พรานกระต่าย ร้านอาหารไทยตำรับโบราณที่นำเสนอได้อย่างโดดเด่นและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศชวนผ่อนคลายในคอนเซ็ปต์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ร่วมด้วยการจัดวางโต๊ะเก้าอี้หลากดีไซน์แต่เข้ากันได้ดีล้อไปกับของสะสมแสนรักของเจ้าของร้านที่ชวนให้นั่งชมได้ไม่รู้เบื่อ แต่ที่เรียกรอยยิ้มได้เกือบตลอดเวลาเห็นจะเป็นเจ้ากระต่ายน้อยแสนซนกิมมิกสุดน่ารักที่มักปรากฏตัวมาบนภาชนะรวมทั้งแอบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ของร้าน ไม่เพียงเป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าชวนรื่นรมย์แห่งนี้แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำปีเกิดของเจ้าของร้านอีกด้วย
เมนูเรียกน้ำย่อยล่าเตียง ของว่างโบราณชิ้นพอดีคำที่พิถีพิถันใส่ใจในการปรุงเป็นพิเศษ เริ่มจากไส้ประยุกต์ใช้หมูสับเป็นหลักคล้ายไส้สาคู (สูตรโบราณใช้หมูสับกับกุ้งผสมกันเนื้อจึงค่อนข้างร่วนมากกว่า) พ่อครัวตำรากผักชี กระเทียม และพริกไทยขาวเข้าด้วยกันตักใส่กระทะผัดพอหอม ตามด้วยหมูสับ ไชโป๊วหวาน ถั่วลิสงบด และน้ำตาลปี๊บ ผัดจนขึ้นเงานำมาห่อในไข่ที่ทำเป็นตารางเตรียมไว้ เสริมรสและกลิ่นหอมด้วยผักชี พริกชี้ฟ้าแดงซอย และสับปะรด ประดับกลีบดอกอัญชันเพิ่มสีสันชวนกิน
ไก่ห่อใบเตย เลือกเนื้อไก่ส่วนสะโพกหมักกับเครื่องเทศ รากผักชี กระเทียม พริกไทย น้ำมันงา และใบเตยนาน 2-3 วันเพื่อให้ซึมเข้าเนื้อเข้าหนัง นำมาห่อในใบเตยสดทอดด้วยไฟอ่อนถึงกลาง เนื้อไก่ทั้งนุ่มและหอม รสชาติเค็ม หวาน และเผ็ดนิดๆ แตะน้ำจิ้มงาอีกหน่อยอร่อยจนหยุดไม่อยู่
แกงส้มตะลิงปลิง เข้มข้นถึงเครื่องด้วยพริกแกงส้มโขลกกับเนื้อปลานิลต้มที่มีเคล็ดลับขจัดกลิ่นคาวด้วยการใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รอจนน้ำเดือดจัดจึงใส่เนื้อปลาและห้ามคน พอเนื้อปลาสุกดีจึงตักขึ้นนำมาแกะเอาแต่เนื้อโขลกรวมกับพริกแกง เน้นปรุงชามต่อชามลูกค้าสั่งถึงจะนำมาละลายน้ำ สมทบด้วยดอกแค ดอกผักปลัง แตงโมอ่อน ทีเด็ดอยู่ที่ตะลิงปลิงต้มจนเปื่อยนุ่ม เสริมรสเปรี้ยวได้แบบพอดิบพอดี
แกงรัญจวน เมนูโบราณหากินยาก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำพริกกะปิสูตรโบราณใส่มะอึกช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ซดน้ำแกงคล่องคอสลับกับเคี้ยวกระดูกหมูแก้วนุ่มๆ กรุบๆ เอาอะไรมาฉุดก็หยุดไม่อยู่
ไก่ฉีกคั่วพริกเกลือ อกไก่ต้มฉีกเป็นเส้นฉ่าในน้ำมันร้อนๆ จนกรอบนอกนุ่มใน ส่วนกระเทียมไทย รากผักชีสับ พริกยักษ์หวาน 3 สี พริกจินดาแดงและเขียว แยกคั่วต่างหากพอส่งกลิ่นหอมก็ได้เวลานำไก่ฉีกมาคั่วรวมกันจนทั่วถึง ลำดับสุดท้ายใส่กระเทียมเจียว กากหมูและต้นหอมหั่นเป็นท่อน เร่งไฟและสะบัดกระทะแรงๆ 2-3 นาทีก็เสร็จสรรพพร้อมเสิร์ฟ รสชาติเค็มมัน กินเปล่าๆ ก็เข้าทีกินกับข้าวก็ยิ่งเจริญอาหาร
ใครมาเดี่ยวอาหารจานเดียวอย่างข้าวคลุกกะปิ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะเจาะโดนใจ ไม่เพียงอิ่มท้องกำลังดี เสน่ห์ของจานนี้ยังอยู่ที่ข้าวผัดค่อนข้างแห้งไร้ความมันส่วนเกิน ปรุงรสชาติเค็มนำได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกะปิคุณภาพ รายล้อมด้วยเครื่องเคียงอย่างหมูหวาน กุนเชียง ไข่เจียว กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาว พริกขี้หนู และมะม่วงซอย เพิ่มระดับความเปรี้ยวด้วยมะนาวอีกหน่อย อร่อยจนไม่อยากวางช้อน
ด้านของหวานก็ชวนลิ้มลองไม่แพ้ของคาวทั้งหน้าตาและรสชาติที่ผ่านการปรุงอย่างละเมียดละไม อาทิ ขนมพระพาย ไส้มะพร้าวหอมหวานเสิร์ฟพร้อมหัวกะทิเข้มข้น ตัดรสได้กลมกล่อมพอดีๆ
ไอศกรีมกล้วยบวชชี นำขนมหวานประจำบ้านอย่างกล้วยบวชชีมาแปลงโฉมใหม่เป็นไอศกรีมเย็นๆ รสชาติหวานมันเหมือนไอศกรีมกะทิที่มีเทกเจอร์ของเนื้อกล้วยนุ่มๆ แทรกตัวอยู่ด้านใน โรยด้วยกล้วยอบกรุบกรอบแทนถั่วลิสงคั่ว
แพนนาคอตตาน้ำแตงโมปลาแห้ง เก๋ไก๋ได้อีกเมื่อทางร้านหยิบวัตถุดิบไทยมาครีเอทสไตล์ตะวันตกในเมนูแพนนาคอตตานุ่มละมุนลิ้นผสานความหวานหอมของน้ำแตงโมสด โรยปลาแห้งป่นละเอียด ตกแต่งด้านบนด้วยเนื้อแตงโมหวานฉ่ำ เทใจให้ในรสชาติและความสร้างสรรค์จริงๆ
สำหรับเครื่องดื่มเย็นฉ่ำแนะนำน้ำมะขามรสหวานอมเปรี้ยว และน้ำใบเตยกลิ่นหอมรสหวานกำลังดี ยิ่งดื่มยิ่งชื่นใจ ยิ่งละลายก็ยิ่งอร่อย
101 ซอย จุฬาฯ 6 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
11.00-14.30 น. และ 17.00-22.00 น. หยุดวันอาทิตย์
Tag:
, อาหารไทยโบราณ,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น