Peace Oriental Teahouse ร้านชาสเปเชียลตี้คุณภาพของเมืองไทย ผลงานสุดภูมิใจของ คุณธี ธีรชัย ลิมป์ไพฑูรย์ ผู้มีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับชามาตั้งแต่วัยเด็ก จนเกิดเป็นความหลงใหลและมีแรงบันดาลใจที่จะศึกษาศิลปะการชงชาด้วยตนเอง ประจวบกับว่า ณ ตอนนั้นมีน้อยคนนักที่จะเปิดร้านชาตะวันออกแบบดั้งเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณธีตัดสินใจสร้างทีเฮ้าส์ที่มอบแต่ความสุขสงบแห่งนี้ขึ้นมา
Peace Oriental Teahouse ตอนนี้มีทั้งหมด 4 สาขา สไตล์การตกแต่งหน้าร้านจะมี Mood and Tone ที่ต่างกันไป อย่างสาขาสุขุมวิท 49 เป็นห้องน้ำชาสไตล์ญี่ปุ่น ดูอบอุ่น เหมาะกับกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อนที่มานั่งจิบชายาวๆ ในช่วงค่ำ ต่อมาเป็นสาขา G-Tower พระราม 9 ตึกสำนักงานใจกลางเมือง สะดวกสไตล์ Grab & Go เน้นเครื่องดื่มสำหรับ Take away สาขา King power รางน้ำ ที่ Peace ถูกเชิญให้ไปเปิดในช่วงปลายปี 2017 สาขานี้จะเน้นเป็นลูกค้าต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวจีน และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายใน King power
และสาขาล่าสุด ชิดลม/หลังสวน (ภายในโครงการ Velaa Sindhorn Village) ที่ทางพีซได้เปลี่ยนแนวการตกแต่งมาเป็นแบบตะวันออกดั้งเดิม โดยเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม ด้านหลังบาร์จิบชาที่นอกจากจะได้เห็นการทำงานของทีมาสเตอร์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังมีผนังไม้อันประกอบไปด้วยเก๊ะเล็กๆ เป็นช่องๆ มองแล้วนึกถึงห้องปรุงยาในพระราชวังต้องห้ามของจีนอย่างไรอย่างนั้น ตอกย้ำว่า Peace ไม่ได้เป็นศูนย์รวมเฉพาะชาญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีชาตะวันออกอื่นๆ ให้คุณได้ลิ้มลองอีกหลายชนิด
กว่า 20-30 ชนิดของชาที่ให้คุณได้เลือกสรร ล้วนมั่นใจได้เลยว่าดีทั้งในรสชาติและคุณภาพ เนื่องจากทางร้านนั้นพิถีพิถันทั้งในเรื่องของการหาชา รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ ที่ทางร้านใส่ใจไม่ต่างกัน ในการนำมารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษ ทั้งการหมักน้ำผึ้ง ทำโยเกิร์ต การนวดแป้งโมจิ (ด้วยมือ) และไอศกรีมโฮมเมดที่ไม่ใส่สาร stabilizer หรือสารให้ความคงตัว (จึงทำให้ไม่สามารถ Take Away ไอศกรีมได้)
เมนูแรกที่ลิ้มลองคือ Rose Yoghurt (165 บาท) โยเกิร์ตโฮมเมดสไตล์จีน รสเปรี้ยวสดชื่น ตัดด้วยความหวานหอมจากธรรมชาติของน้ำผึ้ง ที่หมักกับกลีบกุหลาบจากมณฑลยุนนาน ประเทศจีน ตักกินพร้อมกับเก๋ากี้ สมุนไพรจีนมากประโยชน์ที่ถูกนำไปเชื่อมจนหอมหวานอวลไปในทุกคำที่ได้ทาน ชามนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอาหารเช้า เป็นการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสมบูรณ์
ต่อกันกับ Froyu with Mocheezu (245 บาท) ไอศกรีมโยเกิร์ตโฮมเมด ผ่านกระบวนการโดยไม่ได้สัมผัสความร้อนแม้แต่น้อย ทำให้แบคทีเรียที่อุดมไปด้วยประโยชน์ในโยเกิร์ตยังอยู่ครบถ้วน โอบล้อมด้วย Yuzu Honey น้ำผึ้งสีนวลสวยที่หมักกับเปลือกยูสึอย่างพิถีพิถัน จนได้รสเปรี้ยวอมหวานสุดละมุน หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้สีครีม กินกับ Mocheezu โมจินวดด้วยมือเนื้อหนึบหนับ สอดไส้ชีส Age สุดครีมมี่ในแบบฉบับโฮมเมด ที่ใช้เวลาหมักถึง 2 ปี ท็อปด้วยเปลือกส้มยูสึ โรยน้ำตาลและเบิร์นให้หอมฟุ้ง อร่อยสุดๆ ไปเลยกับเมนูนี้
Matcha Extremist (245 บาท) ไอศกรีมสุดฮิตตลอดกาล ไอศกรีมมัตฉะโฮมเมด ที่ถูกปั่นสดใหม่ในทุกๆ เช้า ทำให้ได้รสเข้มข้น หอมกลิ่นชาเขียวเป็นที่สุด (เราชอบมาก) ถูกเคลือบด้วยผงถ่านไม้ไผ่สีดำสนิท มีคุณสมบัติช่วยดูดซับคาเฟอีน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่เกินแก่ความต้องการ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวดำรสหวานมันที่เรารัก
พักจากเมนูเย็นๆ ไปชิม Delicacies (190 บาท) ขนมสไตล์ตะวันสุดอร่อยอย่าง ขนมเปี๊ยะไส้พุทราจีนไข่เค็ม แป้งบางๆ หอมกลิ่นควันเทียน สอดไส้พุทราจีนเนียนละเอียด รสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ตัดกับรสเค็มมันจากไข่เค็มได้อย่างพอดิบพอดี ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วไข่เค็ม ที่เราคุ้นเคย ถูกผ่าครึ่งให้กินได้ง่าย ไส้ถั่วเนื้อเนียนแน่น รสหวานหอม กินพร้อมไข่เค็มลูกใหญ่ และแป้งนุ่มๆ บางเฉียบกำลังดี
ขนมไส้สับปะรด หนึ่งในขนมขึ้นชื่อของประเทศไต้หวัน ถูกนำมาเป็นหนึ่งเมนูของร้าน แป้งนุ่มๆ หอมกรุ่นกลิ่นเนย เอาเข้าปากพร้อมกับสับปะรดที่กวนจนได้รสหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ หอม และสัมผัสหนึบหนับเคี้ยวสนุก ปิดท้ายด้วยขนมเปี๊ยะไส้เผือก ที่สอดไส้เผือกกวนเนื้อเนียน หวานกำลังดี ได้กลิ่นหอมละมุนของเผือกแท้ๆ
ทั้งหมดถูกเสิร์ฟคู่กับชา Single Set (125 บาท) ชาร้อนขนาดกำลังพอดีสำหรับการดื่มคนเดียว ที่คุณสามารถเลือกใบชาได้ตามใจ ในครั้งนี้ทีมาสเตอร์เลือก Roasted Tieguanyin หรือที่ทีเลิฟเวอร์รู้จักกันในชื่อ ทิกวนอิม หรือ กวนอิมเหล็ก ให้เรา เป็นชาอู่หลงเลื่องชื่อจากมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ดื่มง่าย ให้สัมผัสที่เบาบางแต่ก็นุ่มลึก ได้รสหวานเล็กๆ หอมกลิ่นดอกไม้สีขาวอ่อนๆ ดื่มแล้วชุ่มคอ แถมดีต่อสุขภาพ (ช่วยลดคอเลสเตอรอล และเผาผลาญไขมัน)
มาถึงเมนูขวัญใจแฟนคลับชาเขียวกันบ้าง Pastel Matcha (145 บาท) ผงมัตฉะชั้นดี ชงกับนมสด เติมความหวานจากน้ำตาลเล็กน้อยทำให้ได้รสกลมกล่อม และกลิ่นหอมหวาน ตัวชามีความครีมมี่ และเข้มข้น ก่อนเสิร์ฟทางร้านจะใช้วิธี age มัตฉะไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ชาค่อยๆ เผยรสอูมามิออกมาอย่างชัดเจน พร้อมเสิร์ฟในถ้วยมัตฉะดั้งเดิมแช่แข็งจนเย็นเฉียบที่ถูกปั้นด้วยฝีมือจากช่างชาวญี่ปุ่น ทำให้ได้รสสัมผัสแห่งชาเขียวคุณภาพอย่างแท้จริง
ใครชอบกาแฟอย่าลืมสั่ง Snow Pastel Coffee (185 บาท) กาแฟผสมผสานกับไวท์ช็อกโกแลตชั้นเลิศจากประเทศเบลเยียม ปั่นรวมกับน้ำแข็งจนเป็นเกล็ดหิมะ ดูดสนุก ได้รสกลมกล่อม หวานหอมแบบคับแก้ว
มีความสุขเสมอที่ไปเยือน
87 ถนน หลังสวน แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Tag:
, Tea House, Velaa Sindhorn Village, ร้านน้ำชา, หลังสวน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น