ถ้าหากให้นิยามความเป็น “OCKEN” ในแบบของเชฟจอห์นนี่ ลูย์ (Johnny Liu.) Head chef และคุณเต้-วรัตต์ วิจิตรวาทการ ผู้ก่อตั้ง OCKEN แล้วล่ะก็ ต้องบอกว่านี่คือร้านอาหารที่ทั้ง 2 คนตั้งใจนำประสบการณ์จากการเดินทางรวมถึงฟื้นคืนอาหารสุดประทับใจในความทรงจำมานำเสนอในรูปแบบคอมฟอร์ดฟู้ดกึ่งไฟน์ ไดน์นิงโดยปราศจากสัญชาติเป็นตัวกำหนด
มาที่นี่เราจะได้เรียนรู้มุมมองการสร้างสรรค์เมนูไร้ข้อจำกัดซึ่งสนุกและน่าสนใจเพราะผ่านการผสมผสานวัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ และรสชาติจากหลากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกันไว้ใน 1 จาน นอกจากหน้าตาอาหารจะชวนหิวขั้นสุดแล้ว ในเรื่องรสชาติเราต้องบันทึกไว้เลยว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง (จริงๆ นะ!)
ภายในร้านแบ่งสัดส่วนปรุงอาหารแบบโอเพ่นคิทเช่นดึงความสนใจเราไว้ด้วยโซนแรกคือ ครัวร้อน มีเคาน์เตอร์ขนาดย่อมให้เรานั่งดูเชฟปรุงอาหารด้วยความตั้งใจกันเพลินๆ อีกมุมเป็นบาร์เครื่องดื่ม จัดเต็มทั้งค็อกเทล ม็อกเทล ไวน์ เบียร์ ฯลฯ หรือน้ำดื่มที่ทางร้านทำขึ้นเอง (House Water - Still and Sparkling) เสิร์ฟเย็นเจี๊ยบในขวดแก้วเพื่อลดการใช้พลาสติก และโซนสุดท้ายเป็นมุมอบขนมปังและทำของหวาน เราจะได้กลิ่นหอมๆ ชวนหิวก็ตรงนี้
ในส่วนอาหารด้วยความที่เชฟจอห์นนี่ ลูย์ทำงานในรัฐแคลิฟอร์เนียมานาน คาแรกเตอร์เมนูเลยเจือกลิ่นอายเวสเทิร์น โมเดิร์น ผสานกลิ่นหอมๆ จากเฮิร์บหน่อยๆ ตามความถนัดของเชฟ โดยเมนูที่ร้านจะแบ่งเป็น One Two Three Four Five จัดเป็นไกด์ไลน์ให้เราดูว่าเมนูไหนเหมาะกินก่อนหรือหลัง แต่ไม่บังคับว่าต้องสั่งให้ครบคอร์สนะ อยากลองเมนูไหนก็เลือกได้ตามชอบ แต่เราแนะนำว่าก่อนอื่นอย่าลืมบิขนมปัง “Sourdough” เนื้อนุ่มเปลือกแข็ง รสชาติติดเปรี้ยวเล็กน้อยกับ “Honey Better Milk Roll” ขนมปังเนื้อนุ่มแน่น ได้กลิ่นน้ำผึ้งหอมอวลในปาก เสิร์ฟมาอุ่นๆ ให้เรารองท้องก่อนอาหารมาเคี้ยวตุ้ยๆ สักหน่อย ขนมปังอบใหม่ทุกชั่วโมง ทาเนยเนื้อนวลเนียนที่หมักด้วยโยเกิร์ตเพิ่มรสเปรี้ยวเล็กน้อยรับรองว่าอร่อยลงตัวเชียว
จากนั้นเตรียมท้องให้พร้อม! เริ่มต้นจานแรกกันที่ Mini Cubano แซนวิชสไตล์คิวบาขนาดพอดีคำ สอดไส้หมูสไลด์ชุ่มฉ่ำและชีสกรูว์แยร์หอมนวล เราชอบความเผ็ดฉุนนิดๆ จากซอส Mojo Aioli ที่มีส่วนผสมของพริกฮาลาเปโย (Jalapeno) และ Mustard ซึ่งดึงมาตัดรสกัน
Ocken Salad เป็นจานที่ตามมาติดๆ กินแล้วสดชื่น เพิ่มพลัง ความกลมกล่อมทั้งมวลได้จากกีวี่และลูกแพรจีนฉ่ำหวาน เข้ากันกับแอลมอนด์เคี้ยวกรุบกรอบและชีส Burrata หอมมัน ขาดไม่ได้คือ Watercress และ Rosemary กินรวมกันแล้วสมบูรณ์ที่สุด แถมใครที่เป็น Vegetarian ก็อิ่มท้องได้แบบสบายใจด้วยนะ
มาสู่จานหลักกันบ้าง เราลองเมนู Cold Cappellini เส้นคาเปลินีเสิร์ฟแบบเย็นสไตล์เอเชีย ชูรสด้วยน้ำซุปจากมะเขือเทศ 1 กิโลกรัม (ต่อ 1 เสิร์ฟ!) คั้นจนได้น้ำสีใสรสเข้มข้น ไปกันได้ดีกับซอสซูกินีกลิ่นหอม กินพร้อมชีส Burrata และ Prosciutto เค็มมันกรุบกรอบสไตล์อิตาเลียน เป็นอีกจานที่กินแล้วชื่นใจไม่แพ้เมนูไหนๆ
ส่วนใครที่ชื่นชอบกลิ่นเครื่องเทศและสุนไพรหอมๆ ห้ามพลาด! Piri piri Chicken ไก่เนื้อนุ่ม หนังกรอบ เจือรสเผ็ดนิดๆ ที่ได้จากการหมักซอส piri piri สูตรโฮมเมดและเครื่องเทศนานาชนิดนานถึง 3 วัน เสิร์ฟพร้อมซอส 2 สีได้รสมะเขือเทศและพริก jalapeño กินคู่กับผักชี เราว่าช่วยเสริมกลิ่นหอมและรสชาติได้แบบพอดิบพอดี
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับของหวานชื่อเก๋ Sathon Mess เค้กช็อกโกแลตและเค้กชาเชียวรสเข้มแน่น เพิ่มความสดชื่นด้วยไอศกรีมชาเขียว ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี และสตรอว์เบอร์รีสดหวานฉ่ำ ตัดรสเปรี้ยวด้วยใบ Sorrel เล็กน้อย
ก่อนกลับเราอยากให้ลองม็อกเทล Yuzu kiwi iced tea ชาดาร์จีลิ่งมิกซ์กับกีวีรสอมเปรี้ยว น้ำผึ้งหวานหอม และน้ำส้มยูสุ ส่วนสายดื่มก็มี Salty pineapple แนะนำ ค็อกเทลสีแดงใสได้รสขมจาก Campari หอมหวาน Dark Rum ตัดรสด้วย Sea Salt พร้อมดึงสับปะรดมาเพิ่มความสดชื่น
จิบเครื่องดื่มไปนั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนไปอีกสักหน่อย รับรองว่าเปลี่ยนใจอยากอยู่ต่อยาวๆ ก็คราวนี้ (ฮา)
ชั้น 1 อาคาร Bhiraj Tower ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น. (หยุดวันจันทร์)
Tag:
, คอมฟอร์ดฟู้ด, บาร์, สาทร, ไฟน์ ไดน์นิ่ง,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น