เอาล่ะ เลิกเถียงกันว่าโรมแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ปิดหรือยังไม่ปิดกันก่อน เพราะเรามาคอนเฟิร์มตรงนี้ว่า โรงแรมดุสิธานี กรุงเทพฯ จะเปิดให้บริการตามปกติไปจนถึงเดือนมกราคม 2562 และที่สำคัญ จากนี้ทุกเดือนจะมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ทยอยเปิดตัวให้ลูกค้าทั้งขาประจำและไม่ประจำได้มาใช้บริการกันอีกด้วย
อย่างที่ ห้องอาหารเบญจรงค์ และเทอร์เรส ได้แปลงโฉมเป็นบุฟเฟต์สุดพรีเมี่ยมทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ในคอนเซ็ปต์ “Beyond Boundaries” เพียงบรรยากาศก็ต่างจากบุฟเฟต์ที่อื่น ด้วยจำนวนโต๊ะไม่มาก ทำให้ไม่พลุกพล่าน ไม่ต้องรออาหารจนลืม และวิวสวยๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีกับกระจกใสบานใหญ่ที่เปิดให้เห็นลานน้ำตก และ Live Band ขับกล่อมเพลงเพราะๆ แถมยังไม่ต้องเร่งรีบเพราะเปิดให้บริการยาวไปถึง 17.00น. เรียกว่าเป็นบรรยากาศบุฟเฟต์ที่ชิล สโลว์ไลฟ์ และผ่อนคลายอย่างแท้จริง
ด้านไลน์อาหารต้องบอกว่า “พรีเมียม” จริง ไม่ได้ใส่มาลอยๆ เริ่มด้วย Amuse Bouche (อามูซ บุช) หรือจานเรียกน้ำย่อยที่ใหญ่ที่สุดที่เราเคยเห็น เป็นแซลมอนสดวางบนหินร้อนครอบด้วยฝาแก้ว ซึ่งสามารถเลือกระดับความสุกได้ ถ้าชอบแบบกึ่งสุกก็เปิดฝาเร็ว ถ้าชอบสุกมากก็เปิดช้าหน่อย ต่อด้วย Seafood On Ice ที่ต้อนรับเราด้วยล็อบสเตอร์ทั้งตัว กุ้ง กั้ง กรรเชียงปู และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กับน้ำจิ้มหลากหลายรวมทั้งน้ำจิ้มซีฟู้ดสไตล์ไทยๆ ที่ขาดไมได้
ต่อมามุมอาหารเรียกน้ำย่อยที่มีทั้งมุมหอยนางรม ซึ่งเชฟจะแกะเสิร์ฟกันสดๆ มีหอยนางรม 3 สายพันธุ์ทั้งไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย เลือกซอสได้ทั้งแบบไทยแบบเทศ มุมซูชิและซาชิมิ ที่ใช้เนื้อปลาชั้นดี ไม่ผ่านการแช่แข็ง ทั้งอาคามิ ฮามาจิ แซลมอน ชิมะอาจิ หมึกยักษ์ อูนิ หรือจะให้เชฟทำเป็นโรลต่างๆ ก็ได้ ตามด้วยมุมสลัดผักออร์แกนิคสำหรับคนรักสุขภาพ และของว่างจานร้อนอย่างแฮมอบ และแซลมอนอบ
ไฮไลท์ของเราอยู่ที่มุมกริลล์ที่เราจะได้ออกไปเลือกวัตถุดิบสดๆ บริเวณเทอร์เรส มีทั้งกุ้งแม่น้ำ หอยเชลล์สดจากสกอตแลนด์ หอยเรเซอร์แคลม หอยแมลงภู่ หมึก ปลาคอด ปลาแซลมอน ปลากะพง ปลาทูน่า ซึ่งเลือกแล้วก็มานั่งรอชิลๆ ที่โต๊ะได้เลย
จานหลักก็ชวนให้ว้าวมาก เพราะเราสามารถเลือกสั่ง “ชุดติ่มซำ” จากห้องอาหารจีนในตำนาน May Flower มาทานที่นี่ได้ด้วย ส่วนจานหลักอื่นๆ Executive Chef ฟิลลิปส์ เคลเลอร์ ก็คัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตับเป็ดย่างเสิร์ฟกับชัตนีย์มะเดื่อ (Pan-fried Duck Liver with Fig Chutney and Raisin sauce) เสิร์ฟมา 2 ชิ้นใหญ่ๆ หรือ ซี่โครงแกะนิวซีแลนด์ย่าง (Pan-fried New Zealand Rack of Lamb with Mustard sides) หรือ สเต็กเนื้อยูเอสริบอายซอสไวน์แดง (US Rib Eye with Red Wine sauce) หรือ ล็อบสเตอร์ เทอร์มิดอร์ (Oven-baked Lobster Thermidor) สำหรับจานอาหารไทยก็มีให้เลือก อาทิ กุ้งแม่น้ำทอดซอสกระเทียมพริกไทย แกงเผ็ดเป็ดย่าง และแกงเขียวหวานเนื้อชอร์ตริบส์สโลว์คุกตำรับเบญจรงค์
ขยับมาที่ไลน์ขนมหวานกันดีกว่า ก่อนที่จะต้องกลิ้งไป เพราะมีห้องพิเศษเฉพาะสำหรับไลน์นี้เลยทีเดียว ซึ่งเต็มไปด้วยขนมหวานนานาชนิดทั้งเค้ก แชมเปญเจลลี่ ทาร์ตสตรอว์เบอร์รี ทีรามิสุชาเขียว ฯลฯ และมีขนมไทยด้วยนะ อย่างข้าวเหนียวมะม่วง ขนมใส่ไส้ ลูกชุบ ตะโก้ ฯลฯ และถ้าใครยังไหว ก็สามารถปิดท้ายด้วยชีสบอร์ดกับชาหรือกาแฟร้อนๆ สักถ้วยหนึ่ง และถ้าคุณนั่งยาวไปจนถึง 17.00 น. แล้วล่ะก็ จะได้รับเครื่องดื่มฟรี 1 ดริงก์พร้อมคานาเป้ให้นั่งชิลต่อไปได้อีกจนถึง 19.00น. กันเลย
ด้วยเมนูอาหารและบริการระดับนี้ ราคาก็จัดว่าสมเหตุสมผล อยู่ที่ 2,900++ เสิร์ฟกับซอฟต์ดริงก์และน้ำผลไม้ และขยับมาที่ 3,600++ บาท โดยสามารถสั่งเบียร์ ไวน์ และสปาร์คลิ่งไวน์เพิ่มได้ และที่ 4,900++ บาท จะสามารถเลือกเครื่องดื่มทั้งหมด รวมทั้ง Taittinger Champagne ได้ แน่นอนว่าฟรีโฟลว์
มาอิ่มอร่อยแบบสโลว์ไลฟ์ Beyond Boundaries กันได้ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.30 – 17.00น. ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ “The Triple Double” มา 3 ท่าน จ่ายเพียง 2 ท่าน ถึง 31 กรกฎาคม 2561 นี้
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
Tag:
, ซีฟู้ดออนไอซ์, บุฟเฟ่ต์,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น