Baan Phadthai เริ่มต้นจากคุณเฟรด เมเยอร์ (Fred Meyer) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Issaya, Namsaah, Kombawa และ Pizza Massilia อยากมีร้านอาหารที่ราคาไม่สูงเหมือนที่เคยทำมา และต้องเป็นอาหารไทยที่ใครๆ ก็นึกถึง จนลงตัวที่ “ผัดไทย” ซึ่งประจวบเหมาะกับกระแสของผัดไทยที่ทางการท่องเที่ยวนำมาโปรโมตพอดี
หลังจากตกลงใจกันก็ได้คุณอดิศร์ หวันโช๊ะ นี่แหละเป็นคนตระเวนหาโลเกชัน จนมาได้บ้านเก่าอายุกว่า 80 ปี ซอยเดียวกันกับตลาดบางรักและศาลาโฟร์โมสต์ในอดีต ซึ่งเรียกว่าเป็นใจกลางย่านของกินอร่อยในอดีต เลือกใช้โทนสีฟ้าของแบรนด์อิสยา โดยขนเอาบานเฟี้ยม โต๊ะ เก้าอี้ หน้าต่าง และประตูไม้เก่าจากอยุธยามาตกแต่งเป็นร้าน สำหรับสูตรของผัดไทยได้เชฟอ้อม เชฟใหญ่ของอิสยามาหาสูตรที่ลงตัว โดยใช้วัตถุดิบถึง 18 ชนิดในน้ำซอสผัดไทยซึ่งเป็นความลับ ให้รสชาติเฉพาะของตัวเองที่ไม่หวาน
นอกจากผัดไทยเชฟอ้อมยังทำอาหารไทยกินเล่นไว้อีกหลายจาน เช่น เมี่ยงคะน้า ใบคะน้าสดๆ มาพร้อมไก่รวน แคบหมู พริก ขิง ถั่ว มะนาว หอมแดง และน้ำมะขาม
ยำหมูย่าง รสจัดจ้านดี และที่แต่งมาจนสวยงามเลยเป็นไก่ทอด ครอบด้วยสุ่ม ทอดมาหอมๆ กับตะไคร้ กระเทียม และใบมะกรูด กินกับน้ำจิ้มไก่โฮมเมด
ส่วนผัดไทยมีทั้งหมด 5 เมนู ต่างกันที่ซอสและเครื่องบนหน้าผัดไทย ใช้เส้นจันท์ที่เข้ากับน้ำซอสมาผัด รสชาติไม่หวาน หอมมะขามเปียกและกุ้งแห้งที่บดผสมในน้ำซอส (เราแกะสูตรมาได้ 2 ชนิด อีก 16 ชนิดก็พยายามกันต่อไป) แน่นอนว่ารสหวานไม่ใช่รสหลักของผัดไทย ภายในถาดสังกะสีรองใบตองจึงมีเพียงถั่ว พริกคั่ว และมะนาวเท่านั้น
เราถูกใจกับผัดไทยไก่ย่าง ด้วยความนุ่มและหอมไหม้ของไก่ย่าง
แต่ที่ฟินที่สุดคงหนีไม่พ้นผัดไทยปู ใส่มันปูและเนื้อปูลงผัดด้วย ทำให้เส้นมีรสชาติต่างจากผัดไทยจานอื่น
และสำหรับคนชอบมันของหัวกุ้งต้องผัดไทยกุ้งแม่น้ำย่างคือคำตอบ
ส่วนของหวานได้เชฟเปเปอร์ เชฟของหวานของอิสยามาช่วย อาทิ บัวลอยเผือก ใส่มะพร้าวและน้ำกะทิอัญชันอบควันเทียน
ทับทิมกรอบที่มาในหม้ออวยพร้อมมะพร้าวอ่อนและน้ำกะทิ
แต่ที่เด็ดสุดเป็นซาลาเปาอบไส้ทุเรียน นอกจากหน้าตาจะน่ารักแล้ว รสชาติยังไม่ต่างจากกินทุเรียน เพียงแต่มีแป้งแถมมา
21-23 ถนนเจริญกรุง ซอย 44 เขตบางรัก กรุงเทพฯ
0-2060-5553-4, 06-3370-0220
Tag:
, ขนมหวาน, ผัดไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น