เชื่อว่าการมาของ Ginza Thonglor ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งล่าสุดที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของ Hotel Nikko Bangkok น่าจะทำให้เหล่าฟู้ดดี้คึกคักอย่างแท้จริง เมื่อที่นี่ได้มัดรวมร้านอร่อยจากญี่ปุ่นมาให้คนไทยได้สัมผัส เช่นเดียวกับ Tokyo Yakiniku Shoutaian ร้านเนื้อย่างชื่อดังที่มีสาขาในญี่ปุ่นกว่า 9 สาขา ก่อนจะมาเปิดในประเทศไทยเป็นสาขาแรก
ความพิเศษของร้านนี้คงต้องยกให้กับการคัดสรรเนื้อคุโระเกะวากิว (Kuroge Wagyu) หรือเนื้อวัวขนดำพันธุ์ขึ้นชื่อจากเซนได คุมาโมโตะ และฮอกไกโด เกรด A5 มาให้ทำความรู้จักกันอย่างใกล้ชิด ผ่านเนื้อหลากหลายส่วนที่ปรุงและควบคุมการย่างอย่างพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่ถ่านไม้ เตาย่าง และเวลาในการย่าง โดยมีน้องพนักงานมาดูแลความอร่อย ส่วนรายการอาหารจะมีให้เลือกทั้งแบบอะลาคาร์ต เซ็ตลันช์ และโอมากาเสะ ให้เลือกอิ่มตามชอบ แต่เมื่อได้มาเยือนถึงที่ทั้งทีเราเลยไม่พลาดลอง “คอร์สชิโจ ไซเคียว” คอร์สยอดนิยมสำหรับคนรักเนื้อที่รวมความอร่อยตามแบบฉบับโอมากาเสะกับเมนู 12 รายการ (สำหรับ 2 ที่) ที่ทำให้ร้องว้าว!
ประเดิมคำแรกกันด้วย Wagyu Sushi ซูชิเนื้อวากิวคำโตที่อัดแน่นความอร่อยของหอยเม่นจากฮอกไกโด ไข่ปลาแซลมอน จากอาโอโมริ และคาร์เวียร์จากรัสเซีย จนได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลายในคำเดียว แล้วมาเรียกน้ำย่อยกันต่อด้วย Cold Soup หรือซุปเย็นประจำวัน อย่างในวันนี้เราได้ลองซุปข้าวโพดข้นสีเหลืองอ่อนรสหวานละมุนเสิร์ฟในแก้วช็อตใบเล็กให้ยกดื่มแบบรวดเดียวหมด
คำที่สามเป็น Wagyu Dish ออเดิร์ฟก่อนเข้าเมนูย่างที่จะสลับหมุนเวียนกัน คราวนี้เราได้ลองเนื้อวากิวดิบสไลซ์เป็นเส้นบางๆ ปรุงในน้ำซอส คลุกเคล้าไปกับงา ต้นหอม และสาหร่าย ให้เนื้อสัมผัสหนุบหนับรสชาติเค็มๆ มันๆ
ต่อด้วยคำที่สี่และห้าที่มาพร้อมกัน ได้แก่ Premium Wagyu Beef Tongue หรือ “ลิ้นวัวบุปผาย่างเกลือ” เนื้อส่วนโคนลิ้นด้านในหั่นชิ้นหนาบั้งเป็นลาย ก่อนที่ลิ้นวัวจะคลายตัวบานออกคล้ายดอกไม้เมื่อถูกความร้อน ความอร่อยขอยกให้รสสัมผัสนุ่มเด้ง ก่อนกินให้ป้ายวาซาบิเล็กน้อยเพื่อตัดความมัน อีกคำเป็น Chateaubriand Steak หรือสเต็กชาโตว์บริยองต์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งเนื้อ นำมาหั่นชิ้นหนาทว่าพอดีคำ นำมาย่างให้สุกอย่างช้าๆ กินคู่กับเกลือเห็ดทรัฟเฟิลจากอิตาลีส่งกลิ่นหอมกรุ่น
ตามด้วยซิกเนเจอร์เมนูอย่าง Melt in your mouth Hamburg Steak แฮมเบิร์กเนื้อวากิวที่มียอดขายอันดับ 1 ที่ญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยความนุ่มฟูและฉ่ำของเนื้อ อีกทั้งรสเปรี้ยวนิดๆ จากซอสที่หมักก็เข้าคู่กับน้ำซุปรสหวานกลมกล่อมได้อย่างเหมาะเจาะ
หลังจากผ่านครึ่งทางก็เข้าสู่คำที่เจ็ด Choice Two Kinds, Two Pieces Yakiniku ที่ยกความอลังการด้วยการเสิร์ฟโชว์ในหีบสมบัติส่งควันฟุ้ง โดยทางร้านได้เลือกเนื้อ 2 แบบให้เราลอง ได้แก่ เนื้อส่วนสันนอกชิ้นใหญ่มันน้อย และเนื้อส่วนสะโพกสุดนุ่ม ตอนเสิร์ฟน้องพนักงานจะค่อยๆ บรรจงม้วนให้พอดีคำวางเรียงคู่กัน วิธีกินก็ง่ายๆ เพียงแค่จิ้มกับซอสไวน์สูตรลับที่จะช่วยชูรสชาติของเนื้อให้เข้มข้นหอมมัน
มาเปลี่ยนบรรยากาศกับคำที่แปด Steamed Wagyu Beef เนื้อวากิวเกรด A5 ส่วนสันนอกชิ้นใหญ่ลายสวยนึ่งในเข่งใบยักษ์พร้อมกับผักนานาชนิด แล้วลงเสิร์ฟในชามใบเล็กกะทัดรัดพร้อมผักหวานๆ ให้เราค่อยๆ คีบส่งเข้าปากสัมผัสกับความนุ่มละมุน
จากนั้นก็ล้างปากด้วย Soup ซุปใสซอดคล่องคอ ต่อด้วยคำที่สิบอย่าง Sirloin Sukiyaki สุกี้ยากี้เนื้อเซอร์ลอยด์หรือเนื้อสันในส่วนติดมันมาปรุงและเสิร์ฟตามตำรับคันไซ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากสุกี้ที่เราคุ้นเคยกัน เพราะตำรับคันไซจะกินสุกี้ยากี้แบบขลุกขลิก จุดเด่นความอร่อยเลยอยู่ที่การผสมซอสบนเตา ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาล โชยุ และสาเก แล้วจึงค่อยนำเนื้อลงไปปรุงให้ซึบซับน้ำซอสอย่างช้าๆ เมื่อเนื้อสุกก็นำมากินคู่กับไข่ดิบ รสชาติที่ได้จึงมีทั้งความนุ่มหอมเค็มและมันจากเนื้อ ปิดท้ายด้วยความหวานของไข่ดิบ
แต่ความอร่อยยังไม่สุดทาง เพราะยังมี Namerou Beef Ochazuke ข้าวต้มเนื้อสไตล์ญี่ปุ่น ชูโรงด้วยความอร่อยของเนื้อวากิวดิบปรุงรสปั้นเป็นก้อนวางลงบนข้าวสวยญี่ปุ่น ระเบียบวิธีการกินก็แค่ค่อยๆ เทน้ำซุปชาเขียวลงไปบนข้าวหน้าเนื้อจนท่วม เติมรสชาติด้วยสาหร่าย ต้นหอม และวาซาบิ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วลิ้มรสความหอมมันและอุ่นท้อง
แล้วมาปิดท้ายกันด้วย Today’s Dessert ของหวานสุดพิเศษประจำวัน อย่างวันนี้เป็นคากิโกริสตรอว์เบอร์รี่ น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะนมเนื้อนุ่มท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รี่เชื่อมลูกโตที่พกพาความสดชื่น เรียกว่าอิ่มประทับใจกันถึงขีดสุดจริงๆ
ชั้น 3 Hotel Nikko Bangkok ซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
11.30 – 14.00 น. และ 17.00 – 23.00 น.
350 – 1,500 บาท (คอร์สเริ่มต้นที่ 2,700 – 4,200 บาท)
Tag:
, ทองหล่อ, เนื้อวากิว, โอมากาเสะ,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น