เราได้ยินกันมานานเรื่องอาหาร Modern Australian Cuisine ก่อนมาพบกับเชฟดัลลาส คัดดี้ (Dallas Cuddy) เชฟชาวออสเตรเลียของ Freebird ซึ่งยอมรับถึงการผสมผสานเอาวัฒนธรรมของอาหารจากหลากหลายชาติเข้าด้วยกันจนกลายเป็นอาหารออสเตรเลียนสมัยใหม่ เชฟยังบอกด้วยว่าเมลเบิร์นคือเมืองที่เด่นในเรื่องนี้
ฟรีเบิร์ดอยากให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ทางอาหารอย่างเต็มทุกประสาทสัมผัส จึงดีไซน์เรื่องแสงไฟทั้งร้านให้สลัว แต่ให้แสงไฟของครัวเปิดส่องสว่างโดดเด่น ทำให้ทุกคนจับจ้องมาที่การปรุงอาหารของบรรดาเชฟ แน่นอนว่ากลิ่นหอมและเสียงภายในครัวก็เร่งเร้าน้ำย่อยในกระเพาะเช่นกัน
เชฟเล่าให้ฟังถึงการนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้เพื่อคงความสด รวมถึงขอให้ฟาร์มแถวปากน้ำช่วยทดลองปลูกผักบางชนิดให้ ช่วงนี้อยู่ในระหว่างทดลองปลูกคิฟเฟอร์ไลม์ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นิยมใช้ในออสเตรเลีย เชฟแนะนำว่าให้ลอง A Taste of Freebird เทสติงเมนูของร้านที่เสิร์ฟประมาณ 10 จาน เชฟบอกว่าจะทำให้เข้าใจอาหารแนวนี้ได้เลย
จากประสบการณ์การทำงานในร้านอาหาร Nobu ที่ลอนดอน ทำให้เชฟดัลลาสคุ้นเคยกับการนำเอาวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมาใช้ในอาหารของเขาได้อย่างดีในแบบอีสต์มีตเวสต์ อย่างจานแรก Organic Sea Urchin ก็ให้รสของอุมามิมาเต็มคำ รสครีมมี่ของหอยเม่นกับครีมพาร์เมซาน ตัดด้วยรสเค็มนัวของสาหร่ายพวงองุ่น และความกรุบกรอบของแครกเกอร์เมล็ดแฟลกซ์
ตามด้วย Shaved Squid ปลาหมึกสดหั่นเป็นเส้นคล้ายพาสตานำไปซูสวิดให้เนื้อสัมผัสแน่นขึ้น มาพร้อมยูซุชิลลีเพลส ครีมหอยนางรม แตงกวาดอง และเนยสาหร่าย ให้กลิ่นรสของทะเลและความหอมของส้มยูซุ เราแนะนำให้ดื่ม Tokyo Drifter ค็อกเทลที่ให้กลิ่นรสของงาและส้มญี่ปุ่น
ส่วนจานหลักเป็น Slow Cooked Kurobuta Pork Collar สันคอหมูซูสวิดกับน้ำเกลือจนนุ่ม กินกับพิสตาชิโอมันๆ ดอกขจรผัด เฟนเนลย่าง และซอสจากน้ำที่ปรุงหมู
แนะนำให้กินคู่กับค็อกเทลอย่าง Lavender Collins รสเปรี้ยวหวานและหอมด้วยดอกไม้
ปิดท้ายที่ของหวาน Blackberry Ice Cream ไอศกรีมแบล็กเบอร์รี เมอแรงก์แบล็กเบอร์รี แบล็กเบอร์รีพูเร ครีมวานิลลา และบักวีตครัมเบิล ซึ่งช่วยล้างปากหลังมื้ออาหารได้ดีทีเดียว
28 ถนนสุขุมวิท ซอย 47 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
Tag:
, ค็อกเทล, อาหารออสเตรเลียน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น