หากใครคุ้นเคยกับบรรยากาศความอร่อยภายใต้โรงนาที่มีแสงไฟเหลืองสลัวแล้วล่ะก็ ตอนนี้เตรียมพบกับความอร่อยใหม่และแสงสดใสในช่วงกลางวันกันได้แล้ว
แม้จะไม่ใช่เมนูดินเนอร์ แต่จุดเด่นของ Seed ก็ยังคงมีอยู่อย่างครบถ้วนเต็มเปี่ยม เมื่ออาหารทุกจานล้วนคิดค้นขึ้นมาด้วยความใส่ใจจากการผสมผสานรสชาติตามตำรับเอเชียนที่ใครหลายคนกำลังคิดถึง ไม่ต่างกับวัตถุดิบที่พยายามคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดและทำเองแทบทั้งหมด โดยได้เชฟจาว-ภคปัทม์ ศักดิ์ยโศ มือขวาของเชฟไฮเคิล โจฮาริ จาก Water Library มาแสดงฝีไม้ลายมืออย่างเต็มตัว จนออกมาเป็นอาหารกินง่าย หน้าตาดี และมีประโยชน์ให้ได้ลองลิ้มชิมได้ทั้งวัน
เริ่มกันด้วย Jao's Granola กราโนล่าสูตรโฮมเมดของเชฟจาว เนื้อเหนียวนิดๆ เคี้ยวกรุบๆ จากส่วนผสมของข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ ข้าวไรย์ แครนเบอร์รี และลูดเกด กินกับกรีกโยเกิร์ตรสเข้มข้น เติมรสด้วยน้ำผึ้งและผิวส้มเล็กน้อยพอหอมชื่นใจ
ต่อด้วย Anytime Egg เมนูไข่กินได้ตลอดวันสมชื่อ ความเก๋ของเมนูนี้อยู่ที่การดัดแปลง Egg Benedict สุดฮิตให้มาอยู่ในถ้วยใบย่อมที่อัดแน่นไปด้วยความหอมหวานของครีมถั่วลันเตา มันฝรั่ง เห็ดหอม เบคอนรมควัน โดยมีไข่ฟูและซอสฮอลลันเดสปิดผนึกเอาไว้ วิธีกินก็ให้ใช้ขนมปังซาวร์โดจิ้มและตักขึ้นมาอย่างช้าๆ อ้าปากกันโตๆ
แล้วมาอิ่มเต็มคำกับ Crispy - Skin Chicken สะโพกไก่ชิ้นใหญ่หนังกรอบเนื้อนุ่มในที่ผ่านการหมักในน้ำพริกเผาและซอสฮอยซินให้กลิ่นหอมละมุน ก่อนราดด้วยซอสลูกพรุนและลูกเกด เสิร์ฟพร้อมฟักทองบดและมันฝรั่ง
แล้วห้ามพลาดกับ Ma Prao Pancake แพนเค้กมะพร้าวอ่อนที่ใช้เทคนิคพิเศษจนได้เนื้อแป้งฟูนุ่มให้อารมณ์เหมือนขนมถังแตก พร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อนชิ้นเล็กชิ้นน้อยเคี้ยวหนุบหนับ แถมยังเย็นชื่นใจกับซอร์เบต์มะพร้าว...
พ่วงด้วยความหวานของคาราเมลสีเหลืองทองที่ไม่ว่าใครก็ยั้งใจไม่อยู่
104 ซอยพร้อมจิต ถนนสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
11.00-24.00 น. (หยุดวันจันทร์)
Tag:
, กราโนล่า, อาหารฟิวชั่น, แพนเค้ก,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น