เมื่อก้าวเข้ามาบนชั้น 56 ของวอลดอร์ฟ แอสโทเรียโรงแรมใหม่สุดหรูบนถนนราชดำริ ก็รู้สึกตื่นตะลึงกับวิวเมืองหลวงอันงดงาม รวมทั้งบรรยากาศของบาร์ตกแต่งสไตล์อาร์ตนูโวสวยงาม มีโต๊ะทำงานเปื้อนสี ภู่กัน หลอดสีและจานสี เหมือนห้องทำงานของศิลปิน
“เดอะลอฟท์” ได้แนวคิดจากวอลดอร์ฟบาร์ในนิวยอร์ค เครื่องดื่มได้แรงบันดาลใจจาก “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย บาร์บุ๊ค” สมุดบันทึกค็อกเทลยอดนิยมของบาร์มาตั้งแต่ปี 2478 ที่นี่จึงมีทั้งซิกเนอเจอร์ค็อกเทลที่ห้ามพลาด และคลาสสิคค็อกเทลซึ่งเติมความทันสมัยให้รสชาติด้วยการใช้ส่วนผสมโฮมเมด โดยหัวหน้าบาร์เทนเดอร์รูปหล่อฝีมือดี “มิเคอเล มอนทัวติ”
สำหรับคอค็อกเทลต้องลอง Waldorf ซิกเนเจอร์ค็อกเทลสูตรจากนิวยอร์ค ใช้เหล้าหลายชนิดทั้งเบอร์เบิร์น สวีทเวอร์มุท และวิสกี้อินฟิวส์กับเบซิล ใส่เมเปิ้ลไซรัป และช็อกโกแลตให้กลิ่นหอมน่าดื่ม หากชอบจิบแบบสดชื่นให้สั่ง Whiskey Smash ที่ใช้วิสกี้กับใบมิ้นท์ หอมกลิ่นส้มแทงเจอรีน และมะนาว
หากชอบกลิ่นสดชื่นของสับปะรดต้องสั่ง Waldorf Claret Cup ที่มีทั้งคอนยัค ไวน์ และน้ำมะนาวสดชื่น และอีกแก้วคือ Mamie Taylor ที่มีส่วนผสมของสก็อตวิสกี้ เวอร์มุท บิทเทอร์ จิงเจอร์เอลและไข่ขาวเป็นโฟมนุ่มๆ
ส่วนอาหารเน้นที่กินง่ายเหมาะกับเครื่องดื่ม อย่างเช่น Charcuterie โคลคัทคุณภาพดีจัดเรียงสวยงามเสิร์ฟมาบนถาด มีเป็ดตุ๋นจนนุ่มฉีกเป็นเส้น และฟัวกราส์ปาเต้เนื้อเนียน รสเข้มข้นเข้าคู่กับเครื่องดื่มได้ดี
Beef Tartar ทาร์ทาร์เนื้อสับปรุงรสอร่อย ท๊อปด้วยไข่แดงนกกระทาเพิ่มความมัน และตัดรสด้วยเคเปอร์ ส่วนสาวๆ ควรสั่ง Tiger Prawn Cocktail ใช้กุ้งไซส์จัมโบ้ตัวใหญ่เนื้อหวานเด้ง เสิร์ฟในแก้วทรงสูงกับอโวคาโดและผักสลัด ราดซอสค็อกเทลรสเปรี้ยวอมหวาน
สุดท้ายคือ Jumbo Crab Cake แครปเค้กเนื้อปูก้อนใหญ่ ทอดมาได้กรอบนอกนุ่มใน ปรุงรสกำลังดี ได้กลิ่นหอมและรสหวานของเนื้อปูเต็มๆ คำ
จิบเครื่องดื่มแกล้มกับอาหารและบรรยากาศดีๆ เห็นทีวันศุกร์นี้ต้องฉลอง
โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ 151 ถนนราชดำริ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ
Tag:
, ค็อกเทล, บาร์, ราชดำริ,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น