ใครที่ชอบพิซซ่าแบบงานคราฟท์ ทำทุกอย่างเองอย่างพิถีพิถันและอัดแน่นด้วยวัตถุดิบชั้นดี ต้องมาที่ Roberta’s ร้านพิซซ่าสุดฮิปชื่อดังจากย่านบรูคลิน นิวยอร์ก ที่ถือกำเนิดจากการรวมตัวของเหล่าเชฟและบาร์เทนเดอร์ มาถึงเมืองไทยให้เราได้ลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับแล้วที่ ชั้น 3 Flavor Lab สยามดิสคัฟเวอรี่
จากความสำเร็จอย่างมากของร้าน Roberta’s Pizza แห่งแรกที่บรูคลิน สู่ 10 ร้านอาหารในเครือ โดยล่าสุดมีร้านที่ติดอันดับ 100 Best Restaurants in New York 2024 โดย NEW YORK TIMES ถึง 2 ร้าน คือร้าน BLANCA ในอันดับที่ 2 และร้าน Foul Witch ในอันดับที่ 53 สำหรับร้าน Roberta’s ในประเทศไทยนับเป็นสาขาที่ 2 ในเอเชีย ต่อจากสิงคโปร์ซึ่งเปิดในปี 2022 ในการเปิดสาขานี้ เชฟมิชลินสตาร์ เชฟคาร์โล มิราชิ (Carlo Mirarchi) ผู้ร่วมก่อตั้ง บินมาดูแลทุกอย่างเองให้เป๊ะปังตามต้นฉบับ กระทั่ง ‘สตาร์ทเตอร์’ ของแป้งโดว์ยังขนมาเอง จึงมั่นใจได้ว่าอร่อยเหมือนกินที่บรูคลินแน่นอน
นอกจากแป้งแล้วทอปปิ้งหลายอย่างที่ร้านยังทำเองแบบโฮมเมด ทั้งชาร์กูเตอรีและโคลด์คัต ผสมผสานกับวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างพืชผักและผลไม้ไทยที่เชฟคัดสรรมา อบด้วย ‘เตาฟืน’ สีแดงซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ด้านในเคาน์เตอร์บาร์ ให้เราเอร็ดอร่อยกับพิซซ่าอบใหม่ท่ามกลางศิลปะสตรีทอาร์ต เหมือนยกบรูคลินมาไว้ที่กรุงเทพฯ เลยทีเดียว
เริ่มแรกเราอยากให้ลิ้มลองความอร่อยของตัวแป้งกันก่อนกับ House Bread แป้งพิซซ่าอบจนฟูเป็นโดม จานนี้บอกเลยว่าอย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพราะบิกินตอนร้อนๆ คือที่สุด ปาดกับสเตรเซียเทลลาชีส (Stracciatella Cheese) ทำจากมอสซาเรลลาเคิร์ดและครีมสดได้ความหนึบและครีมมี โรยหน้าด้วยน้ำมันมะกอกผสานความเผ็ดร้อนจากน้ำมันพริกเผ็ดซาบซ่าที่ซ่อนไว้ด้านล่าง กินเพลินเชียวแหละ
มาต่อกันด้วยพิซซ่าที่เป็นไฮไลต์หลัก หน้าซิกเนเจอร์ที่เราหลงรัก แนะนำ Bee Sting พิซซ่าที่ผสานความอร่อยของรสหอมหวานและเผ็ดไว้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยความหวานละมุนของน้ำผึ้ง แล้วจึงตามมาด้วยความเผ็ดร้อนเหมือนผึ้งต่อยจากซาลามีรสเผ็ด เกล็ดพริก และน้ำมันพริก เป็นรสชาติที่สนุกกินไม่เบื่อเลย
อีกพิซซ่าชื่อแปลก King Thao Kong ที่โดดเด่นด้วยผักสมุนไพรหลายชนิดทั้งกุยช่าย ต้นหอม โหระพา พริกแดง และหัวหอมย่าง โดยรวมชวนให้รู้สึกสดชื่นมาก จานนี้เป็นมังสวิรัติด้วยนะ
มาต่อกันด้วยเมนูพิเศษของสาขาประเทศไทย ซึ่งเป็นธรรมเนียมของเชฟในการครีเอตเมนูขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นในทุกที่ที่ไปเปิดสาขา ได้แก่ Thai Mango and Lardo เชฟเลือกมะม่วงแบบเกือบสุกรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ มาตัดรสกับลาร์โดหรือไขมันหมูเคียวร์ ผสานให้กลมกล่อมด้วยน้ำมันมะกอกสเปน เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ Rose Apple & Salted Cream ชมพู่ไทยเนื้อหวานกรอบคลุกเคล้าครีมเค็ม ราดด้วยน้ำมันพริกให้รสเผ็ด มีความคล้ายยำกินแล้วสดชื่นตัดเลี่ยนได้ดีเลย
นอกจากนี้ยังมีจานอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Rigatoni Carbonara คาร์โบนาราแบบดั้งเดิมใส่เฉพาะไข่แดงและชีสให้รสเข้มข้นและเค็มมันจากเบคอนโฮมเมด Baby Back Ribs ซี่โครงหมูคลุกเคล้าเครื่องเทศย่างทั้งนุ่มทั้งหอม Chicken Tendon and Squid Ink ข้อไก่ทอดราดซอสหมึกดำใส่หอมแดงและผักชี และ Braised Ox Tail หางวัวตุ๋นจนนุ่มดึ๋งในซอสมะเขือเทศรสกลมกล่อม
ที่นี่มีมุมบาร์ให้บริการสายดื่มสายดริงก์ด้วย โดยทางร้านคัดสรรเนเชอรัลไวน์คุณภาพมาให้ลิ้มลองกันหลายตัว เชฟรับรองว่าเข้ากันได้ดีกับพิซซ่า หากใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็มี น้ำมะนาวคั้นสดโฮมเมด และ ชามะนาว ที่เป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์เติมความสดชื่นให้กินพิซซ่าได้คล่องคอ
อีกดีเทลที่ไม่อยากให้พลาดคือบรรยากาศสุดฮิปของร้านซึ่งโดดเด่นด้วยงานอาร์ตที่เรียกว่า Roberta’s Art Program ไม่ว่าจะเปิดร้านที่ไหนก็ต้องมีงานศิลปะแนวสตรีทจัดแสดงด้วยเสมอ สำหรับสาขาประเทศไทยเป็นผลงานของศิลปินชาวอเมริกัน Jason Woodside และศิลปินชาวสเปน MURFIN จัดแสดง ร่วมกับผลงานวาดมือของศิลปินไทยรุ่นเยาว์ Artty Rock และ Anar ที่ได้รับคัดเลือกมาจัดแสดงที่ร้านก่อนจะนำไปหมุนเวียนจัดแสดงที่สหรัฐอเมริกาต่อไป แวะมาชื่นชมและถ่ายรูปผลงานของพวกเขากันได้เลย
ไม่อยากให้พลาดพิซซ่าอบเตาฟืนและอีกหลากหลายเมนูอร่อยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถันและความครีเอตไม่เหมือนใครของที่นี่จริงๆ
ชั้น 3 Flavor Lab สยามดิสคัฟเวอรี่ 989 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
Tag:
Siam Discovery, พิซซา, อาหารอิตาเลียน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น