ภารกิจสุดวุ่นวายในแต่ละวันอาจทำให้ความสุขของเราหายไปบ้าง แต่ถ้าปลีกเวลาได้อยากให้มาชาร์ตพลังที่ Sriyan Tearoom ทีรูมเปิดใหม่ในบ้านโบราณสไตล์โคโรเนียลอายุประมาณ 100 ปีที่ใช้ไม้ซุงเป็นรากฐาน ไม่มีการลงเสาเข็ม ตัวบ้านสร้างจากไม้สักแท้ทั้งหลังและไม่เคยรีโนเวท นอกจากทาสีใหม่บางส่วน โดยเน้นสีโทนเดิมเพื่อคงสเน่ห์ของวันวาน เมื่อเดินเข้ามาจึงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่อดีตที่เรียบง่าย เนิบช้า ไม่วุ่นวาย แถมยังมีชาชั้นดีและของว่างแสนอร่อยให้ละเลียดเพลินๆ อีกด้วย
ช่วงนี้เปิดให้นั่งชิลบริเวณชั้นล่าง ส่วนชั้นบนกำลังตกแต่งเพื่อรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น แต่ถ้าชอบนั่งรับลมแนะนำโซนด้านนอกที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และยังได้เงาของตัวบ้านช่วยบดบังแสงอาทิตย์ ลมพัดเย็นๆ นั่งยืดแขนขาสบายๆ ก่อนสั่งเมนูชูโรง เริ่มด้วยเลือกชาที่ชื่นชอบจับคู่กับครัวซองต์ เมนูไฮไลท์ที่เชฟครีเอทมาทั้งแบบคาวและหวานให้สั่งมาเอนจอยได้ครบจบที่เดียว
เราเลือก Golden Earl Grey ชาดำคัดเฉพาะยอดอ่อน เบลนด์กับกลิ่นมะกรูดและน้ำผึ้ง หอมหวานสดชื่น
ส่วนครัวซองต์เริ่มที่เมนูคาว Smoked Salmon Cream Cheese ครัวซองต์แซลมอนรมควัน ราดด้วยครีมชีส อะโวคาโด เคเปอร์ โรยหน้าด้วยอิคุระ
ต่อด้วย Scrambled Eggs ครัวซองต์สแครมเบิลเอ้ก ใส่แฮมชีส แชมปิญอง ผักร็อกเก็ต และมะเขือเทศย่าง อย่าลืมเพิ่มรสเปรี้ยวสดชื่นด้วยเลมอน
ปิดท้ายด้วยครัวซองต์รสหวาน Yuzu Cream Cheese ครัวซองต์คิวบิกก้อนโตที่กินคนเดียวไม่ได้ เพราะมีจุก ผิวนอกกรอบ ด้านในนุ่มนิ่ม ไฮไลท์อยู่ที่ไส้ยูสุและครีมชีสอุ่นๆ ที่พร้อมทะลักยั่วน้ำลายทันทีที่เราเอามีดกดลงไป รสชาติออกเปรี้ยวอมหวาน ยกให้เป็นของหวานปิดท้ายมื้อสุดประทับใจ
ก่อนกลับแวะย่อยอาหารด้วยการเดินชมสตูดิโอเสื้อผ้าแบรนด์ไทยชั้นนำ Sappaya (สัปปายะ) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ตัดเย็บจากผ้าเดนิมทอมือและใช้กระบวนการย้อมผ้าภูมิปัญญาชาวบ้านที่ปราศจากสารเคมี 100% ออกแบบสวย ใส่สบาย ไม่แน่ว่าเสื้อบางตัวกำลังรอเราเป็นเจ้าของอยู่ก็ได้