เรียกว่าผสมผสานความอร่อยระดับคุณภาพสไตล์โอชา (Osha) เข้ากับบรรยากาศสบายๆ ในแบบคาเฟ่ได้อย่างลงตัวสำหรับ “Osha Café” คาเฟ่กึ่งร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์ได้อย่างเก๋ไก๋ ด้วยการหยิบเอกลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ ภาพวาดชฎา (สัญลักษณ์ของโอชา) มาแมตช์กับเฟอร์นิเจอร์สีพาสเทลที่เข้ากันได้ดีกับเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มสีทองหรูหรากลางร้าน ส่วนกลาสเฮาส์สไตล์มินิมัลอีกฝั่งยังออกแบบให้เป็น Osha Cooking Studio สตูดิโอสอนทำอาหารไทยที่มีคลาสน่าสนใจสำหรับคนรักอาหารไทยอีกด้วย
สำหรับเมนูเด่นของที่นี่ดูแลโดย “เชฟปู - ปูริดา ธีระพงษ์” คอร์ปอเรท เชฟ บริษัท บางกอก รอยัล ไทย คูซีน จำกัด ที่ตั้งใจนำเสนออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ยังคงรสชาติต้นตำรับ แต่เสิร์ฟในรูปแบบแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะการหยิบเมนูสตรีทฟู้ดและอาหารไทยดั้งเดิมทั้ง 4 ภาคมาตีความใหม่
เราแนะนำให้เริ่มจากเมนูกินเล่นอย่างโอชาปูจ๋า เมนูยอดนิยมที่หยิบเนื้อปูมาห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอดกรอบ กินคู่กับน้ำจิ้มรสเปรี้ยวหวานหอมส้มซ่า ใครชอบเคี้ยวต้องลองปลาหมึกทอดน้ำปลา ทอดกรอบนอกนุ่มใน กินกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด อร่อยเพลินมาก
สำหรับสาวๆ คงถูกใจยำส้มโอไก่ฉีก จานนี้ทีเด็ดอยู่ที่ส้มโอที่เชฟรับรองว่าไม่หวานไม่นำมาใช้แน่นอน และน้ำพริกขิงปลาฟู รสชาติหวานเผ็ดกำลังดี เสิร์ฟพร้อมปลาฟูและผักนานาชนิด
ใครหิวเต็มที่ต้องสั่งจานนี้ ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน แรงบันดาลใจจากซี่ดครงหมูย่างสไตล์ตะวันตก แต่นำมากินคู่กับผัดเปรี้ยวหวานแบบไทยๆ ตัดความเข้มข้น กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งสดคัดพิเศษอบกับวุ้นเส้นสูตรเด็ดของร้าน เสิร์ฟแบบกระทะร้อนควันฉุย และโป๊ะแตกทะเล รวมซีฟู้ด เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่
แต่ถ้าชอบอิ่มกำลังดี ก๋วยเตี๋ยวโอชา ดัดแปลงก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ให้ดูไม่ธรรมดาด้วยการผัดกับซอสพริกขิงรสเข้มข้นหอมเครื่องแกง โรยปลาฟู พร้อมท็อปด้วยปลาดอลลีย่างกำลังดีชิ้นโตก็ตอบโจทย์ได้ดี
อย่าลืมสั่งเมนูเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์มาเพิ่มความสดชื่น อาทิ Ware House No.10 คอกเทลที่ผสานความหอมหวานของลิ้นจี่ ส้ม และพีชได้อย่างลงตัว และมอกเทลสีสวย Violet Tea ที่ใช้ดอกอัญชันซึ่งเปลี่ยนสีได้มาเป็นทีเด็ดแบบภูมิปัญญาไทย
ชั้น G ศูนย์การค้าเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โกดัง 10
Tag:
, สตรีทฟู้ด, อาหารไทย, เอเชียทีค,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น