เมื่อกระแสการปรุงอาหารด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นกำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ร้าน ADHOC ก็ถือเป็นอีกหมุดหมายยอดฮิตที่เหล่านักชิมและเซเลบริตี้ต่างยอมต่อคิวเพื่อให้ได้ไปลิ้มลองสักครั้ง ทั้งบรรยากาศร้านสไตล์ไพรเวตไฟน์ไดน์นิ่ง รวมถึงตัวคอร์สเมนูรสชาติเข้มข้นที่มีวัตถุดิบท้องถิ่นไทยเป็นพระเอก โดยผ่านการยกระดับให้ดูโมเดิร์นด้วยเทคนิกสมัยใหม่ จากฝีมือของ เชฟป๊อป-พิชชกร รมบุตร เชฟสาวที่เก็บเกี่ยวประสบการ์ณจากร้านอาหารไทยชื่อดังมามากมาย ไม่น่าแปลกใจที่ร้านนี้จะเข้าไปติดท็อปลิสต์ในใจใครหลายคน
ในคอร์สประกอบไปด้วยหลายเมนูน่าประทับใจอย่าง W.Tawee Farm Pork อินสไปรต์มากจากไข่กระทะ โดยตัวเนื้อหมูรมควันมาจากฟาร์มตาวีเขาใหญ่ กินพร้อมบันโฮมเมดและไข่นกกระทา เปิดต่อมรับรสได้ดีมาก
ต่อด้วย Giant Trevally เมนูจานสามที่เชฟดัดแปลงมาจากแสร้งว่า จุดเด่นอยู่ที่ปลากระมงพร้าวซึ่งผ่านการเอจแล้วดองกับเครื่องสมุนไพร เสิร์ฟกับกรานิต้าเดรสซิงที่ทำจากปลาเนื้ออ่อน เสริมรสหวานเปรี้ยวด้วย ชมพู่ ลำไย และส้มซ่า กินแล้วสดชื่นเป็นที่สุด
เมนคอร์สยกให้ Blue Crab ข้าวยำปักษ์ใต้ ที่นำข้าวหอมมะลิจังหวัดยโสธรไปคลุกกับเครื่องแกงใต้ ซอสบูดูและเครื่องสมุนไพรกว่า 12 ชนิด เสิร์ฟกับเนื้อกรรเชียงปูม้าและปลาทู โดยด้านบนเป็นไก่กรอบที่ประดับด้วยสมุนไพรสวยงาม คลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนกิน จัดจ้านไม่เบา
จากนั้นลดระดับความเผ็ดร้อนด้วย Tapi River Prawn ซุปรสกลมกล่อมหวานนิดๆ จากน้ำมะพร้าวหอม เสิร์ฟกับลูกชิ้นกุ้งแม่น้ำที่หุ้มด้วยแป้งถั่วเขียวนุ่มหนึบ ท็อปด้วยโลคอลคาเวียร์ ซดแล้วคล่องคอ
ปิดท้ายด้วยจานขนมหวานอย่าง ไอศกรีมนมฮอกไกโดจากเขาใหญ่ ที่สโมคกับไม้จนได้กลิ่นหอมอบอวล ล้อมรอบมาด้วยฮันนี่ทูเลย์กรุบกรอบ ก่อนจะโรยมิลค์พาวเดอร์เพิ่มความอลังการ หน้าตาสวยงามรสชาติสมบูรณ์แบบ
36/22 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ
เปิดบริการ 18.00-12.00 น.
ราคา 3,900++ บาท (รับบัตรเครดิตทุกประเภทยกเว้น Amax)
Tag:
ร้านอาหารไทย, อาหารไทย, ไฟน์ไดนิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น