Bombyx by Jim Thompson ฉีกแนวร้านอาหารในเครือจิมทอมป์สันทั้งหมดด้วยการแตกแนวคิดใหม่ Art & Cuisine ที่นำอาหารผสมผสานเข้ากับงานศิลปะ ผ่านเรื่องราวของผ้าที่ยังคงความเป็นจิมทอมสันป์อยู่ ส่วนตัวชายจุกเชื่อว่า “ผ้าไหม” เป็นจุดเริ่มต้นของจิมทอมป์สัน พอไปแอบถามมาก็ได้ความว่า “Bombyx Mori” เป็นอีกชื่อหนึ่งของ “ผีเสื้อไหม” ที่เปรียบกับวงจรชีวิตที่หมุนเวียนตลอด กลายเป็นที่มาของร้านอาหารแห่งนี้
ชายว่าถ้าเป็นร้านอาหารเฉยๆ บอมบิกซ์ก็คงเป็นเพียงร้านอาหารแห่งที่ 5 ของจิมฯ เท่านั้น แต่ที่นี่กลับเก๋ด้วยการสร้างเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะของศิลปินชาวไทย ผลงานชิ้นแรกเป็นของศาสตราจารย์เกียรติคุณ อิทธิพล ตั้งโฉลก ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ซึ่งนอกจากจะมีงานจิตรกรรมที่นำมาประดับเหมือนแกลเลอรีแล้ว ยังอาศัยผืนผ้าที่เพนท์ลวดลายคล้ายกัน พลิ้วไหวดูมีมิติสวยงาม ความดีงามคือหน้าตาของร้านจะหมุนเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนชิ้นงานใหม่
อาหารของเชฟไก่-พงษ์ศักดิ์ มิขุนทอง ก็เช่นกันที่ปรับหน้าตาของอาหารให้มีโทนสีสดใสจัดจ้านเหมือนผีเสื้อ ให้กลิ่นอายของอาหารตะวันตกแต่ยังคงรสไทย ซึ่งเชฟออกตัวว่าเน้นรสกลางๆ
เริ่มที่เมี่ยงทูน่ากระทงทอง ใช้แป้งเปาะเปี๊ยะบางกรอบกับทูน่าสดคลุกน้ำเมี่ยงที่ใส่ใบชะพลูให้พอมีกลิ่น ชายว่าติดหวานไปหน่อย แต่ก็มีความเป็นเมี่ยงคำดี กุ้งค็อกเทลกับยำตะไคร้ เชฟปรับจากกุ้งค็อกเทลแบบฝรั่งด้วยการนำเอายำตะไคร้มาเพิ่มความเป็นไทย ฟังดูธรรมดา แต่เชฟเพิ่มรสชาติให้กุ้งด้วยการนำไปลวกกับขึ้นฉ่ายและเครื่องต้มยำให้กุ้งมีรสชาติในตัวเอง ยำกับมะนาว หอมเจียว ตะไคร้ สะระแหน่ และมะพร้าวคั่ว
หลังจาก 2 จานแรกชายแนะนำให้สั่งข้าวสวยร้อนๆ มากินด้วย ปลากะพงย่างซอสเสาวรส ปลากะพงราดด้วยซอสที่ผสมจากเสาวรส น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง เกลือ และพริกไทย ตีออกมาคล้ายมาโยแต่ไม่ใส่ไข่ กินกับยำผักหวาน และแกงปูใบชะคราม ใช้พริกแกงตำเอง เปลี่ยนจากใบชะพลูที่กลิ่นแรงเป็นใบชะครามผสมชะอมสร้างกลิ่นรสใหม่ให้แกงปู ชายชอบวิธีคิดและพริกแกงที่รสจัด แต่ติดที่รสหวานนิดหน่อยที่กวนใจ
จุดเด่นยังอยู่ที่ค็อกเทลที่เข้ามาเพิ่มมิติใหม่ให้จิมทอมป์สัน ชายว่าดีแหละ อาหารไทยกับไวน์ก็ทำมาแล้ว เพิ่มค็อกเทลหน่อยจะเป็นอะไรไป Bombyx Elixer ที่หอมลาเวนเดอร์ ส่วน Cocoon เด่นที่กลิ่นกุหลาบ
ชั้น M สยามพารากอน ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
Tag:
, ค็อกเทล, จิม ทอมป์สัน, อาหารไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น