หลีกหนีความเร่งรีบในเมืองหลวงมานั่งสโลว์ ๆ จิบชาให้ใจเบิกบาน พร้อมขนมที่สรรค์สร้างมาจากหัวใจที่ SAMATEA CAFE คาเฟ่ในบ้านหลังน้อยซอยพระราม 2/37  ภายในตกแต่งโทนสีขาว และสีเขียวที่สื่อถึงมัทฉะ เน้นความเรียบง่าย แต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแฝงกลิ่นอายญี่ปุ่นไปทุกมุมร้าน บอกเลยว่าทุกเมนูของที่นี่ใช้วัตถุดิบชั้นดี และกรรมวิธีพิถีพิถัน ตรงตามคอนเซ็ปต์ “การลงมือทำอย่างตั้งใจและใส่ใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง” สมาธิ (SAMATEA) คาเฟ่ ยังไงล่ะ           มาเริ่มต้นกันด้วย Matcha Banoffee ภายใต้ครีมมัตชะสีเขียวหอมนุ่มนั้น ซ่อนความกรุบกรอบของบิสกิตป่นคลุกเคล้าน้ำตาลทรายแดงและกล้วยอยู่  ตักลึกลงถึงชั้นล่างสุดจะเจอมูสชาเขียวผสมไวต์ช็อกโกแล็ตรสหวานหอม เมื่อกินพร้อมกันทุกเลเยอร์ รสชาติลงตัวพอดิบพอดี       Sakura Raindrop Cake โมจิหยดน้ำนุ่มเด้งที่สอดแทรกดอกซากุระหมักเกลือไว้อย่างสวยงาม เสิร์ฟพร้อมผงคินาโกะ เข้าคู่กันได้ดีกับความหวานหอมจากน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง     ใครชอบความนุ่มหนึบหนับเคี้ยวเพลินต้องลอง Warabi Mochi ที่ใช้แป้งจากรากต้นวาราบิ สูตรดั้งเดิมตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ คลุกเคล้าด้วยผงคินาโกะ เติมความหวานสักนิดด้วยน้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง แค่นี้ก็เป็นอันเพอร์เฟค     Kuro Goma Pudding พุดดิ้งงาดำรสละมุน หวานพอดี กินพร้อมโมจินุ่มนิ่ม ยิ่งเป็นรสสัมผัสที่สนุกสนานเพลิดเพลิน     เทใจให้รัวๆ กับเมนูฮอตฮิต Mellow Matcha ชาเขียวเกรดพรีเมี่ยมตีสดๆ รสกลมกล่อม ได้กลิ่นหอมละมุนอย่างชัดเจน บอกเลยแก้วนี้ประทับใจไม่รู้ลืม         ปิดท้ายด้วย Earl Grey Yuzu ชาเอิร์ลเกรย์ที่ผสมผสานรสชาติส้มยูสุ รสเปรี้ยว และกลิ่นหอมชวนหลงใหล ดื่มแล้วสดชื่นช่วยให้อารมณ์ดีทั้งวัน      

ไม่ได้มาเที่ยว “ภูเก็ต” สักพักใหญ่ มารอบนี้มีคาเฟ่เก๋ๆ เปิดใหม่เพียบ! แต่ G&C บอกเลยว่าถ้าอยากหาคาเฟ่ที่มีขนมอร่อยมากกกกกกก จับคู่กับกาแฟจากโรงคั่วในท้องถิ่นภูเก็ต และมีเจ้าของร้านที่คุยสนุกด้วยแล้วล่ะก็ ร้านนี้คนภูเก็ตเจ้าถิ่นเขาแนะนำมาเองเลย ที่ Brown Café Where We Bake & Blend คาเฟ่สไตล์ลอฟต์ที่มีบรรยากาศชวนผ่อนคลาย ทั้งยังมีมุมบาร์กาแฟสำหรับคนที่ตั้งใจมาชิมกาแฟ ถ้ามาถูกที่แล้วก็จะเจอชายหนุ่มที่ดูอารมณ์ดี คุณเค –  ปรัชญา ตันติพิริยะกิจ ผู้เป็นเจ้าของร้านรอต้อนรับอยู่         คาเฟ่แห่งนี้เปิดมาได้ 5 ปีแล้ว เมนูอร่อยของทางร้านมีที่มาจากอดีตหุ้นส่วนที่เคยเป็นเชฟขนมหวานที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มาก่อน ส่วนคุณเคเป็นคนชอบเข้าคาเฟ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อได้เจอคนที่มีความชอบตรงกันเลยร่วมกันเปิดร้านแห่งนี้ขึ้น ขนมหวานที่มีมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านและยังเป็นเมนูขายดีจนปัจจุบันคือ Chocolate Royal (110 บาท) ที่มีความเข้มข้นของช็อกโกแลตอัดแน่นตลอดทั้งชิ้น เริ่มจากฐานครัสต์ที่กรุบกรอบ เลเยอร์ต่อมาเป็นดาร์กช็อกโกแลตแน่นๆ ด้านบนเป็นช็อกโกแลตเนื้อครีมมี่นุ่มละมุน ที่ดีงามคือทั้งหมดนี้ไม่หวานจนเกินไปถูกใจคนรักช็อกโกแลต ส่วนขนมหน้าตาสวยเป๊ะและมีกลิ่นอายไทยๆ อย่าง ฟักทองแครมบรูเล่สังขยาชาไทย (109 บาท) ก็เป็นเมนูที่วางขายมาได้ 2 ปีแล้ว เกิดจากความที่คุณเคชอบกินสังขยาฟังทองมาก จึงคิดนำมาผสมกับสูตรแครมบรูเล่ของหุ้นส่วนและเพิ่มรสชาไทยเพื่อให้ทวีความเข้มข้นขึ้นไปอีก คาดไม่ถึงว่าจะเข้ากันได้ดีแบบนี้       มาถึงเมนูใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางขายเมื่อสัปดาห์ก่อน เราโชคดีมากๆ ที่ได้มาชิมพอดีกับ เบคชีสเค้กทุเรียน (120 บาท) ชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้ทุเรียนหมอนทองมาผสม บอกเลยว่าเมนูนี้เรารักมาก เนื้อชีสเค้กเนียนนุ่มละมุนลิ้นหอมหวานรสทุเรียนหมอนทองเต็มปากเต็มคำ ตั้งแต่คำแรกก็อร่อยจนหยุดไม่ได้ งานนี้ขอเดาว่าคุณเคเป็นทุเรียนเลิฟเวอร์ และเราก็ยิ่งมั่นใจเมื่อเมนูต่อมาคือ ไอศกรีมทุเรียนเสิร์ฟกับทุเรียนสาลิกา ตัวไอศกรีมทุเรียนเนื้อเนียนหวานหอมเพิ่มสัมผัสนุ่มๆ ของมะพร้าวอ่อนและสัมผัสกรุบๆ จากทับทิม กินคู่กับทุเรียนสาลิกาทั้งพูดับเบิ้ลความทุเรียนเข้าไปอีก อื้อหือ! และในขณะที่ยังอร่อยไม่ทันหมดถ้วยดี คุณเคก็หายเข้าไปหลังร้านแล้วกลับมาพร้อมกับ “ทุเรียนทรายขาว” ที่ได้มาให้เราลองชิมด้วย คุณเคบอกว่าทุเรียนพันธุ์นี้ต้องกินเมื่อสุกหน่อยเนื้อจะหวานกว่าหมอนทองเสียอีก สำหรับลูกค้าที่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียนทางร้านก็เตรียมพื้นที่ที่กลิ่นจะไม่รบกวนไว้ให้ด้วย เราเลยถึงบางอ้อว่าทำไมโซนนี้ถึงมีประตูกระจกกั้นอยู่         สั่งขนมแล้วก็อย่าลืมสั่งเครื่องดื่ม ซึ่งอาจจะต้องใจเย็นหน่อยเพราะคุณเคชงเองแบบแก้วต่อแก้ว ลองสั่ง กาแฟลาเต้ ที่ใช้กาแฟจากโรงคั่วในภูเก็ต หรือ ชาเขียวลาเต้เย็น ที่ใส่ผงชาเขียวแท้จากญี่ปุ่นมีกลิ่นหอมและรสขมและฝาดนิดๆ กลมกล่อมดี เราสังเกตว่าถ้วยเครื่องดื่มแต่ละใบเป็นถ้วยเซรามิคที่ดีไซน์ไม่เหมือนกันเลย นั่นเพราะภาชนะในร้านส่วนใหญ่เป็นของสะสมจากการเดินทางของคุณเค จากญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง แต่เขากระซิบว่าหลังๆ มานี้ติดใจแบรนด์เซรามิคดีไซน์น่ารักจากลำปางจนถึงขนาดสั่งมาใช้ที่ร้านเลยล่ะ       นอกจากขนมหวานแล้ว ที่ Brown Café ยังมีเมนูอาหารง่ายๆ ให้อิ่มท้องกันด้วย อาทิ โฮมเมดพิซซา พาสต้า แซนด์วิช สลัด และเร็วๆ นี้จะได้พบกับ “มื้อเช้าและบรันช์ สไตล์เมลเบิร์น” จากความร่วมมือกับเชฟรุ่นน้องที่เคยอาศัยอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย น่าติดตามว่าเมนูใหม่ๆ สไตล์เมลเบิร์นจะมีอะไรบ้าง เอ้า! ระหว่างนี้ก็มากินเค้กรอกันเถอะ        

B-Story Garden ร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังประจำถนนราชเทวี ได้เปิดสาขาใหม่ย่านประดิษฐ์มนูธรรม พร้อมการตกแต่งสุดหรูหราสไตล์ยุโรปในบรรยากาศวินเทจ แถมมีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ     เมื่อไปถึงจะเห็นว่าร้านมีการตกแต่งคล้ายคฤหาสน์หินเก่าแก่สไตล์ยุโรป ให้ความรู้สึกหรูหรา ประหนึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหารที่ยุโรปเลยทีเดียว สำหรับสายถ่ายรูปแล้วล่ะก็ ด้านบนยังมี Glass House ให้นั่งสวยๆ จิบชาชิลๆ กันได้ แถมบรรยากาศเอาท์ดอร์ตอนหัวค่ำ รับลมเย็นๆ ก็สุดแสนจะโรแมนติกไม่แพ้กัน         ที่นี่มีบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนม เริ่มที่ B-Forest ซิกเนเจอร์ประจำร้าน ผลไม้ตระกูลเบอรี่แช่มาในน้ำทับทิมสีแดง ดื่มแล้วได้ความสดชื่น แต่งด้านบนด้วยฟองนมหน้าหมี เอกลักษณ์ประจำร้าน        นอกจากนี้ยังมี B-Healthy เครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพที่ดื่มไม่ยากอย่างที่คิด ร้านนำคะน้าไปคั้นจนไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว ปั่นไปพร้อมกับมะนาวสด รสชาติออกเปรี้ยวอมหวาน     ในส่วนของอาหารคาวเป็นแบบไทยฟิวชั่น เริ่มที่ ฉู่ฉี่ปลาแซลมอน ฉู่ฉี่รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ราดบนปลาแซลมอนที่นำไปกริลล์ได้กำลังดี ตามมาด้วย B-Ocean ปลาแซลมอน หอยแมลงภู่ ปลาหมึก กุ้ง นำไปคลุกเคล้ากับน้ำซอสแดง รสชาติหวานนำเปรี้ยวตาม       ปิดท้ายด้วย น้ำพริก B-Story น้ำพริกเผาหมู รสชาติเข้มข้นแต่ไม่จัดจ้านเกินไป เสิร์ฟพร้อมกับปลาสลิดทอดกรอบ ผักสด ผักลวก และไข่ต้ม กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากัน     ของหวานของที่นี่ก็ไม่น้อยหน้า ร้านเสิร์ฟเป็น Snicker Macadamia ชีสเค้กขายดีประจำร้าน ด้านล่างเป็นครัมเบิ้ลกรอบรสออกมันเค็มกำลังดี ตรงกลางเป็น New York Cheese cake เนื้อละมุน ท็อปด้วยช็อคโกแลตและแมคคาเดเมียเคลือบช็อคโกแลต ใครเป็นชีสเค้กกับช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ เมนูนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ไม่ยาก  

ท่ามกลางอาคารทรงเก่าในถนนทรงวาด เยาวราช ยังมีมุมน่ารักๆ ของคาเฟ่สุดคิวท์ซ่อนตัวอยู่ “Nahim Café” คาเฟ่ที่มาพร้อมกับความสดใส ที่เจ้าของร้านเนรมิตร้านขายยาในอาคารเก่าแห่งนี้ให้กลายเป็นร้านคาเฟ่เก๋ไก๋น่านั่ง     เมื่อเข้ามาภายในร้านเราสัมผัสได้ถึงความน่ารักที่ต่างกับบรรยากาศด้านนอกโดยสิ้นเชิง ด้วยสีสันสดใสตั้งแต่ประตูด้านหน้า ยาวมาถึงผนังด้านใน รวมถึงกรอบหน้าต่างที่ใช้ผ้าหลากสีมาเรียงต่อกันเพื่อเพิ่มสีสันให้กับผนังร้าน มีที่นั่งบนชิงช้าริมหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติช่วยเพิ่มความผ่อนคลายสบายตา       สิ่งที่ทำให้ “Nahim Café” เป็นคาเฟ่น่ารักสดใสต่างจากร้านอื่นอยู่ที่การตกแต่งด้วยของกระจุกกระจิกชิ้นน้อยใหญ่ วางเรียงรายกันตามจุดต่างๆ จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ที่หลงใหลถ่ายรูปเป็นอย่างดี       ไม่ได้น่ารักแค่การตกแต่งร้าน แต่เมนูที่มีให้เลือกก็สร้างสรรค์ได้ออกมาน่ารักน่าทานไม่แพ้กัน เริ่มที่จานแรก SOUP PLATTER” เมนูอาหารคาวที่มีขนมปังลายอัลปาก้า สลัด และซุปให้เลือก 3 อย่าง อันได้แก่ ซุปข้าวโพด ซุปแครอท และซุปฟักทอง เราเลือกเป็นซุปข้าวโพดสีเหลืองนวล ตัวซุปเข้มข้น รสกลมกล่อม ได้ความหวานธรรมชาติจากเนื้อข้าวโพด ทานคู่กับสลัดผักออร์แกนิคสดกรอบราดน้ำสลัดเปรี้ยวสไตล์ญี่ปุ่นเพิ่มความเฮลท์ตี้       แวะมาสั่งเครื่องดื่มหวานๆ เพิ่มความสดชื่นกันบ้าง “Strawberry Polka dot milkshake” มิลค์เชคหวานเย็นชื่นใจ เพิ่มความน่าลิ้มลองด้วยลายโพลกาดอทสุดน่ารัก ท็อปด้วยซีเรียลวงกลมหลากสี ถือเป็นเมนูถูกใจสาวๆ ได้ไม่ยาก     ยังน่ารักไม่พอ ขอต่อกับขนมโดนัทสุดคิวท์ ที่สายหวานเห็นแล้วต้องชอบ ไม่ว่าจะเป็น Polka Dot Donut, Daisy Donut, Flamingo Donut และลวดลายอื่นๆ อีกเพียบ เป็นขนมยอดฮิตประจำร้าน ที่มักจะโดนแชะภาพจากลูกค้าภายในร้านเป็นประจำ แถมรสชาติหวานหอม สมกับเป็นของหวานขายดีประจำร้านเลยล่ะ      

Brioche from heaven บ้านอิฐสีแดงข้างบันไดรถไฟฟ้าช่องนนทรีประตูทางออกหมายเลข 4 นี้เองที่ทำให้ย่านสาทรดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ร้านขนมปังออริจินัลจากแคว้นนอร์มังดีแห่งนี้เกิดจากความตั้งใจของ เชฟไก่ ธนัญญา ไข่แก้ว เชฟกระทะเหล็กอาหารหวาน ที่อยากให้ลูกค้ามีความสุขจากสิ่งที่เสิร์ฟ โดยเลือกใช้แต่วัตถุดิบชั้นเยี่ยม อาทิ แป้ง กาแฟ นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เนยผลิตจากแคว้นนอร์มังดี ที่ใช้เสิร์ฟในราชสำนัก เพื่อเก็บรสชาติขนมต้นตำรับไว้ไม่ให้เลือนหาย         ภายในร้านตกแต่งด้วยก้อนอิฐสีแดง และท่อนไม้ฟืน ให้กลิ่นอายราวกับคาเฟ่สมัยก่อนในฝรั่งเศสอย่างไรอย่างนั้น  มีขนมปังอบสดจากเตาเรียงรายไว้เป็นระเบียบ เพียงก้าวแรกที่เข้ามาจะได้กลิ่นขนมปังอบสดใหม่ หอมกรุ่นชวนให้ท้องร้อง ชวนอยากลิ้มลองสักคำ           เริ่มต้นที่ซิกเนเจอร์ Brioche from heaven เมนูดาวเด่น บริยอชเนื้อนุ่มชุ่มเนย เพิ่มรสชาติหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำตาลทรายแดง และซินนามอน บวกกับความกรุบกรอบของพีแคน และความหวานจากคาราเมล เป็นรสชาติที่ฟินไม่รู้ลืม         ไอศกรีมเลิฟเวอร์ต้องลอง Affogato from heaven เมนูฮอตฮิตซิกเนเจอร์อีกหนึ่งเมนู ไอศกรีมแมคคาเดเมีย ท็อปด้วยแมคคาเดเมียเคลือบคาราเมล ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน กินคู่กับขนมปังเลดี้ฟิงเกอร์ให้ความกรุบกรอบ และกาแฟเอสเพรสโซร้อน เวลากินให้ราดกาแฟลงบนไอศกรีม รสเข้มตัดหวาน หอมกรุ่นละมุนอยู่ในปาก ลงตัวทุกสัมผัส     Strawberry milkshake สตรอว์เบอร์รีสด ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี นมสด และน้ำเชื่อมเล็กน้อย ปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อนวลเนียน ท็อปด้วยวิปครีมนุ่มละมุนลิ้น ได้มิลค์เชครสเปรี้ยวหวาน เข้มข้น สดชื่นถูกใจสายหวาน บอกเลยแก้วนี้อร่อยหมดจนหยดสุดท้าย    

เยาวราช แหล่งของอร่อยและคาเฟ่สุดชิคที่สาวก Café Hopping แวะเวียนมาดื่มด่ำบรรยากาศอยู่เสมอ  และครั้งนี้ถึงคิวของคาเฟ่น้องใหม่ “Chata Specialty Coffee” ที่ได้พื้นที่สวนด้านหน้าโรงแรม Baan๒๔๕๗ มาเป็นฐานตั้งมั่นหลักของร้าน       คำว่า “Chata” มาจากคำว่า “ชะตาลิขิต” จากความเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากความบังเอิญ “Chata Specialty Coffee” จึงถือกำเนิดขึ้นจากโชคชะตาที่ลิขิตให้ได้มาพบกับกำแพงอิฐเก่า ก่อร่างสร้างโรงแรม Baan๒๔๕๗ จนมาถึงคาเฟ่อันเป็นดั่งโชคชะตาแห่งนี้ขึ้นมา       เมื่อก้าวเข้ามาภายในบริเวณโรงแรม เราจะพบกับเรือนกระจกด้านขวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน Chata โดยร้านเลือกตกแต่งในสไตล์ Contemporary Loft ที่ผสานความคลาสสิกของเฟอร์นิเจอร์ไม้เข้ากับผนังอิฐเก่าพร้อมด้วยเรือนกระจกโปร่งโล่งได้อย่างลงตัว อีกทั้งมีโซนนั่งให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์ริมหน้าต่าง โต๊ะ โซฟา หรือโต๊ะยาวขนาดใหญ่แบบ Long Table ให้บรรยากาศอบอุ่นเปรียบเสมือนนั่งจิบกาแฟอยู่กลางบ้าน ที่รายล้อมไปด้วยแมกไม้ และแสงแดดที่ลอดผ่านกระจก       ความโดดเด่นของที่นี่คือ เมล็ดพันธุ์กาแฟที่นำเข้าจาก 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เอธิโอเปีย บราซิล และอินเดีย แล้วนำทั้ง 4 ชนิดมาเบลนด์ใหม่เพื่อให้ได้รสชาติในแบบของ Chata เริ่มที่เมนูแรก “Piccolo Latte” แก้วจิ๋วแต่แจ๋ว กาแฟบอดี้หนักแน่นผสมผสานกับนมสดนุ่มนวลได้อย่างลงตัว     สำหรับคนที่ไม่ชอบทานกาแฟ ทางร้านมีเมนูเพิ่มความสดชื่นอย่าง “Chata Secret Love” ลิ้นจี่โซดารสซาบซ่า ดับความร้อนของอากาศได้เป็นอย่างดี       นอกจากเครื่องดื่ม ทางร้านยังมีเมนูของคาวไว้คอยเสิร์ฟให้อิ่มท้องอย่าง “ข้าวไข่ข้นเนื้อน่องลาย” ข้าวสวยร้อนๆ ท็อปด้วยไข่ข้นไหลเยิ้ม ซอสแกงกะหรี่ และเนื้อน่องลายที่นุ่มจนละลายในปาก เสิร์ฟบนจานกระทะร้อนให้อาหารอุ่นได้นานขึ้น เป็นเมนูง่ายๆ ที่ Beef Lover ไม่ควรพลาด    

จากร้านกาแฟเล็กๆ เพียงไม่กี่ที่นั่งที่เคยอิงแอบอยู่ใน “ชามเริญสตูดิโอ” สตูดิโอย่านแพร่งสรรพศาสตร์ มาตอนนี้ Sati Handcraft Coffee ได้มีที่ทางเป็นของตัวเองใจกลางย่านฮิปอย่างอารีย์ และด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางมากขึ้นนี้เอง ร้านกาแฟร้านนี้จึงมาพร้อมกาแฟและเครื่องดื่มหลากรสที่เข้าคู่กับอาหารจานเด็ดได้อย่างลงตัว       คุณเอฟ - วิทิต ชัยสัมฤทธิ์โชค เจ้าของร้านเล่าให้เราฟังว่าอยากให้ที่นี่เสมอเป็นจุดแวะพักสำหรับทุกคนให้มานั่งทำงานหรือแฮงก์เอาท์กันได้แบบนานๆ พลางลิ้มรสกาแฟดีๆ โดยมีให้เลือกทั้งแบบเอสเพรสโซ่จากกาแฟเฮาส์เบลนด์ของทางร้านที่ผสานรสชาติกาแฟไทยและกาแฟจากรวันดาเอาไว้ จนได้รสชาติเข้มข้นแบบช็อกโกแลตแฝงกลิ่นถั่วและรสเปรี้ยวน้อยๆ         ถ้าใครอยากลองกาแฟซิงเกิลออริจินก็สามารถสั่งกาแฟฟิลเตอร์ (Filter Coffee) ที่ให้เราสามารถเลือกวิธีชงกันได้ด้วย ซึ่งครั้งนี้เราได้ลองกาแฟดริปจากเอธิโอเปียเบลนด์กับกาแฟจากคองกาที่โดดเด่นด้วยรสชาติเปรี้ยวๆ พ่วงด้วยกลิ่นหอมๆ ชวนจิบจนหมดแก้ว แต่สำหรับคนรักกาแฟรสละมุนก็อย่าลืมลองกาแฟและชาโคลด์บริวที่มีหมุนเวียนรสชาติกันอย่างไม่ขาด       หากใครยังนึกไม่ออกเราก็ขอแนะนำ Ginger Dirty การแฟสูตรพิเศษที่นำน้ำขิงคั้นสดมาผสมเข้ากับนมอุ่นท็อปด้วยเอสเพรสโซ่ช็อตแล้วปิดท้ายด้วยครีมสดด้านบน ทำให้ได้กาแฟรสชาติแปลกใหม่เพราะรสชาติขิงและนมเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังมีบิสกิตเลมอนชิ้นเล็กๆ มาช่วยเติมเต็มรสชาติสดชื่น ในขณะที่อาหารก็เป็นสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดที่ร้อยเรียงรสชาติมาให้เข้ากันกับกาแฟ     เริ่มด้วย Mussels with White Wine Sauce หอยแมลงภู่ตัวโตอบในซอสไวน์ขาวกินคู่กับขนมปังบาแกตต์อบเนยและกระเทียมแผ่นบางกรอบ หรือจะอิ่มแบบหนักๆ กับ Egg Benedict with Smoked Salmon เมนูอาหารเช้ายอดฮิตที่มาพร้อมกับแชลมอนรมควันชิ้นหนานุ่มราดด้วยซอสฮอลันเดสรสเข้มข้นหอมมัน       ส่วนใครชอบอาหารจานเส้นก็ต้องลอง Spaghetti Aglio Bacon สปาเก็ตตี้ผัดในน้ำมันมะกอก กระเทียม พริกแห้ง และเบคอน ที่เราขอบอกว่าห้ามพลาดบีบมะนาวเพิ่มรสชาติลงไปอย่างเด็ดขาด  

หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในโลกออนไลน์จนมีลูกค้าประจำมากมาย ด้วยเพราะติดใจในฝีมือของ เชฟพัช - พัชราพรรณ ปาละกูล เชฟและหนึ่งในเจ้าของร้านมานานหลายปี ในที่สุด “Patchwork BKK” ก็ได้เวลาขยับขยายกลายเป็นคาเฟ่เล็กๆ น่ารักน่านั่งที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ของโครงการ NapLap ในซอยจุฬา 6 ให้คนรักเค้กได้มาละเลียดความอร่อยกันอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น       ไม่เพียงบรรยากาศดีเหมือนนั่งอยู่ในเรือนกระจกที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นที่ให้ความรู้สึกประหนึ่งกำลังนั่งชิลอยู่บนบ้านต้นไม้สุดเก๋เท่านั้น แต่ความพิเศษของที่นี่คือเราสามารถเลือกสั่งเค้กเป็นชิ้นแบบพอดีอิ่ม โดยไม่ต้องสั่งแบบปอนด์ใหญ่เพียงอย่างเดียว ที่สำคัญยังมีเมนูกาแฟและเครื่องดื่มหลากหลายสไตล์มาเพิ่มเติมความสดชื่นให้อีกด้วย       หากใครเพิ่งได้ทำความรู้จักร้านนี้ เราแนะนำเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Almond Crunchy เค้กหลากเลเยอร์ที่มีทั้งช็อกโกแลต แครกเกอร์ วิปครีม และข้าวพองกรุบกรอบ Red Velvet ที่มีทีเด็ดอยู่ที่ครีมชีสมาสคาโปนผสมเลมอนที่สอดแทรกในเนื้อเค้ก เพิ่มความเปรี้ยวนิดๆ กำลังดี ส่วนสาวกไข่เค็มต้องลองเมนูใหม่ล่าสุด Salted Egg Caramel Cheesecake ชีสเค้กรสกลมกล่อมที่เอาใจคนรักไข่เค็มด้วยมูสไข่เค็มและคาราเมลชีสเค้กด้านบน         สำหรับคอกาแฟอย่าลืมสั่ง Salted Caramel Latte ลาเต้เย็นรสนุ่มหอมกลมกล่อมคาราเมล ใครถนัดสายช็อกโกแลตต้องลอง Premium Belgian Dark Chocolate ช็อกโกแลตเบลเยียมเข้มข้นละลายกับนมสดหอมมันที่ได้รสชาติของช็อกโกแลตแท้แบบเต็มๆ       หรือถ้าชอบความซ่า Peach Lime Soda โซดาพีชผสมมะนาวหวานเปรี้ยวชื่นใจตอบโจทย์และคลายร้อนได้แน่นอน  

ขอยกให้เป็นหนึ่งในคาเฟ่สุดฮอตแห่งย่านทองหล่อในตอนนี้ สำหรับ Skoop & Co.” ที่ต่อยอดจาก Skoop Beach Cafe ร้านไอศกรีมโฮมเมดชื่อดังแห่งพัทยาและหัวหินที่มาเปิดสาขาใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ไปชิมกันง่ายดายยิ่งขึ้น       นอกจากการดีไซน์กำแพงร้านสุดเก๋ด้วยกระจกรูปวงกลมและสามเหลี่ยมที่โดนใจทั้งสายชิม สายแชะ และสายแชร์ ผสานกับบรรยากาศคลีนๆ เน้นสีขาวดำเทาน่านั่งชิลแล้ว ที่นี่ยังเพิ่มเมนูอาหารและเครื่องดื่มสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ดที่อร่อยและกินง่ายให้อิ่มท้องกันตลอดวัน       ใครแวะมาตอนสายๆ ลองสั่ง Healthy Benny เมนูบรันช์เอาใจสายสุขภาพ โทสต์หนานุ่มท็อปด้วยฟักทองย่าง อะโวคาโด และเอ้กเบเนดิกต์ หรืออยากอิ่มจริงจังในมื้อเที่ยง เราแนะนำ Japanese Curry Fried Rice ข้าวผัดคลุกเคล้าแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นรสเข้มข้นหอมเครื่องเทศ มาพร้อมไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในและไข่คนนุ่มลิ้น         คนรักของหวานก็ฟินได้ไม่แพ้กันกับ Salted Egg Yolk French Toast เฟรนช์โทสต์ชิ้นโตราดซอสไข่เค็มหอมมัน เพิ่มความอร่อยด้วยไอศกรีมโฮมเมดและวิปครีม และ Costa Bana วัฟเฟิลหนานุ่มราดซอสคาราเมลหอมหวาน มาพร้อมกล้วยหอมชิ้นโต วอลนัต และไอศกรีมรสวานิลลา       หรือถ้าแวะมาช่วงบ่าย อย่าลืมสั่ง Iced Bear Latte ลาเต้เย็นซิกเนเจอร์ที่เพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้งและเพิ่มความเข้มด้วยน้ำแข็งทำจากเอสเพรสโซชอตรูปหมีสุดน่ารักมาช่วยขจัดความง่วงสักแก้วก็ไม่เลวเลยทีเดียว  

Lumble café เกิดจากความชอบและหัวใจล้วนๆ ของ “คุณบิว” เจ้าของร้านที่ชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ขึ้นมา แล้วค่อยๆ พัฒนาร้าน ปรับเมนู และรสชาติอาหารให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้า จนทำให้ Lumble café กลายเป็นหนึ่งในร้านที่สมบูรณ์แบบร้านหนึ่งในย่านศาลายา       เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกันด้วย สลัดไก่อบซอสบาร์บีคิว ไก่เนื้อนุ่มหมักซอสบาบีคิว กินคู่กับน้ำสลัดงาขาวรสเปรี้ยวหวาน และผักสดที่ช่วยลดทนความเลี่ยน เป็นเมนูที่อิ่มอร่อยเบาๆ     สปาเก็ตตี้ข้าวซอยไก่ เมนูขวัญใจของเด็กมหาลัยฯ ที่เปลี่ยนจากเส้นข้าวซอยเป็นเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม แต่ยังคงความอร่อยเข้มข้นเหมือนต้นฉบับคนเหนือ และอีกเมนูที่ขาดไม่ได้เลย      ซี่โครงหมูย่างซอสแจ่ว ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่ ตัวซี่โครงหมูที่ถูกนำไปตุ๋นก่อนอบ จนได้เนื้อหมูนุ่มร่อนจากซี่โครง หอมอบอวลด้วยเครื่องเทศ ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วเข้มข้นถึงเครื่องยิ่งดีเข้าไปใหญ่     สำหรับของหวานล้างปากแนะนำ โทสต์ชาไทย ขนมปังกรอบนอกนุ่มในเสิร์ฟพร้อมซอสครีมชาไทย วิปปิงครีม ไอศกรีมวานิลลา และเบอร์รีสด ส่วนรสชาตินั้นสร้างความประหลาดใจให้กับเราเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่า เบอร์รีกับชาไทยจะไปด้วยกันได้ เรียกว่าคนรักชาไทยต้องฟินอย่างแน่นอน     ส่วนเครื่องดื่มต้องลอง เมนูฮิตยอดนิยม Coconut Coffee กาแฟน้ำกะทิเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกะทิ จุดเด่นของแก้วนี้อยู่ที่ความหอมมัน เข้มข้น คนที่ไม่ดื่มกาแฟสามารถดื่มได้สบาย บอกเลยเลยแก้วนี้ดีงาม      ปิดท้ายด้วย ชาเอิร์ลเกรย์ผลไม้ เพิ่มความสดชื่น ชาเอิร์ลเกรย์ผสมด้วยเบอร์รีสด และเลมอน ได้กลิ่นหอมหอมหวานของชา และความเปรี้ยวจากผลไม้ รสชาติหวานพอดี ยิ่งดื่มยิ่งสดชื่น  

จากความตั้งใจเพียงแค่อยากลองลงมือทำขนมญี่ปุ่นแสนน่ารักอย่างโมจิหยดน้ำให้ลูกๆ ได้ลองชิมจนคนรอบตัวต่างติดอกติดใจและเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ ตอนนี้ “Homu” ก็ได้ขยับขยายมาเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ แต่ (น่านั่ง) จริงจังให้เหล่าคนรักของหวานได้รื่นรมย์แบบไม่เหมือนใครของ คุณหญิง - เปมิกา ธนล้ำเลิศกุล เจ้าของร้านคุณแม่ลูกสองที่ใส่หัวใจของเธอลงไปในทุกเมนู       เราชอบการผสมผสานบรรดาของตกแต่งแฮนด์เมดสไตล์ญี่ปุ่นในบรรยากาศของตึกเก่าย่านเจริญกรุงที่ให้ทั้งความสวยงามและอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนมาเยือนบ้านเพื่อนสนิทที่พร้อมต้อนรับเราด้วยขนมญี่ปุ่นแบบวากาชิรสชาติดั้งเดิมที่เมื่อตักเข้าปากคำแรกก็รู้สึกเหมือนกำลังละเลียดความอร่อยในเมืองเก่าของชาวอาทิตย์อุทัยเลยทีเดียว ส่วนใครชอบมองวิวผ่านหน้าต่างสวยๆ แดดอุ่นๆ พร้อมนั่งเก้าอี้แขวนตัวสวยต้องขึ้นไปจับจองโต๊ะบนชั้น 2 (บันไดทางขึ้นค่อนข้างแคบและชัน ต้องระวังการก้าเท้าสักนิด)         เมนูเด่นที่พลาดไม่ได้ก็มีทั้งโมจิหยดน้ำซากุระน้ำแร่ฟูจิ ที่สอดแทรกดอกซากุระดองเกลือรสเค็มนิดๆ ตัดความหวานของโมจิและน้ำเชื่อมหอมกลิ่นซากุระ ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี สอดไส้ถั่วแดงกวนหอมหวานห่อหุ้มสตรอว์เบอร์รีสดลูกโตอีกชั้น และบรามันเจะ พุดดิ้งเนื้อเนียนนุ่มทำจากถั่วเหลือง ครีมนม และน้ำผึ้งหวานละมุน โรยผงคินาโกะเพิ่มความหอมอร่อย         ใครชอบความนุ่มเหนียวเคี้ยวมันต้องลองมัตฉะดังโงะ ที่ใช้แป้งข้าวเหนียวผสมชาเขียวมัตฉะเข้มข้นราดซอสโชยุหวานเค็มกลมกล่อม อย่าลืมสั่ง Homu Signature Floral Tea ชาเบลนด์สูตรพิเศษที่ผสมผสานดอกไม้และผลไม้นานาชนิด ทั้งกุหลาบ สตรอว์เบอร์รี พีช แบล็กที และแบล็กเคอร์แรนต์มากินคู่กันเป็นอันลงตัว    

หลังจากประสบความสำเร็จกับ 2 สาขาแรกที่โดนใจเหล่านักกินด้วยหลากหลายเมนูอาหารสไตล์ยูโรเปี้ยน “BLACKJACK caffe” ก็ได้เวลาเอาใจสายหวานกันบ้างกับสาขาที่ 3 ในโครงการ Canopy ซอยเอกชัย 87ที่มาพร้อมเมนูของหวานหน้าตาน่ากินตัดกับบรรยากาศร้านโทนสีขาวดำสุดเท่ได้อย่างลงตัว         ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ร้านนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขแสนหวาน (และอร่อย) ทุกเมนูจึงสร้างสรรค์อย่างตั้งใจและเลือกใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ โดยเฉพาะเนยคุณภาพดีที่ให้ความกลมกล่อมหอมมัน ไม่ว่าจะเป็น Double Chocolate Lava ช็อกโกแลตลาวาเข้มข้น มาพร้อมไอศกรีมวานิลลา วิปครีม และสตรอว์เบอร์รีสด และ Green Tea Toast โทสต์ชาโคลหอมเนย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมชาเขียวและซอสชาเขียวหอมหวาน       ส่วนใครชอบผลไม้ เราแนะนำ Banana Caramel Pancake แพนเค้กเนื้อแน่น ท็อปด้วยกล้วยเคลือบคาราเมลและไอศกรีมวานิลลา ราดซอสคาราเมลเพิ่มความอร่อย และ Strawberry Chocolate Waffle วาฟเฟิลชิ้นโตราดซอสช็อกโกแลต กินกับสตรอว์เบอร์รีสดรสเปรี้ยว พร้อมไอศกรีมช็อกโกแลตแล้วเข้ากันสุดๆ       สนับสนุนผลิตภัณฑ์โดย  

เสน่ห์ของขนมไทยนอกจากความหอมหวานกลมกล่อมด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของแป้ง กะทิ และน้ำตาลแล้วก็คือความพิถีพิถันช่างประดิดประดอยของคนทำเพื่อให้ขนมทุกชิ้นรสชาติถูกปากและมีหน้าตาสวยงามชวนกิน อย่างเช่นที่เสน่ห์ ร้านขนมไทยไซส์เอสที่ดูอบอุ่นชวนนั่งได้นานๆ โดยเฉพาะเวลาที่ได้นั่งมองเจ้าของร้านบรรจงหยอดขนมทีละชิ้นๆ เพลินจนลืมเวลาไปเลย       เสน่ห์ของร้านนี้อีกอย่างคือขนมในแต่ละวันอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะหากเจ้าของร้านพบวัตถุดิบที่น่าสนใจในวันนั้นเราก็อาจได้ลิ้มลองขนมชิ้นใหม่ๆ         ส่วนขนมไทยยอดนิยมที่หากินยากอย่างขนมบุหลันดั้นเมฆ ถึงแม้จะทำทุกวันแต่ก็มักไม่ทันขาย เพราะหลายคนตกหลุมรักขนมไทยโบราณที่มีรสชาติกลมกล่อมจากส่วนผสมของแป้งเหนียวๆ นุ่มๆ กับไส้ไข่แดงหวานๆ หอมๆ ชนิดนี้ตั้งแต่ได้ลองกินครั้งแรกแล้ว ดังนั้นพอนึ่งสุกปุ๊บก็แทบจะหมดปั๊บ หลายคนต้องสั่งจองล่วงหน้ากันพลาดเลยทีเดียว       รวมไปถึงขนมถ้วยที่ขายดีไม่น้อยหน้า เพราะเปลี่ยนจากหน้ากะทิมาเป็นหน้านวล ตบท้ายด้วยการหยอดสังขยารสชาติเค็มๆ หวานๆ สีสันดูน่ากิน ใครกำลังมองหาของฝากอยากให้ลองมอบเป็นขนมไทย รับรองสุขใจผู้ให้ ถูกใจผู้รับแน่นอน    

กาลครั้งหนึ่งยังไม่นานเท่าไหร่ที่เราได้มีโอกาสมานั่งชิลร้านนี้และประทับใจจนต้องไปซ้ำอีกหลายครั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน บรรยากาศร้านมาในธีมเทพนิยายใส่ใจการออกแบบทุกซอกมุม ดูจากภายนอกเหมือนร้านจะเล็กแต่เมื่อเดินเข้ามาก็เหมือนโลกด้านในจะกว้างใหญ่เกินจริง เราสามารถนั่งชิลได้ทั้งวันแบบไม่รู้เบื่อเพราะนอกจากบรรยากาศดียังมีเมนูชวนกินรอให้สั่งเยอะมาก         แรกพบก็สะดุดตาจนต้องรีบสั่งมาฟินเป็นชิ้นแรก Dark Beer Cake เค้กช็อกโกแลตเนื้อแน่นสีดำ หอมกลิ่นเบียร์จางๆ ชวนรื่นรมย์ ด้านบนเป็นชั้นครีมชีสโฮมเมดรสเปรี้ยวกำลังดี ช่วยตัดรสหวานของเนื้อเค้กและคาราเมลฉ่ำๆ ได้อย่างลงตัว     ส่วนจานหลักอยากให้ลอง Roti Tomyam แค่ยกมาเสิร์ฟก็เลิฟแล้วเพราะอบอวลด้วยกลิ่นหอมของเครื่องต้มยำ ส่วนแป้งโรตีก็ทั้งนุ่มและกลมกล่อมโปะหน้าด้วยชีสเยิ้มๆ ยังไม่พอเพราะไฮไลท์คือกุ้งตัวใหญ่ที่ใส่มาให้อีกหลายตัว เป็นใครก็ไม่อยากวางช้อน     ส่วนเครื่องดื่มแนะนำ Orange Coffee ที่สุดของความสดชื่นมีชีวิตชีวาจากส่วนผสมของน้ำส้มคั้นสด สลับด้วยชั้นเอสเปรสโซช็อตเข้มข้น     อีกแก้วที่อยากให้ลอง April Fruit Day เมนูสุดฟรุ้งฟริ้งรสหวานเปรี้ยวฉ่ำซ่าจากส้มและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ดื่มแล้วสดชื๊นสดชื่น สาวๆ ที่รักสุขภาพห้ามพลาด     ปิดท้ายด้วย Lotus Latte กาแฟรสละมุนใช้ดอกบัวของโครงการหลวงเป็นสัญลักษณ์ กลิ่นหอมของดอกไม้เพิ่มความรื่นรมย์ยามจิบกาแฟได้อีกเท่าตัว  

ถ้าพูดถึงคาเฟ่หลายอาจจะนึกว่าต้องมีเฉพาะในเมืองหลวง หรือย่านใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ปัจจุบันย่านปริมณฑลก็มีร้านเกร๋ๆ เหมือนกันอย่าง Sugale’ Cafe ตั้งอยู่ในโครงการ The One ซอยวัดลาดปลาดุก จังหวัดนนทบุรีนั่นเอง ถึงแม้ร้านจะไม่ได้อยู่ในเมืองแต่ขอบอกเลยว่าเรื่องรสชาติไม่แพ้ใครที่นี่อย่างแน่นอน       หน้าร้านมีจุดเด่นที่ทำให้สังเกตได้ง่ายคือ นางฟ้าตัวใหญ่ท่าทางยิ้มแย้มถือไม้คาถาสีสันสวยงาม ภายในร้านให้บรรยากาศอบอุ่นผ่อนคลายสบายๆ เหมาะสำหรับมานั่งเล่น นั่งชิล หรือนั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนๆ และคนในครอบครัวจริงๆ ค่ะ     ตัวไฮไลท์เด็ดของร้านนี้ที่ห้ามพลาดเลยคือ บิงซูทุเรียน จัดเต็มกับทุเรียนชิ้นโตๆ หอมนุ่มละมุนมาก ยิ่งได้กินกับบิงซูเย็นๆ ด้วยแล้วยิ่งทำให้เมนูนี้น่าไปโดนมาก แต่ขอบอกนิดนึงนะคะว่ามีเฉพาะช่วงทุเรียนเท่านั้น มาต่อกันด้วย Mix Fruit Toast โทสชิ้นใหญ่หอมกลิ่นเนยแบบสุดๆ ที่สำคัญเนื้อสัมผัสกำลังพอดีไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป รายล้อมด้วยผลไม้สดใหม่ แถมยังมีไอศกรีมลูกใหญ่ เป็นใครก็อดใจไม่ไหวอย่างแน่นอน       Tea Brown Sugar ชานมไข่มุกพ่นไฟที่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตอยู่ ร้านนี้ก็มีเช่นกัน ตัวไข่มุกเด้งดี๋ง แถมยังมีความหอมจากชานมอีกด้วย อะไรมันจะลงตัวขนาดนี้ Rainbow Soda น้ำผลไม้โซดาสีสันสดใสให้อารมณ์เหมือนเรนโบว์ อากาศร้อนๆ แบบนี้เรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ แต่ถ้าใครชื่นชอบเครื่องดื่มร้อนๆ ที่นี่ก็มี มัจฉะกรีนที (ร้อน) หอมกลิ่นชาเขียวแบบสุด ไม่หวานเกินไปเหมาะสำหรับจิบเพลินๆ ระหว่างรอเพื่อนมากค่า         ปิดท้ายกันด้วยเมนูอาหารอย่าง สปาเกตตีขี้เมาทะเล รสชาติจัดจ้านเผ็ดกำลังดี หวานกำลังโดน มาครบทุกรสชาติ แถมยังอัดแน่นด้วยอาหารทะเลอีกด้วย เป็นอีกจานที่ต้องไปโดนจริงๆ  

คาเฟ่สไตล์โฮมมี่ย่านเมืองทองธานีแห่งนี้ให้บริการทั้งแบบนั่งชิลและ Drive Thru ความน่ารักของร้านคือบรรยากาศที่อบอวลด้วยกลิ่นอายแห่งมิตรภาพและความเป็นกันเอง เสมือนเป็นจุดนัดพบของคนรักในสิ่งเดียวกัน ทางร้านจะสรรหาเมล็ดกาแฟพันธุ์ดีจากทั่วโลกมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติและสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ เช่นเดียวกับขนมและเครื่องดื่มที่จะหมุนเวียนเมนูออกมาเรียกเสียงกรี๊ดอยู่เสมอ         เครื่องดื่มสุดฮอตยกตำแหน่งให้ Iced Latte ลาเต้เย็นเน้นความเข้มข้นของกาแฟและนมสดแท้ 100% ไม่ผสมน้ำเชื่อมและนมข้นหวาน รสชาติกลมกล่อมหอมมันกำลังดี     เก๋อีกระดับกับ Cubic Latte นำกาแฟไปทำเป็นก้อนน้ำแข็ง ตีฟองนมเย็นเพิ่มความเข้มข้นปนหวานมัน แม้น้ำแข็งละลายก็ยังอร่อยได้จนหยดสุดท้าย     ส่วนคนไม่ดื่มกาแฟก็มีทางเลือกที่หอมกรุ่นละมุนลิ้นเช่นเดียวกันกับเมนูชาเขียวเลมอน รสชาติเปรี้ยวอมหวานดื่มแล้วปลุกความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า สั่งมากินคู่เบเกอรีอบสดจากเตา อาทิ Almond Croissant เคี้ยวหนึบหอมมัน หรือสโคน รสชาติดั้งเดิมสักชิ้นก็ฟินแล้ว      

ใครกำลังมองหามุมสงบหลบความวุ่นวายจากภายนอก ลองแวะมาที่คาเฟ่สไตล์อินดัสเตรียลวินเทจที่จำลองโรงจอดเครื่องบินเก่าให้เป็นร้านนั่งชิลและถ่ายรูปเล่น ท่ามกลางเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจที่หาชมได้ยาก รับรองว่าหายเบื่อเป็นปลิดทิ้งทั้งยังได้เพลิดเพลินไปกับกาแฟเกรดพรีเมียมที่ทางร้านรวบรวมมาจากหลายแหล่ง อาทิ ดอยช้าง อินโดนีเซีย และบราซิล หากอยากรู้ความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟแต่ละชนิด บาริสตาใจดียินดีให้ข้อมูล!         เริ่มต้นเนิบๆ ชิลๆ ได้ฟีลลิ่งไปอีกแบบกับเมนู Café Latte กาแฟร้อนท็อปฟองนม จิบอุ่นๆ ละมุนลิ้น     วันไหนอุณหภูมิทะลุองศาเดือด เลือกคลายร้อนด้วย Mocha Mint กาแฟผสมมินต์เข้มข้นหอมสดชื่น ช่วยดับความร้อนรุ่มเปลี่ยนเป็นความชุ่มฉ่ำได้ในทันที     ส่วนใครไม่ดื่มกาแฟก็มีทางเลือก Real Matcha ชาเขียวญี่ปุ่นคุณภาพดี ชงสดใหม่แก้วต่อแก้วเพื่อรสสัมผัสเข้มข้นแบบต้นตำรับ เลือกดื่มแบบร้อนก็ได้อารมณ์ญี่ปุ่นแท้ๆ หรือดื่มแบบเย็นก็สดชื่นคลายร้อนสไตล์ไทย นั่งเพลินๆ แล้วปิ๊งเฟอร์นิเจอร์ในร้านอยากได้เป็นของสะสมชิ้นใหม่ ลองสอบถามราคาไม่แน่ว่าอาจได้ของถูกใจในราคาย่อมเยาก็ได้นะ    

Woodbrook คาเฟ่สายชิลริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโฮสเทล Urby บนถนนทรงวาดที่เหล่าฮิปสเตอร์และคนรักการถ่ายรูปไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บภาพสวยๆ โซนริมน้ำที่เราสามารถเอนกายเอกเขนกบนเบาะใหญ่ที่ชวนให้ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน รวมทั้งกิมมิกห้ามพลาดในส่วนของเครื่องดื่มกับการเทช็อตกาแฟเก๋ๆ เอาใจคนชอบถ่ายรูปได้มีภาพเด็ดเก็บเป็นที่ระลึก         แก้วแรกขอมอบให้คนรักคุกกี้แอนด์ครีม Brook Mountain นอกจากความหวานมันของนมสด ชาไทย และไซรัป ยังมีดีเทลสนุกให้เคี้ยวกรุบกรอบจากคุ้กกี้บดหยาบในแก้ว     ต่อด้วยเมนูเก๋ของสายหวาน Kaolud Affogato เกาลัดปั่นราดด้วยช็อตกาแฟ ควรชิมเกาลัดปั่นก่อนเพื่อลิ้มรสประสบการณ์แรก จากนั้นเทช็อตกาแฟคนให้เข้ากันแล้วจิบช้าๆ เพื่อค้นพบความสดชื่นอีกระดับ     ส่วนแก้วนี้ Woodwoof ชาเย็นใส่ Coffee Jelly ทำจากกาแฟอะราบิกา 100% ก็น่าลองไม่แพ้กัน ทางร้านยังมีเมนูสุดครีเอทที่ชวนดื่มอีกหลายเมนู ทั้งรสชาติและสีสันการนำเสนอบอกเลยว่าตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบ!  

หลังจากกลายเป็นขวัญใจคนรักของหวานในนาม Dandelion มาพักใหญ่ 2 เจ้าของร้านนักทำขนมจึงตัดสินใจขยับขยายความอร่อยมาสู่พื้นที่ใหม่ใหญ่กว่าเดิมในซอยสุขุมวิท 31 พร้อมคอนเซ็ปต์คาเฟ่เก๋ไก๋ที่อยากได้ทุกคนได้รื่นรมย์กับเค้กรสเลิศเหมือนทุกวันเป็นวันเกิดในบรรยากาศเรือนกระจกแสนอบอุ่นสไตล์ Cozy ที่แอบได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งจาก Alice In Wonderland สมกับชื่อร้าน “Unbirthday Café”           แม้โลเคชั่นใหม่จะแอบซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ของมาเปงเส็งอพาร์ตเมนต์ที่ให้ความรู้สึกสงบเงียบ แต่บอกเลยว่าไม่เป็นอุปสรรคกับการดั้นด้นไปชิมเมนูเด่นที่ยังอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น Banana Cream Cheese Pancake แพนเค้กเนื้อนุ่มฟูแบบญี่ปุ่น แต่หอมนุ่มชุ่มเนยแบบอเมริกัน ราดครีมชีสละมุนลิ้น มาพร้อมกล้วยหอมเคลือบชีสและบราวน์ชูการ์แล้วเบิร์นแบบแครมบูเล และ Coffee Jelly เจลลีกาแฟจากเอสเพรสโซชอตเข้มข้นที่ได้แรงบันดาลจากของหวานเมนูโปรดของชาวญี่ปุ่น ท็อปด้วยไอศกรีมนมโฮมเมดหอมหวานที่เข้ากันสุดๆ       สายเค้กอย่าลืมเก็บท้องไว้ให้ Lemon Rosemary Cake ความพิเศษอยู่ที่การอินฟิวส์โรสแมรีกับเนื้อเค้กแล้วอบจนหอมนิดๆ สอดแทรกด้วยเลมอนเคิร์ดและครีมมะนาวรสเปรี้ยว และ Hummingbird Cake เค้กเนื้อแน่นสไตล์อเมริกัน สอดไส้ทั้งกล้วยหอม สับปะรด และถั่ว หอมซินนามอนอ่อนๆ     ถ้ากลัวจะหวานเกินไป เราแนะนำให้สั่ง Yuzu Orange Tea ชาซีลอนต้มสดผสมน้ำส้มคั้นและน้ำส้มยูสุรสเปรี้ยวมาตัดความหวานมันได้อย่างลงตัว หรือถ้าใครเป็นสาวกช็อกโกแลตต้องลอง Iced Chocolate ช็อกโกแลตฝรั่งเศสชงเข้มข้น เพิ่มความเก๋ด้วยการปาดช็อกโกแลตกานาช พร้อมหยดวิปครีมด้านข้างแก้วมาเพิ่มความอร่อยก็ฟินไม่แพ้กัน  

หากกำลังมองหามุมพักผ่อนที่ตอบโจทย์ทั้งบรรยากาศและขนมอร่อย แนะนำ The Tea House กลาสเฮาส์ขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และของสะสมเก่าหายากสไตล์วินเทจ ประดับโคมไฟเหล็กดัดห้อยระย้ารูปทรงแปลกตาและสัตว์สตัฟฟ์น้อยใหญ่ เหมาะกับการแวะมานั่งชิลถ่ายรูปเก๋ๆ ภายในร้านยังหอมอบอวลไปด้วยเบเกอรี่อบใหม่สไตล์ฝรั่งเศสและชาแบรนด์ดังอย่าง Mariage Freres           แนะนำ The High Tea Set ชุดน้ำชาที่มาพร้อมขนมชวนกินหลากชนิด อาทิ เค้ก มาการอง พาย มินิพาร์มิเย่ ครัวซองต์ ชุดนี้ชวนเพื่อนมานั่งชิล 3-4 คนกำลังดี             หากร่างกายต้องการของคาวที่ไม่หนักท้องจนเกินไปแนะนำ Serrano Ham Salad with Balsamic Sauce ผักสลัดสีเขียวตัดกับมะเขือเทศแดงเหลืองคลุกเคล้ากับแฮมรสชาติเค็มมัน ราดด้วยน้ำสลัดบัลซามิกรสเปรี้ยวอมหวานนิดๆ  อิ่มเบาๆ สบายท้อง       นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูบรันช์แนวอิตาเลียนให้เลือกอีกมากมาย เรียกว่าคาวหวานครบจบในที่เดียว