้านฮอบบิท ที่นี่รวมเมนูซิกเนเจอร์ของ Scene Bangkok เอาไว้ด้วยกัน ทั้ง Abstract มูสเค้กสีสวยที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะ ได้ทั้งรสชาติสดชื่นจากยูซุและรสเปรี้ยวอมหวานจากสตรอว์เบอร์รี มีเมล็ดฟักทองกรุบกรอบมาเพิ่มรสสัมผัส Leche Flan Danish ขนมปังครัวซองต์กรอบๆ สอดไส้ครีมนมสดรสละมุน ท็อปด้วยครีมคาราเมลหอมหวาน Macadamia & Almond Salted Caramel Croissant แป้งครัวซองต์ทำเป็นรูปเรือชิ้นยาว ท็อปด้วยแมกคาเดเมีย อัลมอนด์ และซอสคาราเมลสูตรพิเศษ รวมถึงครัวซองต์แป้งกรอบฉ่ำเนยก็ยังคงเป็นไฮไลต์ นอกจากขนมจะดีงาม เมนูคาวก็ห้ามพลาด เพราะทางร้านมีเซ็ตเฉลิมฉลองเทศกาลอย่าง“CHRISTMAS SPECIAL SET A” ในเซ็ตมี Onion Soup, Caesar Salad และ Mediterranean Sea Bass สเต๊กปลากระพงสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน และ CHRISTMAS SPECIAL SET B” ที่มีทั้ง Truffle Soup, Scene Garden Salad และจานหลักที่เลือกได้ระหว่าง Flat Iron with Lobster Sauce และ Pork Chops with Mushroom Sauce แต่ใครไม่อยากกินครบทั้งเซ็ตก็เลือกสั่งเมนูอะลาคาร์ตได้เลย คุ้มค่ากับการขับรถมาไกล

High Tea by Pickaboo แทบจะไม่ใช่คาเฟ่แล้ว แต่เป็นโลกคู่ขนานระหว่างความวุ่นวายบนถนนอโศกมนตรีกับความเป็นส่วนตัวด้านใน ที่มีเพียงคนรู้ใจมารวมตัวกัน การตกแต่งในร้านเน้นเฉดสีที่หลากหลายให้อารมณ์เหมือนมาปาร์ตี้ลับ บรรยากาศสนุกๆ ปลุกความมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นลวดลายบนพื้น ผนัง หรือแม้แต่บนเพดานก็ทำให้เราต้องหยุดมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือบรรดาของสะสมแปลกตาที่เดินทางมาจากทั่วโลก รวมถึง “ท่านเคาท์พิกาบู” กระต่ายมาดเท่ เซเลบประจำร้าน ที่น่ารักน่าหยิกที่สุด ชื่อร้านบ่งบอกในตัวว่าไฮไลท์จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก High Tea อาทิ Oriental Set ชุดขนมไทย ประกอบด้วย ช่อม่วง ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง ลูกชุบ อาลัว เสน์ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ ขนมไส่ใส้ และเมนูสแตนดาร์ดอย่างสคอน เลมอนพาย ปังโอช็อค และครัวซองต์ เสิร์ฟพร้อมแยมมิกซ์เบอร์รี่ จากนั้นเลือกชาได้ตามชอบไม่ว่าจะเป็นชาขาว ชาวเขียว หรือชาอู่หลงก็ได้ Continental Set ชุดนี้ไม่มีขนมไทย เปลี่ยนมาจัดเต็มเค้กและเบเกอร์รี่แทน ประกอบด้วย มินิเบอร์เกอร์พาร์มาร์  ชีสนอร์ดินี บลูเบอร์รี่พาย เรดเวลเวต อัลมอนด์ช็อก สคอน เลมอนพาย ปังโอช็อค ครัวซองต์ เสิร์ฟพร้อมแยมมิกซ์เบอร์รี่ และเลือกชาได้ตามชอบเช่นเดียวกัน ใครอยากลองเครื่องดื่มชนิดอื่น ก็มีให้เลือกสั่งทั้งกาแฟ โกโก้ และม็อกเทล พลิกดูเมนูแล้วอาจเลือกไม่ถูก เราขอแนะนำ 2 แก้วที่ห้ามพลาด ได้แก่ Rose Trip ชาขาวกับลิ้นจี่ ราสเบอร์รี และดอกกุหลาบ รสหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ และ Green Geisha ชาเขียวน้ำผึ้งมะนาวผสมผสานกับผลไม้หลายชนิด ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่แพ้กัน มาถึงร้านทั้งที เรายังมีเรื่องดีๆ มาบอกต่อ ที่นี่เค้ามีห้องลับสำหรับใครที่อยากดูไพ่ยิปซี บรรยากาศสุดขลังฟังแล้วฟินมาก แต่บุ่มบ่ามไม่ได้นะ ต้องนัดเวลาก่อน แม่หมอเค้าคิวแน่นจริงๆ

ไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุดก็สามารถชวนชาวแก็งค์ไปกินขนม เอนจอยกับเครื่องดื่มรสละมุนได้ที่ร้านโทสต์สุดคิวท์ตาแป๊วชื่อน่ารัก “ลูกเล็กเด็กแดง” ซึ่งตั้งอยู่ในโลเคชั่นสุดป๊อปบนถนนบรรทัดทอง โดยตกแต่งมาด้วยมู้ดแอนด์โทนชวนสดใสอบอุ่นอย่าง สีแดงและขาว ที่ใครได้เดินผ่านเป็นต้องอยากเข้าไปสัมผัสความน่ารักด้านใน ทางร้านเน้นเสิร์ฟเป็นโทสต์หน้าคาวหวานคู่กับเครื่องดื่มนมและ โซดาให้อิ่มท้องเพลินใจควบคู่ไปกับเสียงเพลงเพราะๆ จากดนตรีสดที่มีให้ฟังทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มาแล้วต้องลอง ครีมทรัฟเฟิลชีสโทสต์ (169.-) ชีสโทสต์เนื้อเหนียวนุ่มราดครีมทรัฟเฟิลหอมมัน ด้านบนโรยด้วยเบคอนกรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสเทาซันไอแลนด์เข้มข้น เข้ากันอย่างลงตัว ต่อด้วย บิสคอฟฮันนี่โยเกิร์ตโทสต์ (139.-) เนื้อขนมปังเหนียวนุ่มหอมเนยราดด้วยคาราเมลและครีมโยเกิร์ต เพิ่มความหวานด้วยบิสคอฟป่นด้านบน เสิร์ฟคู่ไอศกรีมวานิลลาและครัมเบิลกรุบกรอบ หวานตัดเปรี้ยวกินแล้วไม่เลี่ยนเลย ใครชอบเมนูสไตล์ไทยสั่ง สังขยาชาไทยใบเตยโทสต์ (89.-) ขนมปังโทสต์เนยรสเค็มนิดๆ สีเหลืองนวลน่าอร่อย จุ่มกับดิปสังขยาชาไทยและใบเตย แนะนำให้จับคู่กับเครื่องดื่มอย่าง ชาเย็นหรือโกโก้ ชงแบบเข้มข้นหวานมันถูกใจสายหวานแน่นอน

LOULOU Cafe & Restaurant คาเฟ่ vibe ดีที่เปิดตัวได้ไม่นานแต่กลับมีคิวยาวเป็นหางว่าว ด้วยไอเดียการดีไซน์ร้านที่ถูกใจชาวคาเฟ่ฮอปเปอร์ แถมยัง 'ใส่ใจสิ่งแวดล้อม’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainable Eco Friendly โดยตัวร้านได้หยิบยกวัสดุรีไซเคิลมาใช้ออกแบบพร้อมตกแต่งจนกลายเป็นคาเฟ่สุดเก๋ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ กระเบื้อง หรือแม้กระทั่งภาชนะบรรจุเครื่องดื่มแบบ Take Away ที่กลายเป็นกิมมิกของร้าน ออกแบบโดย Loulou BKK X Studio Cantalove ก็ล้วนเน้นเรื่อง Reduce - Reuse - Recycle 100% รู้แบบนี้แล้วบอกเลยว่าช่วยเพิ่มฟีลให้อยากเข้าไปอุดหนุนมากขึ้นเป็นกอง! นอกจากจะใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว อาหารของที่ร้านก็ยังได้รับการรังสรรค์จากเชฟมากฝีมือเช่นกัน เพราะคำว่า “Lou Lou” ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “อร่อย” ฉะนั้นแต่ละเมนูจึงปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ก่อนปรับเปลี่ยนสูตรให้ถูกปากคนไทย โดยเน้นเสิร์ฟเป็นอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดแบบ All Dat Dining ทั้งบรันช์ สเต๊ก และพาสตา ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มแบบ Coffee, Non-Coffee และไวน์ดีๆ ในมื้อค่ำให้ดื่มด่ำควบคู่ไปกับอาหารอีกด้วย เริ่มต้นที่ LOU LOU Pasta เส้นพาสตาผัดกับกาลิกออยล์ ปรุงรสอย่างเบามือ มีความหอมมันและเผ็ดเล็กน้อยจากพริกแห้ง กินคู่กุ้งตัวโต เพิ่มความสนุกให้การเคี้ยวด้วยไข่กุ้ง อร่อยสมกับเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ต่อด้วย Waffle & Chicken สะโพกไก่ชิ้นใหญ่ทอดจนกรอบนอกแต่ข้างในยังฉ่ำ เสิร์ฟคู่แพนเค้กโฮมเมดเนื้อนุ่มฟู ก่อนกินแนะนำให้ราดเมเปิลไซรัปรสหวานหอมลงบนไก่หรือแพนเค้ก รับรองว่าจะติดใจ ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง Hamming Bird เป็นเค้กกล้วยผสมสับปะรดสลับเลเยอร์กับครีมชีสรสหวานละมุน เพิ่มเท็กซ์เจอร์ความกรุบกรับด้วยพิสตาชิโอและวอลนัตด้านบน และ Matcha Yuzu Soda เครื่องดื่มแสนสดชื่นด้วยน้ำยูซุผสมโซดา ให้รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ท็อปด้วยมัตฉะรสเข้มข้น เข้ากันได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นร้านที่อิ่มท้องพร้อมอิ่มใจสุดๆ

สายหวานต้องมาลอง “Coco Walk Café” คาเฟ่มะพร้าวออร์แกนิกส์ที่ตั้งอยู่ในไอคอนสยาม (บริเวณชั้น 4 ) เสิร์ฟเครื่องดื่มครีเอทจากมะพร้าวน้ำหอมออร์แกนิกส์แห่งอำเภอบ้านแพ้ว ของดีประจำจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าของคือคุณจิน-บุญศรี หาญเกียรติกล้า อดีตพีอาร์และนักการตลาดประสบการณ์กว่า10 ปี ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำมะพร้าวจนได้แรงบันดาลใจเปิดแบรนด์นี้ในที่สุด จุดเด่นของ Coco Walk Café คือน้ำมะพร้าวมีความหวานที่คงที่ทุกแก้วทุกกระป๋อง เพราะที่ร้านใช้ “เครื่องวัดความหวาน” ได้มาตรฐานมาใช้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด ก่อนใช้ชงเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ลูกค้า แถมยังมีเบเกอรีอบสดใหม่เข้าคู่ไปด้วยกัน ต้อนรับด้วย มะพร้าวน้ำหอมวังชา เครื่องดื่มรสอร่อยที่เป็นการรวมตัวกันของน้ำมะพร้าวน้ำหอมรสหวานฉ่ำ นมสด และชาไทยหอมฟุ้ง ท็อปด้วยฝอยทองล้นๆ มะพร้าวน้ำหอมน้ำผึ้ง พายแอปเปิ้ล เบสเป็นตัวน้ำมะพร้าวน้ำหอมผสานนมสดครีมมีเช่นเคย เพิ่มเติมคือสดชื่นจากแอปเปิ้ลและความกรุบกรอบของครัมเบิ้ล ต่อด้วย มะพร้าวน้ำหอมนมสดลอดช่อง เอาใจคนรักขนมไทยด้วยเฉพาะ ลอดช่องโฮมเมดแป้งนุ่ม เข้ากันดีกับน้ำมะพร้าวมิ๊กซ์นมสดรสกลมกล่อม นอกจากนี้ที่ร้านยังมี มะพร้าวน้ำหอมในรูปแบบกระป๋อง รสหวานสดชื่น สำหรับสายหวานที่อยากหิ้วกลับไปกินที่บ้าน

จะเรียกที่นี่ว่าเป็นบ้านในฝันก็คงไม่เกินไปนัก Peter & Rabbit English Tea Time ฟาร์มคาเฟ่ในสวนสไตล์อังกฤษบนถนนอุทยาน พุทธมณฑล ที่จะทำให้หัวใจทุกคนพองโต ที่นี่มีทั้งบ้านต้นไม้หลังจิ๋วและสนามเด็กเล่นให้น้องๆ ได้เล่นสนุก พร้อมด้วยแก๊งกระต่ายขนปุย น้องเป็ด น้องห่านสุดน่ารักรอทักทายอยู่ แถมเรายังได้เห็นกระต่ายปีเตอร์จากเรื่อง The Tale of Peter Rabbit เป็นกิมมิกภายในร้านด้วย มาถึงเรื่องอาหาร ที่นี่เสิร์ฟทั้งเมนูคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เหมาะกับกลุ่มครอบครัว อาทิ สปาเกตตีครีมซอสไข่กุ้ง รสเข้มข้นครีมมีท็อปด้วยไข่กุ้งให้เคี้ยวเพลิน ข้าวผัดมันกุ้ง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่างไข่เค็ม ขิงซอย พริกซอย และมะนาว พลาดไม่ได้กับ Mr.กระพง ปลากระพงทอดหั่นเต๋าเสียบไม้ให้กินง่ายขึ้นราดด้วยเครื่องพริกเกลือที่คั่วแยกต่างหาก ปิดท้ายด้วย Rabbit Cake เค้กรูปน้องกระต่าย ด้านในสอดไส้ซอสสตรอว์เบอร์รี่รสเปรี้ยวสดชื่นด้านล่างเป็นครัมเบิลกรุบกรอบ น่ารักเข้ากับบรรยากาศร้าน

ชวนชาวก๊วนไปปาร์ตี้น้ำชาต้อนรับปีมังกรแบบปังๆ กันที่ Chongdee Teahouse - โรงชาชงดี สาขาใหม่แกะกล่อง @เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 7 ซึ่งสาขานี้มาพร้อมกับขนมตัวใหม่อย่าง ‘ขนมปังปิ้งโบราณ’ เมนูพิเศษเฉพาะสาขานี้ ชาชงดี เป็นแบรนด์ชาใต้แท้ๆ จากหาดใหญ่ที่กำลังเป็นกระแสอย่างมาก โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีโต๊ะให้นั่งรับประทานชาดีๆ พร้อมกินคู่ขนมสูตรเฉพาะของร้าน ส่วนทางด้านของชาก็มีให้เลือกทั้ง 'ชาชงดี' (ชาใต้ล้วน) และ 'ชาชงร่วม' (ชาใต้ผสมชาไทย) ที่สามารถเลือกดื่มได้ทั้งแบบใส่น้ำแข็งหรือสเลอปี้ ซึ่งทุกแก้วจะเสิร์ฟคู่กับขนมแพริงไซส์พอดีคำ อย่างแก้วแรกนี้จะเป็น ชาชงดี เสิร์ฟคู่ปาท่องโก๋ซิกเนเจอร์ของร้าน และถัดมาคือ สเลอปี้ชาชงดี กินคู่ขนมปังปิ้งสุดพิเศษ อร่อยจนต้องยกให้เป็นตัวชูโรงของสาขาเซ็นทรัลเวิลด์เลย แต่ถ้าใครยังกินขนมไม่หนำใจ ก็สามารถสั่งแยกเป็นเซ็ตได้เช่นกัน แนะนำเป็น 'ขนมปังปิ้งโบราณ' เนื้อกรอบนอกนุ่มใน และฉ่ำไปด้วยเนย ยิ่งดิปกับน้ำตาลโตนดใส่กะทิยิ่งทวีความอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัว

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ The Matcha Tokyo ร้านมัตฉะออร์แกนิกแบรนด์ดังจากโอโมเตะซานโด กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น บินลัดฟ้ามาเปิดสาขาในไทยให้สาวกมัตฉะได้ตามไปลองกันแล้ว โดยหลังจากเปิดตัวสาขาแรกที่ Emsphere ศูนย์การค้าแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิทไปเพียงสองอาทิตย์ ก็ทำการเปิดสาขาสองที่ Emporium แบบตามมาติดๆ โดยมาพร้อมกับตัวร้านที่กว้างขวางนั่งสบาย เหมาะกับการแวะไปเอ็นจอยนั่งจิบชาได้ทุกวัน The Matcha Tokyo นำเสนอมัตฉะเกรด Ceremonial จากใบชาระยะแรกมาในรูปแบบที่ทันสมัยเข้าถึงง่าย จุดเด่นคือการเสิร์ฟเมนูชาที่ดีต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม โดยใบชาของแบรนด์ส่งตรงจากฟาร์มชาที่ผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถันด้วยน้ำแร่ธรรมชาติและดินดีอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทำให้ได้ชาพรีเมียมที่รสชาตินุ่มนวลอูมามิไม่เหมือนใคร มาแล้วต้องไม่พลาด Gold Blend เพียวมัตฉะไม่ผสมนมและน้ำตาลที่ผ่านการตีด้วยมืออย่างพิถีพิถัน รสอูมามิ ไม่ขมฝาดดื่มง่ายได้ความสดชื่น แนะนำให้จับคู่กับ Croffle Milk Jam ครอฟเฟิลกรอบนอกหนึบในออนท็อปด้วยแยมนมมัตฉะ เข้ากันดีเป็นที่สุด Matcha Soft Cream มัตฉะซอฟต์เสิร์ฟเนื้อเนียนเบาละมุนที่เพิ่มเท็กเจอร์กรุบกรอบด้วยการเคลือบเกล็ดน้ำตาลทรายผสมผงมัตฉะ เสิร์ฟมาบนโคนเมเปิลไซรัปนำเข้าจากญี่ปุ่น เป็นเมนูที่อร่อยลงตัวมากๆ ใครอยากสัมผัสความอร่อยของมัตฉะออร์แกนิกแบบพรีเมียมให้ปักหมุดไปที่ ชั้น 1  Emporium หรือชั้น G ที่ Emsphere ได้เลย

เดินไม่กี่นาที MRT หัวลำโพง จะเจอกับ Khiri Thai Tea คาเฟ่ชาไทยในอาคารเก่าติดกับวัดไตรมิตรที่แค่เปิดประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นหอมๆ ของใบชาลอยอวลไปทั่ว ตัวร้านอยู่ในอาคารเก่าสูง 7 ชั้น (ซึ่งตอนนี้เปิดเพียง 3 ชั้น และจะค่อยๆ เผยโฉมต่อไป) คุณแพร เจ้าของร้านบอกกับเราว่าตั้งใจคงเสน่ห์ของโครงสร้างเอาไว้ หากสังเกตเราจะได้เห็นกระเบื้องสีสวยที่ขัดใหม่จนเงาวับ และลิฟต์ขนของสุดคลาสสิกที่เห็นแล้วอดถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้ เพราะ “ชาเย็น” เป็นเครื่องดื่มสุดโปรดมาตลอด คุณแพรจึงตั้งใจส่งต่อกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ของชาไทยว่าดีงามไม่แพ้ชาจากที่อื่น Khiri Thai Tea จึงเป็นคาเฟ่ที่คัดเลือกใบชาจากไร่ชาหลายจังหวัดในภาคเหนือ 9 จังหวัดที่โดดเด่นด้วยความนุ่มลึกและชา 1 ชนิดจากปัตตานีที่มีความเข้มข้นมาทำเป็นเครื่องดื่มและขนมหวานได้เก๋ไก๋ อาทิ On Cloud เกล็ดน้ำแข็งละเอียดนุ่มทำจากชาไทยแบบไม่ผสมน้ำหรือน้ำแข็ง ด้านล่างเป็นบุกบราวน์ชูการ์และบุกคริสตัลให้เคี้ยวเพลิน ท็อปด้วยวิปครีมและทองม้วนจากเยาวราช ความน่ารักของเมนูนี้คือผ่านการคิดและทดลองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนว่าต่อให้ปล่อยทิ้งไว้นานจนละลายเราก็ยังได้รสชาติของชาครบถ้วน Single Origin Tea “Chaing Rai” ชาจากเชียงรายความเข้มระดับกลางมาในกาใบจิ๋ว เสิร์ฟคู่กับนมสดให้เราค่อยๆ เทชาลงไปแล้วดื่มด่ำกับแก้วโปรดได้เต็มที่ Black Sesame ชาไทยเย็นท็อปด้วยครีมงาดำ เวลาจิบแล้วจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของงาดำด้วย ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน Bun ซาลาเปาอบจับคู่ไอศกรีมที่เลือกได้ 3 รสชาติ ทั้ง Thai Tea, Biscoff และ Banoffee ด้านล่างมีครัมเบิลกรุบกรอบไว้กินด้วยกัน

หากมีโอกาสได้ไปทำบุญเสริมสิริมงคลกราบหลวงปู่โต๊ะที่วัดประดู่ฉิมพลีกันแล้ว เราอยากชวนเพื่อนๆ ไปฟินกันต่อกับ Coolato’ ร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟสุดคูลในซอยเพชรเกษม 15 ที่เน้นเสิร์ฟความหวานเย็นชื่นใจ พร้อมชมวิวพระใหญ่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ Coolato เป็นร้านไอศกรีมนมโฮมเมดเนื้อเนียนละเอียดที่มาพร้อมคุณภาพแบบเต็มพิกัด ด้วยความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบ และปรับสูตรจนได้เป็นไอศกรีมนมสุดละมุนตามสโลแกน Milk & More ที่ให้ความหอมหวานของนมฮอกไกโดชัดเจน แถมยังใส่เครื่องเยอะแบบโอเวอร์โหลด ภายในร้านจัดพื้นที่ให้ดูชิคตามคอนเซ็ปต์ของห้องสไตล์ Street-Art เน้นใช้สีน้ำเงินตัดกับสีเหลือง เพิ่มลูกเล่นด้วยไฟนีออนหลากสีสัน ทำให้มู้ดแอนด์โทนของร้านออกแนวเท่แต่ปนไปด้วยความสนุก เหมือนเป็นสถานที่ที่มัดรวมคนคูลๆ มาอยู่รวมกัน ในส่วนของเมนูแนะนำเป็น Affogato ไอศกรีมนมซิกเนเจอร์ราดด้วยช็อตโกโก้รสเข้มข้น เข้ากันได้อย่างลงตัว Popcorn Biscoff Caramel Super Sundae เสิร์ฟในแก้วไซส์ใหญ่ มาพร้อมท็อปปิงแบบไม่อั้นทั้ง บิสคอฟ ป๊อปคอร์น ซอสคาราเมล และคุกกี้ครัมเบิล (สามารถแอดเครื่องเพิ่มได้ด้วยนะ) ตามด้วย Honey Lemon Sundae ไอศกรีมซันเดรสหวาน ตัดเลี่ยนด้วยความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของซอสฮันนี่เลมอนโฮมเมด Sugar Cone ไอศกรีมทูโทนรสนมฮอกไกโดและรสช็อกโกแลต เสิร์ฟในโคนชูก้าที่มีความหวานเล็กน้อย แต่กรอบอร่อยทีเดียว Honey Lemonade Soda เครื่องดื่มแสนสดชื่น มีความเปรี้ยวซ่าจากน้ำเลมอนและโซดา กินเสร็จแล้วอย่าลืมเดินเข้าไปแชะภาพสวยๆ ในซอย เพื่อถ่ายรูปข้ามน้ำกลับไปหาวิวแม่น้ำและองค์พระใหญ่ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ จะได้เช็กอินเป็นผู้บุกเบิกแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพก่อนใคร!

Hawell's (ฮาเวลส์) แบรนด์ไอศกรีมสัญชาติไทยขวัญใจเด็กยุค 90s กลับมาเปิดอีกครั้ง มาพร้อมรสชาติของความหวานเย็นแสนอร่อยที่คิดถึง แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาในลิสต์เมนูคือรายการอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งคาว-หวานอย่างครบครัน โดยการกลับมาคราวนี้ทางร้านได้เปิดเป็นสแตนด์อะโลนสาขาแรกที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ตัวร้านออกแบบตกแต่งด้วยโทนสีขาวตัดกับสีแดง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฮาเวลส์ ส่วนภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวางและปลอดโปร่งด้วยกระจกบานใหญ่รอบด้าน สามารถนั่งเอนจอยกับไอศกรีมและเมนูโปรดได้ตลอดวัน อย่าพลาด โคนดิปคาราเมล ไอศกรีมรสนมเข้มข้นเคลือบด้วยความหวานของคาราเมล ทวิสตี้คุกกี้โอริโอ้ ไอศกรีมเนื้อเนียนปั่นรวมกับโอริโอ้ ให้รสหวานมันกำลังดี ทวิสตี้เจลลีสตาร์ ไอศกรีมนมรสเข้มข้น ท็อปด้วยเจลลีหลากสีสันให้เคี้ยวกรึบ ดีไลต์ช็อกโกแลตโค๊ตติง ไอศกรีมแก้วใหญ่ราดซอสช็อกโกแลตมาให้แบบไม่หวง กินคู่วิปครีมและเชอร์รีที่ท็อปมาอร่อยลงตัว มิลค์เชคสตรอว์เบอร์รี ไอศกรีมปั่นรวมกับผลไม้ ให้รสหวานกำลังดีมีรสเปรี้ยวจากสตรอว์เบอร์รีแซมมาเล็กน้อย หรือใครที่ต้องการกินมื้อหนักแนะนำเป็น ข้าวซอยไก่ น้ำแกงรสเข้มข้น หอมกลิ่นกะทิอบอวลในปาก กินคู่น่องไก่ เส้นสปาเก็ตตี และบะหมี่กรอบให้เคี้ยวเพลินๆ สปาเก็ตตีไวต์ซอส รสชาติกลมกล่อม หอมชีสทุกคำที่รับประทาน สปาเก็ตตีซอสแดง เส้นเหนียวนุ่มคลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศ ได้รสเปรี้ยวหวาน อร่อย เบรกรสชาติด้วยเครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวานอย่าง มะม่วงโซดา และ บ๊วยโซดา ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีทีเดียว

ปักหมุดร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ทรอปิคอลโฮมมี่แสนน่ารักน้องใหม่ ย่านชิดลม Dolcetto Italian Cafe Bangkok อีกหนึ่งผลงานของเชฟ Alessandro Frau เชฟชาวอิตาเลียนผู้รังสรรค์อาหารให้กับร้าน Acqua Restaurant Bangkok and Phuket ที่การันตีความอร่อยทั้งเรื่องรสชาติและการคัดเลือกวัตถุดิบว่าไม่เป็นสองรองใครแน่นอน ตัวร้านมาพร้อมกับความสดใสมีชีวิตชีวาจากผลเลมอนที่ใช้ประดับตกแต่งอยู่ทั่วร้าน เสริมความความอบอุ่นเป็นกันเองด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเบจ โดยสามารถเลือกนั่งชิลได้ทั้งโซนอินดอร์ห้องแอร์เย็นฉ่ำและโซนเอาต์ดอร์ใต้ร่มไม้บรรยากาศร่มรื่น เริ่มกันที่  White Pizza (280.-) พิซซ่าแป้งฟูเหนียวนุ่ม เสิร์ฟมาแบบเครื่องแน่นๆ ทั้งชีสและไส้กรอกอิตาลี รสชาติครีมมี่กินได้เพลินๆ Sandwich Ciabatta (250.-) แซนด์วิชชิ้นโตจากขนมปังเชียบัตต้าสัมผัสกรอบนอก ภายในนุ่มเหนียวหนึบ สอดไส้ผักกริลล์ มะเขือเทศอบแห้งและชีสสคามอร์ซา ในส่วนของเบเกอรี่แนะนำ Maritozzo with Cream (120.-) ขนมขึ้นชื่อของชาวอิตาลีเนื้อขนมปังนุ่มฟูสอดไส้ครีมสดรสพิสตาชิโอ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยถั่วพิสตาชิโอบดด้านบนให้เคี้ยวเพลินๆ จับคู่กับ Dirty Hazelnut (150.-) ความเข้มข้นของเอสเปรสโซช็อตผสานมากับไซรัปเฮเซลนัตสุดหอมหวน เพิ่มความละมุนด้วยนมสดเย็น ดื่มง่ายอร่อยลงตัว

เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกว่า ‘คุณโอ๊ต’ และ ‘คุณโอ๊ตซึ’ แห่ง Drop by Dough อินเรื่องโดนัทมากๆ ล่าสุดเปิดตัว Donut Disturb ร้านโดนัทบอมโบโลนี (Bomboloni) ในโครงการ GUMP’s Ari ซึ่งทั้ง 2 คนนิยามว่าเป็นเหมือนน้องสาวของ Drop By Dough ที่เต็มไปด้วยความสนุก สดใส และเข้าถึงง่าย ไอเดียการตกแต่งร้านมาจาก Bauhaus ที่เบอร์ลิน ซึ่งเราจะเห็นผ่านเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งคู่เลือกมาใช้ แต่เพิ่มความสนุกด้วยสีสดใสอย่างสีคอรัล ฟ้า เขียว ไปด้วยกันได้ดีกับลักษณะเด่นของโดนัทบอมโบโลนี แป้งฟูนุ่มคลุกน้ำตาล ไส้เบาและละมุนจากวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี อาทิ Hokkaido Milk, Thai Milk Tea , Hojicha, Lemon Cream ฯลฯ ให้กินเพลินๆ ได้หลายชิ้น นอกจากโดนัทบอมโบโลนี ที่ร้านยังมาพร้อมคู่หูดูโออย่าง Slushy เครื่องดื่มเกล็ดหิมะที่ได้เครื่องทำมาจากอิตาลี แต่ละแก้วเนื้อเนียนละเอียดเกือบเทียบเท่าซอฟต์เสิร์ฟ เลือกได้ทั้ง Vanilla Milk, ชานม, Lemonade และแตงโม รวมถึงมีกาแฟไว้จับคู่กับโดนัทอีกด้วย ในอนาคต คุณโอ๊ตและคุณโอ๊ตซึบอกว่าอยากเห็น Donut Disturb ไปปักหมุดอีกหลายแห่ง คนรักโดนัทโปรดติดตามให้ดี

ให้ทุกวันเป็นวันอาทิตย์ที่ Always Sunday Cafeteria คาเฟ่เปิดใหม่ย่านอารีย์ของ เชฟเอก เชฟโอนเนอร์ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกามาก่อน เมนูของที่ร้านเป็นเมนูโฮมคุ้กทั้งเวสเทิร์นและเอเชีย กินแล้วอิ่มท้องอิ่มใจ ส่วนช่วงค่ำจะเพิ่มสีสันด้วยไวน์และเมนูที่จับคู่กันได้ดี เพราะเคยทำงานเกี่ยวกับดนตรีก่อนไปเรียนเชฟอย่างจริงจัง การตกแต่งร้านจึงสะท้อนถึงตัวตนของเชฟด้วยบรรยากาศผ่อนคลายคลอด้วยเสียงเพลง รวมถึงมีมุมแผ่นเสียงหายากให้นักสะสมเลือกซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย เรียกน้ำย่อยด้วย Shrimp Scampi with Toast กุ้งผัดซอสไวน์ขาว หอมกลิ่นเนย เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้ง French Onion Soup ซุปหัวหอมอุ่นๆ เบสจากน้ำสต๊อกเนื้อ เสิร์ฟขนมปังอบชีสให้ดิปได้ หรือจะเริ่มต้นวันด้วย Croque Monsieur แซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสจากขนมปังซาวร์โดว์อบใหม่ทุกเช้าก็เพิ่มพลังได้เป็นอย่างดี ส่วนจานหลัก มีทั้ง Slow Cooker Beef Stew served on Mashed Potato สตูแก้มวัวตุ๋นในน้ำสต๊อกเนื้อนาน 4 ชั่วโมงจนนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียนนุ่ม Linguini with Spicy Chiangmai Sausage จานนี้เราชอบมาก พาสตาเส้นลิงกวีนีผัดกับไส้อั่วหนักเครื่องสมุนไพรจากร้านป้าต้อย (ซึ่งเป็นคุณป้าของเชฟเอง) ส่งตรงจากเชียงใหม่ จานนี้รสจัดแบบไทย ใส่พริกคั่ว มะแขว่น กินแล้วเจริญอาหารเป็นพิเศษ และพลาดไม่ได้กับ Duck Confit with Mashed Potato เป็ดกงฟีเสิร์ฟพร้อมมันบดและซอสเรดไวน์บลูเบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวานที่บาลานซ์รสหนักและเค็มเล็กๆ ของเป็ดได้ดี