บนชั้น 4 ของอาคาร SAM-ED มีร้านโอมากาเสะมาเปิดใหม่อย่าง Mizuki Omakase ร้านที่จะพาทุกคนไปเพลิดเพลินกับความอร่อยกับวัตถุดิบชั้นเลิศผ่านคอนเซ็ปต์ 'พระจันทร์สะท้อนน้ำ'
เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงจะพบกับ Mizuki Bar เป็นพื้นที่สำหรับเสิร์ฟ Welcome Drink ก่อนพาไปสู่อีกห้องหนึ่ง เมื่อจบคอร์สหากอยากนั่งต่อที่บาร์ก็สามารถนั่งได้หรือจะวอร์กอินเข้ามานั่งดริงก์โดยไม่ต้องจองคอร์สโอมากาเสะก็ได้เช่นกัน (บาร์เปิด 17.00-02.00 น.)
ส่วนอีกห้องเชื่อว่าทุกคนคงสะดุดตากับ Black Light ที่สะท้อนภาพวาดออกมาจากผนัง เป็นงานศิลปะที่เล่าถึงความงดงามของคืนพระจันทร์เต็มดวงที่สาดแสงลงบนผิวน้ำ สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบใต้ท้องทะเล ทางร้านจึงใช้สโลแกนนี้มาเป็นหลักในการคัดสรรวัตถุดิบและเสิร์ฟเพียงวัตถุดิบคุณภาพเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกนข้างต้นซึ่งมีดวงจันทร์เป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้พระจันทร์ยังเป็นประตูสู่อวกาศและเพื่อให้เป็นคอนเซ็ปต์ที่ต่อยอดกัน เคาน์เตอร์บาร์จึงออกแบบมาให้เป็นเหมือนวงแหวนของดาวเสาร์ มาพร้อมงานดีไซน์ต่างๆ อย่างหุ่นนักบินอวกาศที่วางตกแต่งไว้ตามมุมเพื่อบ่งบอกว่าเราไม่ได้หยุดอยู่แค่พระจันทร์ เนื่องจากคอร์สโอมากาเสะของที่นี่เป็นการฟิวชันระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับวัตถุดิบหลากสัญชาติและใช้เทคนิคยุโรปสมัยใหม่ร่วมด้วย ที่บอกว่าทางร้านไม่ได้หยุดแค่พระจันทร์ก็เพราะว่าต้องการให้ผู้มาเยือนได้ล่องลอยไปในอวกาศพร้อมพวกเขา เปรียบเหมือนการเดินทางค้นหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดในพื้นที่กว้างใหญ่เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mizuki Omakase
เชฟเสิร์ฟเป็นวัตถุดิบประจำฤดูร้อนมีให้เลือก 2 คอร์ส คือ New Moon (14 คอร์ส) และ Full Moon (18 คอร์ส) วันนี้เป็น 14 คอร์ส เรียกน้ำย่อยด้วย JUNSAI 3 คำ เริ่มที่ Tsubugai หรือหอยสังข์ญี่ปุ่นเสิร์ฟคือตับของเขาและวาซาบิ ด้านล่างเป็นสาหร่าย ต่อด้วย Tuna Tartare with Nori Tempura เป็นส่วนอากามิ โอโทโร่ และชูโทโร่ นำไปปรุงรสชาติก่อนวางมาบนโนริเทมปุระกรอบๆ และสุดท้าย Junsai ด้านล่างเป็นสาหร่ายเส้นผมกินคู่ยอดบัวญี่ปุ่นให้รสสดชื่นเปิดต่อมรับรสได้ดี
ใครชอบกินปูต้องชอบ TARABA KING CRAB X ZUWAI KOROKKE เนื้อปูทาราบะชิ้นสวย เสิร์ฟคู่มะนาวสีเขียวและเกลือที่ทำจากมันปู ก่อนกินแนะนำให้บีบมะนาวลงบนปูจากนั้นจิ้มเกลือเล็กน้อย ได้รสเปรี้ยวเค็มตัดกันพอดี แถมยังหอมกลิ่นสโมก อีกคำเป็นปูซูไวเสิร์ฟแบบโครเกตต์ราดคัตสึซอส มีความมันนัว กลมกล่อมมาก
KAREI USUZUKURI JELLY ซาชิมิแล่พอดีคำวางเรียงสวยมาบนคอมบุ ท็อปด้วยวาซาบิดองและเพิ่มรสชาติด้วยเจลลียูซุพอนสึซอส ได้รสสัมผัสเด้งของเนื้อปลาและหอมกลิ่นยูซุเล็กน้อย คอร์สต่อมาเป็น SHIRO EBI SUSHI กุ้งขาวญี่ปุ่นปั้นเป็นซูชิ ได้กลิ่นส้มหอมอบอวลในปากส่วนเนื้อกุ้งนั้นนุ่มเด้ง อร่อยทีเดียว
ตามด้วย KUROMUTSU SUSHI ปลากะพงน้ำลึกที่นิยมกินในหน้าร้อนของญี่ปุ่น เป็นปลาที่มีไขมันมาก เชฟนำไปเบิร์นไฟให้หนังมีกลิ่นหอมแล้วท็อปด้วยสาหร่ายดองเกลือ เพื่อเพิ่มความอูมามิให้ตัวซูชิ ถัดมาคือ PREMIUM AJI SUSHI ปลาทูญี่ปุ่นชิ้นใหญ่เสิร์ฟในรูปแบบซูชิ เนื้อปลาเด้งและกรึบยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อยมาพร้อมความหอมของซอสที่ท็อปไว้ด้านบน
เดินทางมาถึงครึ่งทางกับเมนู KASUGO SUSHI ซึ่งคำว่า Kasugo เป็นชื่อเรียกของปลา Madai ตอนยังเป็นลูกปลา ออนท็อปมาด้วยไข่แดงออแกนิกดองที่นำไปแช่แข็งไว้ก่อนขูดลงบนปลา เพื่อเพิ่มความหอม มัน และเค็ม เข้ากับปลาได้ดี ต่อด้วย CHAWANMUSHI ยืนหนึ่งเรื่องพรีเซนเทชันด้วยการจุดไฟ เมื่อไฟดับจะเจอกับไข่ตุ๋นสีดำที่ทำจากดีหมึก ท็อปด้วยอูนิมุราซากิ ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่มมีเซอร์ไพรส์ด้านในเป็นมันกรอบๆ ให้เคี้ยวเพลิน
เข้าสู่ช่วงท้ายของคอร์ส เชฟเสิร์ฟเป็น MELON X YUZU SHERBET เมล่อนญี่ปุ่นเนื้อกรอบหวานตามด้วยยูซุเชอร์เบตรสเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด เพื่อล้างช่องปากให้พร้อมก่อนไปสู่ซูชิเซ็ตต่อไป เริ่มที่ UNI เชฟใช้บาฟุนอูนิจากฮอกไกโด ท็อปด้วยคาเวียร์จากอิตาลี บาฟุนมีความหวานให้สัมผัสครีมมี่หน่อยๆ ตัดรสด้วยความเค็มมันจากคาเวียร์ได้ดี
ตามด้วย TUNA SUSHI เชฟใช้ส่วนชูโทโร่ชิ้นใหญ่เสิร์ฟในรูปแบบซูชิ เนื้อปลามีความมันนัวและเด้งสู้ฟัน คอร์สต่อมาเป็น TUNA TRUFFLE SUSHI เมนูนี้เป็นส่วนโอโทโร่ซึ่งมีไขมันแทรกอยู่มาก เชฟจึงเปลี่ยนเป็นข้าวอบทรัฟเฟิลนำมาปั้นเป็นซูชิ แล้วท็อปด้วยแบล็กทรัฟเฟิลช่วยเพิ่มความหอมละมุนให้คำนี้
สุดท้ายเป็น SHIROMI SOUP หรือซุปปลาเนื้อขาว เบสของซุปเป็นก้างปลาที่นำไปย่างก่อนเคี่ยวไปพร้อมกับปลาแห้ง เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อปลาและสาหร่าย ได้รสกลมกล่อมหอมกลิ่นส้มยูซุนิดๆ ซดร้อนๆ คล่องคอดีจริง ตบท้ายด้วย EARTH ICE CREAM หรือไอศกรีมลูกโลกรสนมหอมกลิ่นวานิลลา เคียงด้วยชูครีมเคลือบไวต์ช็อกโกแลตและผลไม้สด มีซอสมิกซ์เบอร์รีช่วยตัดเลี่ยน นอกจากนี้ยังเสิร์ฟคู่ชาเก็นไมฉะ ชาพรีเมียมที่ช่วยปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับเมนูฤดูร้อนนี้สามารถเข้าไปลิ้มลองได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2567
ชั้น 4 ของอาคาร SAM-ED (สุขุมวิท 31)
โอมากาเสะ 12.00 น. - 22.00 น., บาร์ 17.00 น. - 02.00 น. หยุดวันจันทร์
ราคา 7,000-15,000 (รับบัตรเครดิต)
Tag:
บาร์, ย่านสุขุมวิท, ร้านอาหารญี่ปุ่น, โอมากาเสะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น