ได้ยินแค่เชฟร้านนี้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเชฟกากัน อนันต์ (Gaggan Anand) เชฟอันดับ 1 ของเอเชีย และเชฟอันดับ 7 ของโลก ชายจุกไม่รอช้ายกหูโทรหาเชฟการิมา อะโรล่า (Garima Arora) นัดหมายเข้าไปชิมอาหารของเธอ ซึ่ง Gaa ร้านใหม่ที่เธอเป็นเชฟใหญ่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ Gaggan เลย อ้าว ก็คนยังเลิฟๆ กันอยู่นิ
เมื่อไปถึงชายจำได้ว่าเชฟการิมาก็คือเชฟที่เคยมายืนตี Red Matcha ซุปมะเขือเทศที่ชงด้วยเทคนิคชงชาญี่ปุ่นของร้านกากัน แต่ไม่แน่ใจจึงเอ่ยทักเชฟว่า เออ ยูเคยชงซุปมัตฉะแดงให้ไอใช่ไหม คำตอบที่ได้คือ ไอชงให้แขกเยอะแยะ 555 ไอจำไม่ได้จริงๆ เออ จริงของยู
อีกคำถามที่เรายิงใส่เชฟคือ มันจะมีกลิ่นอายของอินเดียไหมก็ยูเป็นคนอินเดีย เธอไม่ได้ตอบตรงๆ แต่อธิบายว่าอาหารของเธอเรียกว่า Local Product Eclectic Flavors ที่นำเอาวัตถุดิบจากภายในประเทศมาปรุงด้วยเทคนิคสมัยใหม่ออกมาเป็นเมนูหน้าตาแปลกใหม่ โดยเชฟการิมาบอกว่าเลือกเอาวัตถุดิบท้องถิ่นจากตลาดทางภาคเหนือ โดยเลือกจากฟาร์มเล็กๆ ทำให้บางครั้งวัตถุดิบก็ไม่เพียงพอ เมนูอาหารของเธอจึงเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบ เธอยังย้ำชัดว่าเธอใส่ทุกอย่างที่มีทั้งประสบการณ์ เทคนิคสมัยใหม่ ฤดูกาล ไอเดีย รวมถึงความเป็นอินเดียลงไปในอาหารกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Eclectic
ด้วยคอนเซ็ปต์แบบนี้ เธอจึงบอกกับชายว่ามีเฉพาะ Tasting Menu ในช่วงนี้มี Small 8 คอร์ส ราคา 1,800 บาท ++ และ Big 12 คอร์ส ราคา 2,400 บาท ++ ชายขอเลือกคอร์สที่ชายชอบมาเล่าให้ฟังแล้วกัน Crisp Cabbage คำนี้เก๋เอาผักกาดไปอบกรอบ สอดไส้ด้วยพริกหวานย่างกับมะระย่าง รสคล้ายน้ำพริกหนุ่มที่ออกเปรี้ยวนำและติดขมเล็กน้อย ชายว่าเปิดต่อมรับรสได้ดีเชียว
Young Corn + Cornmilk ข้าวโพดอ่อนย่าง รสหวานซ่อนรสเผ็ดจางๆ และกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ให้ความรู้สึกเหมือนกินข้าวโพดฝักใหญ่มากกว่าข้าวโพดอ่อน ชายไม่แน่ใจวิธีปรุงแต่รักมาก จิ้มกับน้ำนมข้าวโพดที่เคี่ยวเป็นซอสข้นๆ
Fish Kanom La เป็นไอเดียที่เจ๋งมาก เชฟการิมาเอาไอเดียของขนมลากับทาโก้มารวมกัน ชั้นนอกขนมลาชั้นในทาโก้ สอดไส้เนื้อปลาเก๋าที่ปรุงกับมัสตาร์ด ให้รสเปรี้ยวปนเผ็ด
Grilled Pork Ribs ซี่โครงหมูหมักซอสที่ทำจากมิโสะผสมโคจิก่อนนำไปย่าง มากับทับทิม หอมซอย และต้นหอม กินกับขนมปังอบ ครีมไข่แดงเค็ม พริกดอง ขิงดอง แตงกวาดอง และแครอตดอง ทำให้รสจัดจ้านขึ้น
Soft Serve ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟในเทสติ้งเมนูเป็นอะไรที่เก๋มากและรสชาติล้ำมาก มี 3 รส Jaggery Coriander ซอฟต์เสิร์ฟรสน้ำตาลโตนดอินเดียกับเยลลี่ชาหมักที่หมักถึงสองครั้ง มาพร้อมโคนแป้งสาลีคั่วอบแห้ง Turmeric ซอฟต์เสิร์ฟรสขมิ้นกับโคนงาดำ โรยด้วยดอกคำฝอย และ Bee Wax ซอฟต์เสิร์ฟไขผึ้งกับโคนเกสรผึ้ง ราดน้ำผึ้งป่าและดอกเก๊กฮวยสด หอมหวานเชียว
ปิดท้ายด้วยฟีลที่อินเดียสุดๆ 4 Element of Chocolate ช็อกโกแลตที่ให้เนื้อสัมผัส 4 แบบ ที่ต้องกินตามเข็มนาฬิกา เริ่มที่ 3 โมง Laddu แป้งคั่วพริกและเครื่องเทศเคลือบช็อกโกแลต ให้รสเผ็ดร้อน Rice Bran Cream ครีมรำข้าวอินฟิวส์กับแกลบออร์แกนิก ให้รสครีมมัน Sweet Tamarind มะขามหวานเคลือบช็อกโกแลต ให้รสเปรี้ยวหวาน และใบชะพลูที่เคลือบด้วยผงเฟนเนล ชัตเนย์กุหลาบ คาร์ดามอมแคนดี้ ม้วนกินแบบหมาก ให้กลิ่นของกุหลาบและรสเย็นของคาร์ดามอม ล้างปากหลังมื้ออาหารดีทีเดียว
จบมื้อแล้วแต่คนยังไม่จบ ชายยังคิดข้ามไปถึงเมนูใหม่ที่อดคิดไม่ได้ว่าจะล้ำและเก๋กว่านี้อีกขนาดไหน และคิวจองจะสาหัสแน่นอน ก็ดีจริงๆ
68/4 ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ
09-1419-2424, 06-5229-4422
8 คอร์ส ราคา 1,800 บาท ++ และ 12 คอร์ส ราคา 2,400 บาท ++
Tag:
, วัตถุดิบท้องถิ่น, อาหารอินเดีย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น