ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารสไตล์ไพรเวทไดนิ่งที่มีรสชาติเฉพาะตัวแล้วล่ะก็ อย่าลืมลองแวะเวียนมาที่ ADHOC BKK ร้านน้องใหม่แกะกล่องในบรรยากาศหรูหราแต่ทว่าอบอุ่น จากโต๊ะตัวใหญ่ที่ทำให้เรามองเห็นบรรยากาศข้างในครัวที่พร้อมเสิร์ฟอาหารอาหารไทยในรูปแบบใหม่การันตีฝีมือโดยเชฟแท็ป - ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ที่สั่งสมประสบการณ์การทำงานทั้งจากอังกฤษและออสเตรเลีย จนได้ความอร่อยในสไตล์ตัวเองที่ดีงามทั้งหน้าตาและรสชาติ

ประเดิมมื้อร่อยกันด้วย Amuse Bouche อาหารสองคำเล็ก โดยคำแรกเป็น Rice Berry ที่นำข้าวไรซ์เบอร์รี่มาทำเป็นแป้งแผ่นบางมากินคู่กับซอสกระเทียมและมะนาว โรยด้วยผงปลาเค็มอินทรีย์ ซึ่งจะให้อารมณ์เหมือนเรากำลังกินคะน้าปลาเค็มรสบางๆ หอมๆ แต่เพิ่มรสเปรี้ยวๆ เข้ามาจากเจลเลมอน ส่วนอีกคำมีชื่อว่า Coconut ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากขนมเบื้องขนมสุดโปรดเมื่อวัยเด็ก จนออกมาเป็นขนมแป้งบางตามแบบฝรั่งเศสที่ภายในสอดไส้ด้วยครีมหมักกับโยเกิร์ตจนได้รสสัมผัสนุ่มๆ และดีต่อสุขภาพ ก่อนจะโรยด้วยไส้เค็มซึ่งก็คือมะพร้าวขูดเคลือบด้วยน้ำมันกุ้งและไข่ปลาแซลมอนเพื่อเพิ่มรสเค็มอีกขั้นหนึ่ง

ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Shrimp หรือ “เมี่ยงคำ” แต่เปลี่ยนจากการห่อด้วยใบชะพลูมาเป็นโคนไอศกรีมเพื่อให้กินง่ายขึ้นกรอบขึ้น ส่วนเครื่องเมี่ยงอย่างพริกขี้หนูสด มะนาว หอมแดง ขิง และกุ้งแห้งที่เชฟเปลี่ยนมาใช้กุ้งจากสเปนที่ให้รสหวานกว่ามาอัดแน่นอยู่ในโคน ขณะที่น้ำเมี่ยงคำก็แปลงร่างกลายเป็นไอศกรีมที่ท็อปปิ้งด้วยใบชะพลูชิ้นเล็ก วิธีกินก็ให้ส่งเข้าปากในทีเดียวแล้วเคี้ยว ซึ่งรสชาติขอบอกว่าไม่ต่างแต่หน้าตาอาจไม่คุ้นเคย

แล้วต่อด้วย Tuna ที่ดูเพียงผิวเผินหลายคนคงคิดว่าเป็นทูน่าทาร์ทาร์เมนูยอดฮิต แต่ความจริงแล้วจานตรงหน้าคือ “ลาบเมือง” ความอร่อยจากทางภาคเหนือที่ผสมผสานความอร่อยของปลาทูน่าทั้ง 3 ส่วน ทั้งโอโทโร่ ชูโทโร่ และอากามิ เพื่อให้ได้สัมผัสที่หลากหลายทั้งเนื้อและมันมาคลุกเคล้ากับน้ำมันมะกอก พริกแห้งบดจากทางเหนือ และเจลส้มซ่าที่พอกินด้วยกันแล้วก็ได้ทั้งความครบรสทั้งเค็มและเผ็ด ตามมาด้วยรสเปรี้ยวๆ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากต้นตำรับ

ถัดมาเป็น Taro Uni เมนูสุดเก๋ที่นำเผือกทอดไส้ไข่เค็มลาวามาผสมกับชาร์โคลและหมึกจนภายนอกมีหน้าตาเหมือนกับเปลือกหอยเม่น แล้วมาเสิร์ฟเคียงคู่กับหอยเม่นเนื้อนุ่มจากฮอกไกโด ก่อนตัดรสชาติด้วยบีทรูทดองที่เชฟหมักกับน้ำส้มตำเพื่อตัดรสชาติในจานนี้

ส่วนจานหลักก็เป็น 25 Days Dry-Aged Nakornpanom Wagyu Beef เนื้อวากิวส่วนสันในจากนครพนมนำมาย่างเสิร์ฟพร้อมกับครีมเกาลัดกินคู่กับมะเขือย่างที่ท็อปด้วยน้ำพริกกากหมูที่แฝงความหอมเครื่องเทศกรอบๆ ก่อนจะราดด้วยซอสน้ำตกที่เราขอบอกว่ารสชาติเหมือนกำลังกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อตก แถมยังมีรสเปรี้ยวๆ จากซอสเจลพริกน้ำส้มสีเขียวมาให้อีกด้วย

ส่วนของหวานก็เรียกว่าไม่ทำให้เราผิดหวัง ด้วยเมนู Pumpkin and Coconut หรือฟักทองแกงบวชที่เปลี่ยนชิ้นฟักทองให้กลายเป็นเค้กเนื้อนุ่มเสิร์ฟเข้าคู่กับไอศกรีมกะทิรสเข้มข้นที่หวานมันที่เติมความสดชื่นด้วยกลิ่นและรสชาติของลำไยและตะไคร้

อร่อยยั้งใจไม่อยู่จริงๆ

36/22 ซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมศรี) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

065-143-1111

18.00 -24.00 น. (หยุดวันจันทร์)

3,200 บาท++ (11 คอร์ส)

ADHOCbkk

view google map

Tag: , สุขุมวิท, อาหารไทย, ไฟน์ ไดน์นิ่ง,