บ้านสุริยาศัย คืออีกหนึ่งร้านอาหารที่คนรักบรรยากาศไทยๆ รวมถึงอาหารไทยต้องเทใจให้รัวๆ ก็เพราะนอกจากบ้านเรือนไทยอายุราว 100 ปีที่แต่เดิมเป็นสมบัติของ “สกุลบุนนาค” ยังคงเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลและวิกตอเรียสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเต็มไปด้วยความประณีตและสวยงามเอาไว้แล้ว ที่ร้านยังชูไอเดียเครื่องดื่มและอาหารไทยตำรับชาววังมากด้วยตำนานให้ทุกคนได้มาชิมกันอีกด้วย
ภายในบริเวณร้านแบ่งเป็น 4 โซนด้วยกัน เริ่มจาก ทีรูม บริเวณชั้น 1 ของตัวบ้าน ทำเป็นโซนคอร์ทยาร์ดให้เรามานั่งจิบชาหอมกรุ่นซึ่งเบลนด์ขึ้นเองเป็นสูตรเฉพาะตัว พร้อมดื่มกาแฟเรียกความสดชื่นและกินขนมไทยโบราณตำรับชาววังและแบบตะวันตก
โซนต่อมาคือส่วนของ ร้านอาหาร เมนูแรกที่เราอยากแนะนำเป็นออร์เดิร์ฟและซิกเนเจอร์ของที่ร้านคือ ขนมเบื้องแย้มโอษฐ์ ดัดแปลงชื่อมาจากขนมเบื้องปากอ้า ตำรับจากสายสกุลพนมวัน แป้งขนมเบื้องบางกรอบ ไส้ทำจากเนื้อกุ้งสับ มันกุ้ง และเนื้อปูทะเลนึ่ง หอมกลิ่นถั่ว มะพร้าว ผักชี และใบมะกรูด กินกับน้ำจิ้มอาจาดรสเปรี้ยวหวานแล้วลงตัวพอดี ตามมาติดๆ ด้วย ปลาร้าทรงเครื่องในผลมะพร้าวเผา หนึ่งในสำรับที่ปรุงถวายพระพุทธเจ้าหลวงในบทประพันธ์เรื่องสี่แผ่นดินของพลตรี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ปลาร้าหอมนวลอ่อนๆ ใส่กระชายและขมิ้นเพิ่มความหอม เสิร์ฟมาในผลมะพร้าวเผาอบควันเทียน พร้อมผักต้มและผักสดนานาชนิด
ส่วน แกงส้มปักษ์ใต้คุณชายถนัดศรี ก็อร่อย สูตรนี้มาจากความบังเอิญที่พนักงานร้านอาหารปักษ์ใต้ทำหมูกรอบตกลงไปในชามแกงส้มของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ พอได้กินแล้วก็เข้ากัน รสชาติแกงส้มกลมกล่อมครบรส เผ็ดกลาง ใส่ไหลบัวให้เคี้ยวเพลินๆ
เมื่ออิ่มอาหารแล้วแนะนำให้เดินข้ามตึกไปไม่กี่ก้าวจะพบกับ Content Bar บาร์ย้อนยุคกึ่งร่วมสมัยที่มีเมนูค็อกเทลไทยจากสุราไทยมากมาย ทั้งยังมีมุมพิพิธภัณฑ์ของแม่โขงที่นำเสนอเรื่องราวของสุราไทยให้เราเดินดูกันเพลินๆ
ภายในนี้ยังมี Cigar Room ห้องซิการ์ที่ออกแบบกึ่ง Open Space ให้เราดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบของบาร์ (เช่น ดูวงดนตรีบนเวทีแบบได้อรรถรสครบถ้วน) ได้ด้วย ส่วนเครื่องดื่มชวนลองก็เช่น ขุนศึก รสชาติโดดเด่นของรัมไทยอย่างแม่โขงไปกันได้ดีกับกระวาน อบเชย กานพลู ขิง ข่า ตะไคร้ และใบโหระพา ส่วนเมนูแบบสาวๆ เราว่าต้องลอง เกสร เพราะใช้ชาผลไม้สีสวยกลิ่นหอมที่เป็นซิกเนเจอร์ของบ้านสุริยาศัยมาผสมกับสุราบางยี่ขันและแม่โขงซึ่งดื่มง่ายดี (แต่ระดับแอลกอฮออล์ก็ใช่ย่อยอยู่นะ) ปิดท้ายกับ ชมพูนุช เครื่องดื่มตามฤดูกาล ที่ใช้ผลไม้หากินยากอย่างชมพู่มะเหมี่ยว รสอมเปรี้ยวอมหวานมาผสมกับสุราบางยี่ขันดื่มแล้วสดชื่นเชียว ส่วนใครอยากต่อแก้วที่ 4 หรือ 5 กระทั่ง 6 ก็พูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ได้เลยว่าชอบเครื่องดื่มสไตล์ไหน แต่ต้องสัญญาก่อนว่าเมาไม่ขับ เรียกแท็กซี่กลับเด้อ
โซนสุดท้ายเป็น สตูดิโอสอนทำอาหารไทย ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่หลงใหลอาหารไทยได้เรียนทำอาหารไทยสูตรโฮมคุกที่สามารถทำกินเองได้ที่บ้านกับเชฟที่มีประสบการณ์เต็มเปี่ยมแบบตัวต่อตัว
เอาเป็นว่าใครมีเวลาว่าง 1 วันก็สามารถมาอิ่มท้องพร้อมอิ่มใจได้ที่บ้านสุริยาศัยกันอย่างเพลิดเพลิน
174 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
12.00-14.30 น. และ 18.00-22.00 น.
Tag:
, สุรวงศ์, อาหารไทยโบราณ,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น