Oqposite โอเอซิสแห่งย่านนางเลิ้งที่เมื่อเดินเข้ามาท้องของเราจะถูกเติมเต็มจนไม่เหลือที่ว่างอีกต่อไป เพราะด้านในเต็มไปด้วยอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มชวนลิ้มลองอยู่มากมาย รวมทั้งใครที่ต้องการหามุมผ่อนคลายหลบความวุ่นวายภายนอก  โอเอซิสที่ร่มรื่นและตกแต่งชวนนั่งแห่งนี้คือคำตอบ             เริ่มต้นที่เค้กชิ้นพิเศษหากินยาก Calamel Pudding เค้กอินทผลัมราดคาราเมลเข้มข้น กลิ่นอินทผลัมอ่อนๆ ผสมกลิ่นคาราเมลหอมหวานชวนให้เคลิบเคลิ้มทีเดียว           Dragon Sweet เครื่องดื่มสีแดงอมชมพูได้ความซ่าจากโซดาและสีสวยๆ จากผลแก้วมังกร ส่วนความหวานมาจากลิ้นจี่ผสมรสเปรี้ยวของเสาวรส กลายเป็นเครื่องดื่มรสหวานอมเปรี้ยวกำลังดี และเมนูใหม่มาแรง Quesadilla อาหารเม็กซิกัน กินตอนร้อนๆ จะอร่อยที่สุดเพราะแป้งจะหอมกรุ่น ด้านนอกกรอบซ่อนไส้แน่นๆ ไว้ด้านใน กินกับพริกจาลาปิโนดองเค็มและซัลซามะเขือเทศรสเผ็ดเปรี้ยว      

ร้านเบเกอรี่ขนาดกะทัดรัดที่อบอวลด้วยบรรยากาศความอบอุ่นและเบเกอรีอร่อยๆ ในแบบฉบับโฮมเมดที่เชฟเอ๋ยเจ้าของร้านลงมือทำเองทุกขั้นตอน กระทั่งออกมาเป็นขนมหน้าตาน่ารักน่ากินหลายเมนู ใครนึกสนุกอยากครีเอทขนมและคุ้กกี้หน้าตาสวยๆ ด้วยตัวเองเอาไว้อวดคนรู้ใจบ้าง ทางร้านก็มีเปิดสอนลองกริ๊งกร๊างสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยจ้า         มาถึงร้านแล้วอยากให้เริ่มต้นที่เมนูเรียกรอยยิ้ม Rose Garden Cupcake คัพเค้กเนื้อช็อกโกแลตเข้มข้นด้านบนตกแต่งเป็นสวนสวยไซส์มินิหลากหลายรูปแบบ ประดับหัวใจและดวงดาวฟรุ้งฟริ้งชวนกิน     ละมุนกันต่อกับ White Chocolate & Rose Frosting หอมหวานด้วยมวลดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มประดับอยู่บนเค้กเนื้อนุ่มแต่งแต้มด้วยไวท์ช็อกโกแลตเพิ่มความหวานชื่น ไม่ลืมประดับดวงดาราล้อมหัวใจสีชมพู     จากนั้นเติมเต็มความรักและความอบอุ่นกับขนมชิ้นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อคุณแม่และคุณลูกโดยเฉพาะกับเมนู Mommy’s Toast โทสต์แผ่นบางอบร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมกระตุ้นความหิว ปาดหน้าด้วยครีมสีฟ้าลายดอกมะลิ กินคู่แยมผลไม้ นูเทลล่า หรือเนยถั่ว ทั้งอร่อยและดีต่อใจ!    

เราอาจต้องใช้เวลาครุ่นคิดถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยค “สิ่งเล็กๆ สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเราได้” ของคุณจิ๊บ-สิตานัน วุตติเวช เจ้าของคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่หลายคนหลงใหลในรสชาติของขนมอบและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกิมมิกน่ารักเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ แต่ทันทีที่เราเข้ามาในร้านคำตอบทั้งหมดก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า     สิ่งเล็กน้อยรอบตัวไม่ว่าจะเป็นของใช้จิปาถะในบ้าน ต้นไม้ใบหญ้า เสียงนกกระจิบบนหลังคา หรือแม้แต่แมวข้างบ้านที่แวะมาเที่ยวเล่นอย่างเป็นมิตร สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ทำให้เราเอิบอิ่มหัวใจได้อย่างไม่รู้ตัว     และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของ Spoonful Zakka Café ได้อย่างชัดเจน หลังจากหยุดพักไป 2 ปี การกลับมาครั้งนี้ต้องเรียกว่าสร้างสีสันและความคึกคักให้กับสาวกคนรักขนมอบให้ตบเท้าเข้าคิวรอ         โดยเฉพาะเป้าหมายแสนอร่อยที่หลายคนตั้งตารออย่างสโคนเพราะหากินที่ไหนก็ไม่เหมือน ทางร้านอบใหม่ทุกวัน รสชาติพอดี เนื้อไม่ร่วน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ มีให้เลือก 4 รสชาติ ได้แก่ Plain, Matcha, Earl Grey, Caramel Chocchips เสิร์ฟพร้อมแยมและครีมสดรสต่างๆ     นอกจากนี้ยังมีเค้กและคุ้กกี้สไตล์โฮมเมดที่คุณจิ๊บทำเองจึงเน้นคุณภาพและรสชาติควบคู่กัน ในแต่ละวันจึงทำได้จำนวนไม่มาก อีกทั้งยังหมุนเวียนเมนูเพื่อให้เกิดความหลากหลาย ถ้าไม่อยากพลาดความอร่อยแนะนำให้โทรมาสอบถามและสั่งจองล่วงหน้า ส่วนเมนูหลักอย่างสโคนมีให้ฟินทุกวันแต่บางวันไม่ทันบ่ายก็ขายหมดแล้ว และไม่เพียงขนมแสนอร่อยเพราะเครื่องดื่มชาและกาแฟของร้านก็หอมกรุ่นชวนจิบไม่ต่างกัน       ระหว่างช่วงเวลาอันแสนสุขหากอยากลุกยืดแข้งยืดขาหรือพักสายตาด้วยการเดินเล่นรอบร้านก็ผ่อนคลายไม่น้อย ตัวร้านรีโนเวทจากบ้านหลังเก่าอายุราว 40 ปีแวดล้อมด้วยต้นไม้ทำให้ร่มรื่นเย็นสบายแตกต่างจากภายนอก หรือจะเปลี่ยนอารมณ์ขึ้นไปชมงานศิลปะบริเวณ Zakka Gallery บนชั้น 2 พร้อมเลือกช็อปสินค้าน่ารักๆ แนว zakka ก็ทำได้อย่างเพลิดเพลิน       นอกจาก Café และ Zakka Gallery ยังมีส่วนของ Annex พื้นที่ Free Space สำหรับจัดอีเวนต์หรือเวิร์กช็อปที่เหมาะกับหลากหลายกิจกรรมอีกด้วย   ปล่อยเวลาภายนอกให้หมุนไป แต่ถ้าอยากพักใจมานั่งชิลตรงนี้ก็ดีนะ!

Pressed Café แหล่งรวมตัวของคนที่หลงใหลในกลิ่นและรสชาติของกาแฟพันธุ์ดีที่เดินทางมาจากแหล่งปลูกคุณภาพจากทั่วโลก หลายคนมาครั้งแรกแล้วติดใจกลายเป็นลูกขาค้าประจำแถมยึดทำเลดีหน้า Coffee Bar ที่ออกแบบเปิดโล่งเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งชมทุกขั้นตอนการชงกาแฟได้อย่างใกล้ชิด แล้วมิตรภาพดีๆ ของคนรักในสิ่งเดียวกันก็ได้เริ่มต้นและงอกงามจากตรงจุดนี้       แนะนำเมนูห้ามพลาด Aero Press กาแฟแรงดันสูงเมนูสุดครีเอตสกัดด้วยเมล็ดซิงเกิลออริจินได้รสชาติที่หนักแน่น ถูกใจคอกาแฟสายเข้ม     ต่อด้วย Camouflage เมนูสำหรับคนรักพี่เสียดายน้อง ใจหนึ่งก็อยากสั่งชาเขียว แต่ช็อกโกแลตก็โดนใจเหลือเกิน ลังเลแบบนี้ทางร้านเลยจัดให้แบบทูอินวัน ด้วยสัดส่วนที่ลงตัวช่วยส่งให้เครื่องดื่มแก้วนี้หอมหวานได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว     สำหรับวันอากาศดีต้องสั่งแก้วนี้มาโดน Summer Garden ไซรัปดอกเอลเดอร์ผสมโซดาให้ความสดชื่น ด้านบนท็อปด้วยเลมอนและดอกแพนซี่ สมชื่อซัมเมอร์การ์เด้น!  

นอกจากบ้านของเราก็เห็นจะมีพื้นที่ตรงนี้ที่อยากพักร่างล้าๆ จากการทำงานมาทั้งวัน ตัวร้านไม่ใหญ่มากแต่ตกแต่งน่ารักและจัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวชวนนั่ง โดยเฉพาะโซฟาตัวยาวที่ราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาล ใครไปใครมาก็พร้อมหย่อนกายลงตรงนี้ก่อนเดินหน้าสั่งขนมและเครื่องดื่มที่มีให้เลือกเยอะมาก     แก้วแรกอยากชวนไปดื่มด่ำกับความหอมละมุนของกาแฟร้อนผสมนม Hot Latte เมนูเรียบง่ายที่ครองใจคนรักกาแฟมาอย่างเหนียวแน่นและยาวนาน ไม่จำเป็นต้องจับคู่กับเมนูอะไรแค่มีหนังสือสักเล่มมาอ่านเล่นพลางๆ ก็เอิบอิ่มหัวใจแล้ว     แต่ถ้ามาร้อนๆ แล้วอยากเติมความชุ่มฉ่ำสั่ง Iced Matcha Latte ชาเขียวเข้มข้นเจือรสขมนิดๆ ติดปลายลิ้น ผสานความหอมมันของนมสดได้อย่างลงตัว เป็นวิธีดับร้อนที่ได้ผลเร็วเกินคาดแถมอร่อยมากอีกด้วย     หรือจะลองสั่งเป็น Iced Chocolate ช็อกโกแลตเย็น รสหวานน้อยแต่เข้มข้นสุดขั้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดับร้อนที่ขายดีไม่น้อยหน้ากัน     ปิดท้ายด้วย Croissant นวดอบสดใหม่ทุกวัน เวลากัดจะสัมผัสถึงเนื้อนุ่มๆ หอมกลิ่นเนยขึ้นจมูก จะกินที่ร้านหรือซื้อกลับบ้านก็ยังคงความนุ่มนวลและมีกลิ่นหอมชวนกินเหมือนกัน ส่วนใครปลื้มเค้กมาที่นี่ไม่ผิดหวังเพราะมีให้เลือกเยอะมาก ขายดีจนอบไม่ทันเลยล่ะ  

ตื่นเต้นนิดๆ กับเกร็ดความรู้ที่ได้จากชื่อร้านฮาเตียน (Ha Tien Café) ที่เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าเดิมทีบริเวณริมน้ำใกล้วัดโพธิ์แห่งนี้เป็นย่านที่คนเวียดนามจากเมือง Ha Tien เข้ามาอยู่อาศัยจึงเรียกบริเวณนี้ว่าฮาเตียน และเพี้ยนเป็นท่าเตียนที่เราคุ้นหูกันในที่สุด ที่มาของชื่อร้านว่าเก๋แล้วบรรยากาศในร้านยังน่าสนใจด้วยการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างไทย จีน และชิโนโปรตุกีส ใครชอบแชะแชร์ล่ะก็ร้านนี้เหมาะเลย         ท่ามกลางเมนูหลากหลายให้เลือกดื่ม ที่โดดเด่นโดนใจอันดับต้นๆ เรายกให้ลาเต้กุหลาบ กาแฟลาเต้รสนุ่มละมุนลิ้นมาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบ ยิ่งดื่มยิ่งชื่นใจ     ต่อด้วย อเมริกาโนยูซุ รสขมของกาแฟอเมริกาโนกับรสหวานอมเปรี้ยวของส้มยูซุเข้ากันได้อย่างลงตัว จัดเป็นเมนูที่ปลุกความสดชื่นคืนความสดใสให้กับร่างกายได้ดีทีเดียว     ส่วนคนไม่ดื่มกาแฟอย่าเพิ่งน้อยใจ สั่งยูซุสแปลช แก้วนี้มาจิบก็ได้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเช่นเดียวกัน     นอกจากเครื่องดื่มเย็นฉ่ำทางร้านยังมีเค้กรสชาติดีหมุนเวียนมาให้ลูกค้าได้กินแบบไม่ซ้ำ แต่ที่กุมหัวใจสายหวานอย่างเราไว้อยู่หมัดต้องยกให้ เค้กมะตูม เนื้อเค้กนุ่มนวลรสหวานหอม มีเทกเจอร์หนึบๆ หวานๆ ของเนื้อมะตูมที่ซุกซ่อนอยู่ด้านในให้เราเคี้ยวเล่นเต็มๆ คำอีกด้วย     ถัดจากเค้กมะตูมเราอยากให้ลองเค้กแมกคาเดเมีย เนื้อแน่นหวานหอม ทอปด้วยแมกคาเดเมียแบบเต็มเม็ด ราดทับด้วยคาราเมลให้เคี้ยวหนึบๆ มันๆ อร่อยจนต้องซื้อกลับบ้าน!  

ถูกใจสายชิลกับคาเฟ่สุดคูลย่านพระราม 3 แห่งนี้เพราะไม่เพียงชูจุดขายอย่างขนมและเครื่องดื่มโฮมเมดไว้ให้เอ็นจอยอิทติ้งกันจุใจแล้ว ยังตกแต่งร้านให้ชวนนั่งได้นานๆ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ ภาพประดับผนังหรือแจกันดอกไม้บนโต๊ะที่มองแล้วเพลินตาเพลินใจ เป็นใครก็เผลอนั่งนานแบบไม่รู้ตัว นอกจากขนมและเครื่องดื่มใครชอบไอศกรีมถือว่ามาถูกทางเพราะมีให้เลือกมากกว่า 10 รสชาติทีเดียว           เริ่มที่เมนูสุดคลาสสิก Affogato ไอศกรีมขนมผิงราดด้วยช็อตกาแฟเอสเปรสโซกินคู่คาราเมลเย็นหนืดๆ เยิ้มๆ สูตรเฉพาะของร้านที่ช่วยให้สดชื่นได้ทั้งวัน       ส่วนใครกำลังมองหาเค้กอร่อยๆ สักชิ้นแต่มีข้อแม้ว่าต้องหวานน้อยเท่านั้น ขอแนะนำเค้กดาร์คช็อกโกแลต เนื้อเค้กสีเข้มเคี้ยวเต็มปากเต็มคำทำจากดาร์คช็อก 100% รับรองหวานน้อยแต่เข้มข้นสะใจสายดาร์คแน่นอน       ต่อด้วย Ice Cream & Waffle วัฟเฟิลอบเสิร์ฟร้อนๆ ผิวด้านนอกกรอบส่วนด้านในนุ่ม หนึบ เพิ่มความอร่อยแบบดับเบิ้ลด้วยผลไม้สดรสเปรี้ยวอมหวานอย่างสตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รี่ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสวิสกี้โฮมเมดและวิปครีมฟูๆ ใครอยากเปลี่ยนรสชาติไอศกรีมก็เลือกได้ตามใจชอบ  

14 มีนาคมของทุกปีชาวญี่ปุ่นจะเตรียมขนมไว้มอบให้คนรักเพื่อตอบแทนความรักและของขวัญที่คนรักได้มอบให้ในวันวาเลนไทน์ แต่ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 14 ก็มอบความรักได้ตลอดเวลาที่ Whiteday Patisserie ภายในร้านอบอวลไปด้วยความหอมหวานละมุนละไมทั้งจากขนมหวานหน้าตาเก๋ไก๋ชวนกินและบรรยากาศแห่งความรักที่ปกคลุมไปทั้งร้าน ไม่เพียงจากคู่รักแต่รวมถึงมิตรภาพที่หอมหวานอื่นๆ ด้วย         เมนูสุดฮอตที่มาสยบทุกความหวานบนโลกใบนี้ Strawberry Dome โดมช็อกโกแลตที่ซุกซ่อนความลับเอาไว้ด้านใน ใครอยากเซอร์ไพรส์คนรักต้องจัดเลย       Fujisan น้ำแข็งไสสไลด์ที่เหมือนยกภูเขาไฟฟูจิมาทั้งลูก เพียงแต่เปลี่ยนจากหิมะสีขาวเป็นสีฟ้าสดใส ได้รสหวานอมเปรี้ยวจากน้ำเชื่อมรสฮันนี่เลมอน       ปิดท้ายด้วย Fruit Puff Parfait แป้งพัฟสูตรใหม่อบแล้วเนื้อสัมผัสคล้ายแป้งครัวซองต์ที่มาพร้อมความหอมกรอบชวนกิน ด้านในเนืองแน่นด้วยขุมทรัพย์อันประกอบด้วย ไอศกรีม ผลไม้รสเปรี้ยว ราดซอสเบอร์รีเข้มข้นและอัลมอนด์กรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมวิปครีม 3 ลูกใหญ่  

Bluerista Thai Café คาเฟ่ไทยโมเดิร์นขนาดกะทัดรัดในบรรยากาศของเรือนไม้กรุกระจกโปร่งโล่งชวนผ่อนคลายที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ชื่นชอบขนมไทยโบราณและอยากมีพื้นที่ให้กับคนที่ชอบเหมือนกันได้มานั่งพักผ่อนพร้อมกับกินขนมโฮมเมดแสนอร่อยที่นำมาจับเข้าคู่กับเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างลงตัว         เริ่มที่เมนูขายดีขนมเปียกปูนสไตล์โบราณ ทางร้านพิถีพิถันกับการกวนแป้งอย่างใจเย็นเพื่อให้เนื้อขนมเหนียวข้นไม่จับตัวเป็นก้อน เวลาเคี้ยวจะหนึบหนับนิดๆ แทรกด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบเตยทุกครั้งที่ตักเข้าปาก ส่วนรสชาติหวานกลมกล่อมตัดความเค็มของมะพร้าวขูดที่โรยมาด้านบนได้อย่างลงตัว     ต่อด้วยอัญชันไข่แมงดา เสิร์ฟในถ้วยใบน้อย ตัวแป้งนุ่มนิ่มแต่งหน้าด้วยทองหยอดเม็ดเล็กทำจากไข่เป็ด โรยมะพร้าวทึนทึกเค็มๆ มันๆ     สำหรับเครื่องดื่มรสละมุนแนะนำกาแฟที่ผสมความเป็นไทย ไพลินลาเต้ เลือกใช้เมล็ดกาแฟเบลนด์นอกนำเข้าจากบราซิลและเอธิโอเปีย จิบทีละน้อยสลับกับส่งขนมหวานเข้าปาก เป็นช่วงเวลาที่เพลิดเพลินเจริญใจจริงๆ ทางร้านยังมีของคาวตำรับบ้านเน้นรสชาติเข้มข้นถึงเครื่องสำหรับคนที่ต้องการหนักท้องสักหน่อยก็มีให้เลือกหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน อาทิ ขนมจีนน้ำยาปู หรือผัดพริกเหลืองปู เน้นเนื้อปูก้อนโตๆ ทั้งสดทั้งหวานใส่มาให้กินเต็มปากเต็มคำ      

ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะวุ่นวายอย่างย่านเยาวราช ใครจะคิดว่ามีร้านเล็กๆ บรรยากาศน่าไปเช็คอินซ่อนตัวอยู่ Ba Hao Tian Mi คาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นที่มีมุมเกร๋ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอย่างจุใจ ภายในร้านตกแต่งให้อารมณ์เหมือนหลุดเข้าสู่ยุคจีนสมัยโบราณ ด้วยการออกแบบทางเข้าเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ เรียกได้ว่ามองจากอีกฝั่งของถนนก็ยังสะดุดตา     เมื่อก้าวเข้ามาด้านใน กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีความเป็นกันเอง ถึงแม้ร้านจะเล็กไปบ้างแต่กลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดอย่างที่คิดไว้ ตรงกันข้ามทางร้านมีการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว เหมาะสำหรับหลบไอร้อนจากแสงแดดเข้ามากินขนมและน้ำให้ชื่นใจ ก่อนจะไปช้อปปิ้งกันต่อในเยาวราช       เริ่มต้นกันด้วยเมนูที่เป็นซิกเนอเจอร์ของทางร้าน Goji Berry Pudding พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่มเพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมจากโกจิเบอร์รี่ แถมยังได้ความหอมจากเก๋ากี้มาเป็นตัวช่วยทำให้พุดดิ้งถ้วยนี้มีรสชาติที่ลงตัวยิ่งขึ้น ถัดมาเป็น Bubble Tea Pudding เอาใจคนรักไข่มุกด้วยพุดดิ้งชานมไข่มุกที่มีรสชาติของชานมชัดเจน แถมตัวไข่มุกก็ไม่แข็งจนเกินไป เคี้ยวได้อย่างเพลินๆ ถือเป็นอีกเมนูที่คนรักชานมไข่มุกไม่ควรพลาด   Goji Berry Pudding   Bubble Tea Pudding   นอกจากนี้ยังมี น้ำเต้าหู้งาดำ นมถั่วเหลืองหอมๆ ผสมกับซอสงาดำสุดเฉพาะจากทางร้าน ใครที่ชื่นชอบความหอมหวานจากงาดำ ไม่ควรพลาดกับเมนูนี้ ส่วนใครที่รู้สึกอยากลองอะไรใหม่ๆ ต้องจัดเลย ใบบัวบกลาเต้ เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าของน้ำใบบัวบกให้ดูน่ากินมากยิ่งขึ้น ด้วยส่วนผสมจากกาแฟลาเต้เพิ่มความหอมได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความหวานจากน้ำเชื่อมเก๋ากี้มาช่วยให้แก้วนี้มีความลงตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย   น้ำเต้าหู้งาดำ   ใบบัวบกลาเต้   ปิดท้ายกันด้วยเมนูหนักท้องเอาใจคนที่ชื่นชอบขนมปังอย่าง ขนมปังหมูหย็องไข่เค็ม หอมมันเค็มด้วยส่วนผสมหลักจากไข่เค็ม แถมด้วยความกรอบนอกนุ่มในจากตัวแป้ง ทำให้เมนูนี้เป็นขวัญใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว   ขนมปังหมูหยองไข่เค็ม

ช่วงนี้สวีตเลิฟเวอร์คงได้คึกคักกันเป็นพิเศษ เพราะมีขนมหวานหลายร้านที่พาเหรดกันมาให้เลือกชิม เช่นเดียวกับ Chez Shibata 365 สาขาล่าสุดของร้านดัง Chez Shibata จากเมืองทาจิมะที่ขยายสาขาความอร่อยทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง จนมาถึงบ้านเราก็ที่ประจำการเป็นโรงแรมน้องใหม่อย่าง Hotel Nikko Bangkok     สำหรับสาขาแรกที่กรุงเทพฯ แน่นอนว่ายังคงความอร่อยตามต้นตำรับ เชฟทาเคชิ ชิบาตะ ที่ต้องการนำเสนอขนมหวานซึ่งสวยงามตามตำรับฝรั่งเศส แต่ได้เพิ่มความประณีตและเสน่ห์ของรสชาติตามแบบฉบับญี่ปุ่นลงไป และถ้าสังเกตให้ดีสาขานี้เราจะเจอกับเลข 365 เพื่อเป็นการสื่อว่าทุกคนจะได้สัมผัสกับความอร่อยในทุกๆ วัน อันเกิดจากการพัฒนาสูตรให้ถูกปากคนไทย ร่วมด้วยบรรยากาศที่ทำให้เราตกหลุมรัก       เริ่มด้วย Chocolate Signature (265 บาท) เค้กช็อกโกแลตสูตรซิกเนเจอร์เนื้อแวววับที่แฝงนุ่มหนึบหอมหวานแถมยังซ่อนเปรี้ยวจากการซุกซ่อนรายละเอียดส่วนผสมไว้ข้างในกว่า 10 อย่าง อาทิ ช็อกโกแลตมูส เค้กวานิลลา พิสตาชิโอครีม แยมราสป์เบอร์รี พราลีนเฮเซลนัต และครัมเบิลกรุบกรอบ     ต่อด้วย Caramel High (135 บาท) เอแคลร์คาราเมลสูตรเด็ดซึ่งเหมือนที่ญี่ปุ่นเป๊ะๆ ชูโรงด้วยความอร่อยของแป้งบางๆ สอดไส้คาราเมลคัสตาร์ดครีมนุ่มๆ บนหน้ามีเนยฝรั่งเศสที่เติมรสชาติความหอมมัน ก่อนตัดรสด้วยเกลือหิมาลายัน     สำหรับคนรักชาเขียวก็ต้อง Matcha Opera (245 บาท) ซึ่งดัดแปลงโอเปราเค้กที่คุ้นเคยกันให้เต็มปากเต็มคำด้วยรสชาติของมัตฉะ โดยมีเจลลีส้มและดาร์กช็อกโกแลตกานาจมาตัดรส หรือจะลอง Mont Blanc (240 บาท) เค้กภูเขาเกาลัดสุดโด่งดังที่หวานละมุนด้วยครีมเกาลัดเนื้อเนียนผสมกับวิปครีมช็อกโกแลตขาวที่อยู่ข้างใน ส่วนฐานด้านล่างยังมีมูสและเค้กช็อกโกแลตร่วมด้วยอัลมอนด์ครีมมาเติมความหอมอีกด้วย       แต่ถ้าชอบรสชาติสดชื่นต้องห้ามพลาด Yuzu Tart (190 บาท) เมนูใหม่ขวัญใจคนไทยที่จัดเต็มความเปรี้ยวหอมของส้มยูซุเน้นๆ ทั้งในรูปแบบเจลลี ครีม และเนื้อส้มที่เข้าคู่กับเปลือกทาร์ตกรอบๆ ได้ลงตัวอย่างที่สุด  

ใครกำลังเหนื่อยหน่ายกับการงานอันเคร่งเครียดอยู่ล่ะก็ ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาชาร์จพลังสักนิดที่ Gloria Jean’s Coffees สาขาสาทร-นราธิวาส ร้านกาแฟสัญชาติออสเตรเลียที่ไม่ได้เป็นแค่ร้านกาแฟเท่านั้น แต่ยังเป็นโชว์รูมขนาดย่อมที่รวบรวมเมล็ดกาแฟจากหลายประเทศทั่วโลกเอาไว้ รวมถึงมีเครื่องชงกาแฟหลายแบบ ตั้งแต่เฟรนช์เพรสไปจนถึงไซฟอนเลยทีเดียว         แม้ Gloria Jean’s Coffees จะมีให้เราได้เช็คอินหลายสาขา แต่สิ่งที่ทำให้สาขานี้แตกต่างออกไปคือความโปร่งโล่ง นั่งสบาย และเป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับการหอบหิ้วโน้ตบุ้กมานั่งทำงาน (โซฟานุ่มเหลือเกิน) รวมถึงทีมบาริสต้าที่มีความรู้เรื่องกาแฟอย่างครอบคลุม       มาถึงแล้วลองเทสต์กลิ่นของเมล็ดกาแฟที่หน้าเคาน์เตอร์สักหน่อย วันนี้เราได้ลอง French Breakfast Blend, French Vanilla ,Papua New Guinea Organic และ Chocolate Macadamia และตกลงปลงใจเลือก Chocolate Macadamia มาชงแบบไซฟอน กลิ่นหอมหวาน ดื่มง่าย รสชาติสมดุล และมีรสขมปลาย เหมาะกับคนที่อยากจิบกาแฟดำที่ไม่หนักจนเกินไปนัก แล้วสั่ง GJC’s Signature Cheesecake ชีสเค้กเนื้อแน่น รสละมุนมากินคู่กัน เก๋ตรงที่เบิร์นน้ำตาลที่โรยด้านบนให้เป็นสีน้ำตาลสวยก่อนเสิร์ฟ ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและความกรุบกรอบเบาๆ       ส่วนใครชอบกาแฟเย็น แนะนำ Iced Coffee Yuzu Soda แก้วนี้ช่วยเรียกความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพราะมีทั้งความขม รสเปรี้ยวซ่า และกลิ่นหอมๆ ของยูซุ และสำหรับสายหวาน ลองสั่ง Voltage เมนูซิกเนเจอร์ที่นำกลิ่นหอมละมุนของวานิลลา ความมันจากนมสด และรสขมเล็กๆ จาก Espresso Bean มาปั่นรวมกันจนเนื้อเนียน ก่อนกินเทเอสเพรซโซ่ช็อตลงไปด้านบนให้ไหลลงมาเหมือนลาวา หรือจะลอง Affogato ไอศกรีมวานิลลาหอมหวานตัดกับกาแฟเอสเพรสโซเข้มข้นก็ดีงาม         ชาว Coffee Lover อย่าพลาดเชียว

Cilic Tea ร้านชาชีสที่มีโลโก้น้องยีราฟสุดคิวต์เรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็น ภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายด้วยปูนเปลือยและกราฟิตี้ลายแก๊งค์จอมซนที่ยกพลกันมาดื่มชาเข้มข้นด้วยส่วนผสมของครีมชีสอร่อยฟินจนติดหนวดขาวไปตามๆ กัน ทางร้านยังไม่หยุดเอาใจสายชีสให้ได้กรี๊ดกันสุดเสียงจึงเลือกสรรครีมชีสสุดพรีเมียมนำเข้าจากออสเตรเลีย ทุกเมนูใส่ให้เต็มที่ไม่มีกั๊ก ถ้าร่างกายต้องการชีสมาร้านนี้ไม่ผิดหวัง         อย่ารอช้ามาเริ่มแก้วแรกกันเลย Golden Oolong Tea ชาอู่หลงทองมีความละมุนเข้ากับตัวชีสได้เป็นอย่างดี       หรือจะเป็นชาเขียว UjiMatcha Latte ชาดีจากเมืองอูจิมีรสฝาดนิดๆ เมื่อผสานเป็นหนึ่งเดียวกับชีสก็ได้รสชาติที่กลมกล่อมนุ่มลิ้นยิ่งขึ้น หรือใครอยากลองปลี่ยนรสชาติจากชีสเป็นไข่มุกน้ำตาลแดงก็อร่อยหนึบไปอีกแบบ     ส่วนสาวกโกโก้ต้องลอง rulee Cacao with Oreo เครมบูเลที่ได้ฟีลเหมือนครีมนุ่มๆ ในชูซ์ครีม เนื้อหวานมันมาพร้อมโกโก้ ดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้นท็อปด้วยโอริโอกรุบๆอร่อยหมดจนหยดสุดท้าย  

ที่นี่เป็นคาเฟ่เต็มตัวที่แรกของชาโฮะ (ChahoCafé) ร้านชาชื่อดังในห้างสรรพสินค้าที่ใครได้ยินก็ต้องร้องอ๋อ! เน้นดีไซน์สไตล์มินิมอลสบายตาด้วยกระจกใสบานใหญ่และไม้สีอ่อน นำเข้าวัตถุดิบพรีเมียมจาก Nakamura 1 ใน 3 ตระกูลกูรูแห่งชาที่เก่าแก่ที่สุดตระกูลหนึ่งของญี่ปุ่น จนได้ชื่อว่าเป็น Nakamura Chahoสำหรับเมนู Traditional ทางร้านได้ให้ Tea Master จากนากามูระมาเทรนด์อย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้รสชาติแบบต้นตำรับสาวกทั้งหลายไม่ต้องบินไกลไปถึงญี่ปุ่นก็ได้นั่งฟินจิบชาพรีเมียมได้เหมือนกัน           เริ่มต้นที่ Matcha Traditional พนักงานจะตีชาสดๆ เสิร์ฟตรงหน้าบาร์ เป็นเมนูที่มาพร้อมขนมไดฟุกุที่เราเลือกไส้ขนมเองได้ด้วย         Matcha Fondue ฟองดูชาเขียวอุ่นๆ รสนุ่มขมติดปลายลิ้นเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟพร้อมบราวนี่ และผลไม้สดอย่างสตรอว์เบอร์รี กีวี กล้วย และมาร์ชแมลโลว์ย่าง ถ้ากินฟองดูไม่หมดทางร้านจะนำไปทำเครื่องดื่มร้อนให้ฟรี รสชาติชวนให้นึกถึงไวต์ช็อกโกแลตหวานข้นจนหลายคนติดใจ นอกจากนี้ทางร้านยังมีเครื่องดื่มจากมัตฉะให้เลือกสั่งอีกหลายเมนู อาทิ Matcha lemon, Matcha yuzu และ Matcha rockดื่มคลายร้อน ช่วยให้อารมณ์ดีได้ทั้งวัน         ส่วนสาวกไดฟุกุจะซื้อติดมือกลับบ้านราคาก็ย่อมเยามาก ชิ้นละ 30 บาทเท่านั้นเอง  

เรียกว่าหัวกระไดไม่แห้งจริงๆ สำหรับแหล่งรวมความฮิป (แห่งใหม่) อย่างเจริญกรุง เพราะล่าสุด Sarnies” คาเฟ่สุดฮิปจากสิงคโปร์ที่หลายคนรอคอยก็ได้มาเปิดร้านแรกในไทยใจกลางซอยเจริญกรุง 44 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคอกาแฟ นักกิน หรือสายถ่ายรูปก็พลาดไม่ได้เป็นอันขาด ที่นี่มีครบทุกองค์ประกอบทั้งกาแฟเบลนด์รสเลิศ เมนูเด่นสไตล์ออสเตรเลียนบรันช์ และการตกแต่งร้านที่ผสานกลิ่นอายความโมเดิร์นไปพร้อมกับการอนุรักษ์อาคารเก่าอายุกว่าร้อยปีได้อย่างสวยงามและกลมกลืน           โดยเฉพาะเมนูอาหารที่ผ่านการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน ทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นและการพลิกแพลงรสชาติให้อร่อยถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Tom Yum Egg Benedict ที่เพิ่มรสชาติด้วยซอสต้มยำฮอลันเดซ สอดแทรกแซลมอนรมควันและเบบี้สปิแนช และ Bacon & Eggs ขนมปังเชียบัตตาหน้าเบคอนทอดกรอบและซอสมะเชือเทศสูตรพิเศษรสเผ็ดนิดๆ มาพร้อมไข่ดาวที่ทอดกรอบฟูแบบไทยๆ       ส่วนเมนูโทสต์ซิกเนเจอร์ที่เราอยากแนะนำให้ชิมสุดๆ คือ CB&J ขนมปังซาวร์โดทาเนยถั่วที่ทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ โรยหน้าด้วยองุ่นอบน้ำผึ้งและใบไทม์เพิ่มความหอม ที่ดัดแปลง PB&J ที่คุ้นเคยได้อย่างเก๋ไก๋และอร่อยลงตัว     แต่หากอยากละเลียดกาแฟยามบ่ายแบบเบาๆ เราแนะนำ Orange Mocha มอคคาเย็นผสมผสานซอสช็อกโกแลตและความเปรี้ยวของส้ม และ Iced Coconut Long Black กาแฟดำที่เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำมะพร้าวสด กินกับของหวานอย่าง A F**king Good Brownie บราวนีช็อกโกแลตเนื้อแน่นเข้มข้นแล้วจะเพลินจนไม่อยากกลับ      

หลังจากครองใจคนรักของหวานในโลกออนไลน์มานาน ตอนนี้ “Bite Me Softly” ได้ขยับขยายความอร่อยแบบออฟไลน์ในรูปแบบคาเฟ่เล็กๆ น่ารักน่านั่งในตรอกไก่แจ้ ด้วยความตั้งใจของคุณเช้า - ต่อจันทน์ แคทริน บุณยสิงห์ เจ้าของร้านที่อยากให้พื้นที่เล็กๆ บริเวณบ้านกลายเป็นสถานที่แบ่งปันเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดกลิ่นอายจีนเสฉวนที่ได้แรงบันดาลใจจากจานโปรดของครอบครัว         ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำทอดพริกน้ำมันงา กุ้งแม่น้ำตัวโตทอดกับกระเทียมและพริกน้ำมันงา (แนะนำให้โทรสั่งล่วงหน้า) ข้าวสตูว์เนื้อหมาล่า ที่นำหมาล่ามาผสมผสานความอร่อยกับสตูว์เนื้อแบบตะวันตก เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มชาซีอิ๊วและกระเทียมโทนดอง รวมทั้งเหลียงเฟิ่น เส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากแป้งถั่วเขียวคลุกเคล้าซอสเผ็ดสไตล์เสฉวน เพิ่มความอร่อยด้วยไก่ฉีกและวอลนัต เสิร์ฟแบบเย็นเหมาะกับช่วงอากาศร้อนสุดๆ         ส่วนสายหวานและแฟนประจำของ Bite Me Softly ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่นี่พร้อมเสิร์ฟเมนูเด็ดยอดนิยมอย่าง Sour Cherry Pie รสเปรี้ยวของซอสเชอร์รีตัดกับความหวานมันของอัลมอนด์ครีม กินคู่ไอศกรีมวานิลลายิ่งอร่อย Lemon Cheesecake ความอร่อยของครีมชีสแสนละมุนตัดกับรสเปรี้ยวของเลมอน และ Mocha Walnut Cake ที่ดัดแปลงเค้กโอเปราให้หนักแน่นเข้มข้นแบบอเมริกัน ไปจนถึงพาเฟ่ต์ชาเขียวเต้าหู้ เต้าหู้ทำเองเนื้อนุ่มเนียน มาพร้อมไอศกรีมชาเขียวและวิปครีม รวมทั้งเมนูของหวานอื่นๆ ที่จะหมุนเวียนมาให้ชิมกันทุกวัน             นอกจากอาหารและขนม ใครอยากคลายร้อนแบบเบาๆ ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มแสนสดชืน อาทิเมนูซิกเนเจอร์อย่างชาล้างปอด ชาร้อนจากจีนที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจีนหลากชนิด แต่ไม่ต้องกังวล เพราะดื่มง่ายลื่นคอสุดๆ หรือจะสั่งเก๋ากี้ดำ รสชาติคล้ายเฉาก๊วยมาดับร้อนก็ยิ่งหายร้อนแบบสุดฟิน    

ใครหลบร้อนไปเที่ยวทะเลแถวจังหวัดระยอง อย่าลืมหาโอกาสแวะไปเยือน “Luscious Garden Café” คาเฟ่และร้านอาหารในบ้านหลังใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้และสนามหญ้า ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านเพื่อนสุดเก๋ที่มีเมนูโฮมเมดทั้งไทยและตะวันตก รวมทั้งของหวานแสนอร่อยฝีมือคุณแม่เจ้าของร้านที่บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด         สำหรับคนรักเมนูเส้นต้องลอง สปาเกตตีซอสครีมไข่กุ้ง ทีเด็ดอยู่ที่การใช้คูลินารีครีมระดับคุณภาพและชีสพาร์เมซานหอมมัน และถ้าชอบอาหารทะเลด้วย สปาเกตตีซอสครีมซีฟู้ดที่มีทั้งกุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปลาชิ้นโต จานนี้ตอบโจทย์แน่นอน       ส่วนสาย(ของ)หวาน เราแนะนำ Hokkaido Cheesecake เมนูชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่น เนื้อแน่นกลมกล่อมหอมนม เพิ่มความหอมมันด้วยครีมชีสทำจากวิปปิงครีมคุณภาพดี และ Passionfruit Mousse Cheesecake ความอร่อย 5 ชั้น ของเค้กที่มีทั้งอัลมอนด์ครัมเบิล มูสเสาวรสหอมครีมชีส เนื้อเค้กช็อกโกแลต และเจลลีเสาวรสผสมน้ำผึ้งรสเปรี้ยวหวาน       สนับสนุนผลิตภัณฑ์โดย  

ถ้าถามว่าในช่วงครึ่งปีแรกร้านขนมร้านไหนที่มาแรงที่สุด คงต้องยกตำแหน่งให้กับ ICI (อ่านว่า อิซิ) อย่างไม่มีข้อแม้ เพราะถึงตอนนี้เราก็ยังขอแนะนำว่าให้ยกหูหรือส่งข้อความมาจองล่วงหน้ากันก่อน     ยิ่งพอได้รู้ว่า เชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิช เชฟขนมหวานคนเก่งแห่ง Issaya Siamese Club คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยเราก็หายสงสัย แต่ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าก็คือ อีกด้านหนึ่งของเชฟคนเก่งยังเป็นศิลปินที่ชื่นชอบความน่ารักของสีสันและลวดลาย ซึ่งสิ่งเหล่านั้นได้สะท้อนผ่านลายกราฟฟิครอบๆ ร้าน และหน้าตาขนมที่ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพประทับใจ       เริ่มกันด้วย Monsieur Religieux ขนมตัวเอกที่แม้แต่โมนาลิซ่าประจำร้านยังต้องถือไว้ในมือ ซึ่งความน่ารักเกิดจากการนำชูว์ครีม 2 ชิ้น 2 ขนาดเรียงต่อกัน ก่อนจะสวมด้วยหมวกช็อกโกแลตปีกกว้างจนเหมือนซินญอร์ที่ภายในมีความอร่อยของครีมคาราเมลมาสคาโปน วานิลลา และซอสบัตเตอร์สกอตช์     ตามด้วย Blue Berry Balloon ชีสเค้กเนื้อนุ่มที่ถูกปรุงแต่งให้เหมือนลูกโป่งสีม่วงแวบวับที่ซุกซ่อนครีมเลมอนเนื้อเนียนและบลูเบอร์รี่ปั่นละเอียดรสหวานอมเปรี้ยวไว้ภายใน แถมข้างใต้ยังมีบิสกิตกรุบกรอบให้เคี้ยวเพลินๆ อีกด้วย     ส่วนจานเด็ดยกขอยกให้ Star Fish โดดเด่นด้วยมูสมาสคาโปนรสวานิลลาและกาแฟทำเป็นรูปดาวที่สอดแทรกความหวานอมเปรี้ยวของสับปะรดภูเก็ตกวนมาตัดรส ตกแต่งด้วยมะม่วงหิมพานต์บดละเอียดอีกนิด โฟมขิงพ่วงด้วยเจลลี่มะพร้าวอีกหน่อย พอกินรวมกันจะได้รสสัมผัสใหม่ที่เข้ากันและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ     สำหรับคนรักมาการองก็ห้ามพลาดเลย เพราะที่นี่มีมาการรองหลากสีและรสชาติให้เลือกชิม รสที่เรารักขอยกให้กับ Salted Egg รสครีมไข่เค็มที่แฝงความเข้มข้นของไข่แดงได้อย่างเหมาะเจาะ เช่นเดียวกับหน้าตาที่เหมือนกับไข่เค็มผ่าครึ่งซีก หรือจะเป็น Raspberry Cheesecake มาการองแป้งบางกรอบนุ่มที่โดดเด่นด้วยครีมชีสรสนวลๆ และเปรี้ยวด้วยแยมราสป์เบอร์รี่ และ Peanut Butter มาการองรสเนยถั่วที่แอบน่ารักด้วยเพรซเซลรสเค็มชิ้นเล็กๆ มาให้ตัดรส     แล้วอย่าลืมปิดท้ายด้วย Butterscotch Milk นมบัตเตอร์สกอตช์รสละมุนที่ได้ไอศกรีมข้าวโพดที่หน้าตาและรสชาติเหมือนข้าวโพดอย่างกับจับวาง ห้ามพลาดเชียวล่ะ!  

Laff Café ถือเป็นคาเฟ่สวยบรรยากาศดีที่เสิร์ฟเค้กโฮมเมดและกาแฟหอมๆ ตลอดทั้งวัน ร้านนี้เป็นกิจการของครอบครัว “คุณฟง” หนุ่มเจ้าของร้านผู้รักงานบริการ กับคุณแม่ที่ชื่นชอบการทำขนมและคุณพ่อที่ชอบดื่มกาแฟ โดยต่อเติมร้านเย็บผ้าเก่าแปลงโฉมใหม่ให้เป็นโรงนาสไตล์อังกฤษโมเดิร์น สวยโดดเด่นที่เพดานโค้งสูง ใช้สีเขียววินเทจ และสีขาวทำให้ร้านดูสว่าง โปร่งโล่ง สบายตา มีทั้งมุมโซฟานั่งสบายและเคาท์เตอร์สูงสำหรับนั่งทำงานอยู่หลายโต๊ะ         เค้กของลัฟคาเฟ่เป็นสูตรของคุณแม่คุณฟง ทุกจานจัดวางอย่างสวยงาม เราแนะนำ Laff me tender ซอฟท์ชีสเค้กเนื้อนุ่มเบากินแล้วไม่หนักและเลี่ยน รสหวานกลมกล่อมราดด้วยซอสมิ๊กซ์เบอร์รีเปรี้ยวอมหวาน Madam Carrot เค้กแครอตเนื้อชุ่มเต็มไปด้วยแครอท ลูกเกดและผลไม้แห้ง หอมกลิ่นอบเชยชวนให้ตักใส่ปากแบบไม่มีหยุด Pecan Rhubarb เค้กรูบาร์บใส่ถั่วพีแคน เค้กเนื้อแน่นนุ่มรสเปรี้ยวนิดๆ จากรูบาร์บ โรยถั่วพีแคนอบหอมมัน เสิร์ฟพร้อมซอสวนิลากลิ่นหอมรสหวานนุ่ม ยังมีครัวซองส์โฮมเมดและอัลมอนด์ครัวซองส์ ผิวบางกรอบอบใหม่หอมๆ ทุกวันอีกด้วย         ส่วนกาแฟของที่นี่เป็นสไตล์ออสเตรเลียที่ต้องชั่งน้ำหนักกาแฟและชิมทุกชอตให้สมบูรณ์แบบก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง โดยได้เมล็ดกาแฟหอมๆ จากโรงคั่วพาร์ทเนอร์ มีให้เลือกสั่งทั้งกาแฟร้อนมาตรฐานอย่างลาเต้ คาปูชิโน อเมริกาโน ฯลฯ ส่วนคนที่ไม่ชอบรสขมของกาแฟลองสั่ง My Passion กาแฟเย็นใส่น้ำเสาวรสดื่มแล้วสดชื่น ไม่ขมแต่ยังคงกลิ่นหอมของกาแฟอยู่ หรือจะสั่งเครื่องดื่มโซดาซาบซ่าอย่าง Strawberry Lemonade เลมอนเนดสตรอว์เบอร์รีก็ดับร้อนได้ดี       วันหยุดนี้เห็นทีต้องปักหมุดตามไปชิม

Hipstone Café คาเฟ่ไอเดียแจ่มที่เปลี่ยนบ้านหลังน้อยให้กลายเป็นคาเฟ่ยุคหิน ของตกแต่งด้านในก็ล้วนแล้วแต่คุมธีมให้อยู่ในยุคหินทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่หมอนอิงยังเป็นทรงกระดูก ร่วมด้วยพร็อพเก๋ๆ วางเรียงรายให้สายเซลฟี่เต็มอิ่มกับการถ่ายรูป ส่วนอาหารและเครื่องดื่มเน้นสูตรโฮมเมดที่มาจากความเชื่อที่ว่ารสชาติดีต้องเริ่มจากวัตถุดิบคุณภาพดี เมื่อผสานกับการปรุงอย่างพิถีพิถันจึงเข้าขั้นอาหารชั้นเลิศ!         ไฮไลท์ห้ามพลาด Dinosaur Egg with Fudge Brownie ไข่ไดโนเสาร์ลูกโตที่ต้องทุบให้แตกก่อนกิน ตัวไข่ทำจากไวท์ช็อกโกแลตวางบนคุ้กกี้กรุบกรอบ ล้อมรอบด้วยบราวนี่หั่นเต๋า ส่วนข้างในไข่จะเป็นอะไรให้ไปลุ้นกันเอาเอง     จานหลักรสชาติดียกให้สปาเกตตีขี้เมาหมู เส้นสปาเก็ตตีลวกสุกกำลังดี ผัดค่อนข้างแห้งไร้ความมันส่วนเกิน ปรุงรสจัดจ้านถึงใจด้วยพริกไทยสดและพริกชี้ฟ้าแดง ตกแต่งด้วยใบโหระพา หอมกรุ่นตั้งแต่ยังเสิร์ฟมาไม่ถึงโต๊ะ     หรือจะเป็นพอร์กชอปพริกไทยดำ ก็อิ่มสบายท้องได้ในจานเดียว เนื้อมีความนุ่มนวลเคี้ยวง่าย ราดด้วยซอสพริกไทยดำสูตรของร้าน เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายและผักสด อร่อยจนไม่อยากวางช้อน