ร้านในเครือ Indus ที่คนรักอาหารอินเดียควรค่าแก่การไปลิ้มลอง นำเสนออาหารอินเดียทางตอนเหนือในรสชาติที่เข้าใจง่าย ใช้เครื่องเทศหลากหลายมาผสมผสานกับเทคนิคต่างๆ เสิร์ฟในรูปแบบไฟน์ไดนิงดูหรูหราและสวยงาม ผลงานของ Chef Sanket Hoskote Executive Chef ที่เคยร่วมงานกับ Hari Nayak เชฟชาวอินเดียชื่อดังระดับตำนานในโลกของอาหารอินเดีย
Jharokha ในภาษาอินเดียมีความหมายว่า “หน้าต่าง” เป็นหน้าต่างลวดลายสวยงามเห็นได้ตามพระราชวัง สอดคล้องกับการตกแต่งของร้านสังเกตได้จากโทนสีที่ใช้น้ำเงินตัดกับสีทองดูหรูหราผสมกับเครื่องเงินต่างๆ ตกแต่งสไตล์โปโล มีผนังและเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้มะฮอกกานีบุด้วยหนังทำให้ดูสะอาดตา
สำหรับ Jharokha by Indus อาหารของร้านจะเน้นการอบและย่างด้วยถ่านโดยใช้เตาอบ Kopa และเตาทันดูรีควบคู่กัน ทำให้หอมกลิ่นสโมก มื้อนี้เริ่มด้วย Chutney Set ชัตนีย์ชุดใหญ่เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสและชัตนีย์ 5 ชนิด ที่สร้างความสนุกและความอร่อยเป็นอย่างมากเพราะแต่ละดิปส์จะมีรสชาติ เปรี้ยว เผ็ด หวาน มัน ที่แตกต่างกัน ยิ่งจิ้มกินคู่กับแป้งนานและรากบัวทอดกรอบ ยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้น
Bhuna Kaleji ตับไก่บดเนื้อเนียนผสมกับเครื่องเทศอินเดีย บีบเสิร์ฟในคุกกี้รูปทรงกุหลาบที่นำไปทอดชื่อว่าอาชัปปัม (Achappam) กินคู่กับซอสสูตรเด็ดของทางร้านช่วยเพิ่มรสชาติไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป
Bheja Bav สมองแพะ เนื้อสัมผัสเด้งผัดกับเครื่องเทศรสเข้มข้น เสิร์ฟบนขนมปังเฟรนช์โทสต์
Himalayan Gucchi & Khumb เห็ดนางรมหลวงหมักกับบัตเตอร์ครีมผักชีแล้วซูวีดนานกว่า 4 ชั่วโมง กินคู่กับเห็ดมอเรลสอดไส้ครีมนม และไวต์ซอสยัคณี (Morel Yakhni)
เข้าสู่จานหลัก Champaran Gosht แพะอบหม้อดินเผาหรือฮันดี (Handi) เนื้อแพะหมักกับน้ำมันมัสตาร์ดและสมุนไพร เวาลาอบต้องคลุมปากหม้อด้วยแผ่นแป้งแล้วนำไปตุ๋นนาน 6 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมกับหอมแดงคลุกมาซาลาช่วยตัดเลี่ยน
และ Mewar Malai Biryani ถั่วเลนทิลสีดำตุ๋นจนเนื้อนุ่มเคี่ยวกับเครื่องเทศ เสิร์ฟกับข้าวบาสมาติหุงหญ้าฝรั่นและเครื่องเทศสูตรพิเศษ เคียงด้วยแป้งนานชีสและแป้งปาราตาโฮลวีตร้อนๆ ที่เพิ่งอบออกมาจากเตาทันดูรี
สำหรับมื้อนี้ยังปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่าง KESAR FALOODA ไอศกรีมรูปดอกกุหลาบผสมกับซัฟฟรอน ท็อปบนพุดดิงครีม และ SHAAN-E-AAM ไอศกรัมมะพร้าวเนื้อเนียนหอมนมและกะทิ เสิร์ฟบนพุดดิงครีม ทำให้ปิดท้ายมื้อนี้แบบฟินๆ
อาหารอินเดียจัดเสิร์ฟสวยงาม หอมกลิ่นเครื่องเทศบางๆ ที่เข้าถึงได้ง่าย
ชั้น 2 อาคาร Erawan Bangkok ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
180-2,900 บาท (รับบัตรเครดิตทุกประเภท)
Tag:
ร้านอาหารอินเดีย, อาหารอินเดีย, เอราวัณ แบงค็อก, ไฟน์ไดนิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น