ก่อนที่จะพาทุกคนมาร่วมดินเนอร์ในครั้งนี้ เราต้องขอร่วมแสดงความยินดีกับเชฟทั้ง 2 ที่พึ่งจะเข้าพีธีวิวาห์เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงได้ยินชื่อเสียงของร้าน Mia (มีอา) มาไม่มากก็น้อย แต่เมื่อล่าสุดร้านแห่งนี้ได้ดาวมิชลินสตาร์มาไว้ครอบครองเป็นที่เรียบร้อยนำทีมโดยเชฟท็อป-พงศ์ชาญ รัสเซลดีกรีเชฟไทยคนแรกที่ได้มิชลินสตาร์ที่ทำอาหารเวสเทิร์น และแฟนของเชฟท็อปเชฟมิเชล โก เชฟหญิงมาเลเซียผู้รังสรรค์ขนมหวานที่ทำให้หลายคนติดใจในรสชาติกันแบบปากต่อปาก
บ้านหลังสีฟ้าหลังใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพตั้งแต่หัวเรือใหญ่อย่างเชฟท็อปและเชฟมิเชล ไปจนถึงทีมงานทีซัพพอร์ตร่วมกัน เชฟท็อปได้เล่าเรื่องราวและความภาคภูมิใจให้เราได้ฟังว่า “เราค่อนข้างเข้มข้นกับการทำงานเป็นอย่างหนัก ผมเป็นคนที่บ้านชอบทำอะไรต้องทำให้มันไปถึงที่สุด เราต้อมงมีคุณภาพพร้อมทั้งรสชาติและการทำงาน เพื่อที่จะรังสรรค์รสชาติอาหารตะวันตกในแบบดั้งเดิมได้อย่างดีเยี่ยม แล้วจึงนำออกมาผสมผสานกับความสร้างสรรค์จนเกิดเป็นอาหารแนวโมเดิร์นยูโรเปียนได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเหตุที่คว้า 1 ดาวมาครอบครองได้ในปีนี้ และเราก็จะพยายามให้มากขึ้นอีกต่อๆ ไป”
Mia Restaurant นำเสนอ “Taste of Mia” เทสติ้งเมนูแรกหลังจากได้ดาวมา ซึ่งครั้งนี้เราได้ไปลิ้มลองทั้งหมด 8 คอร์ส พร้อมไวน์แพร์ริงโดยเริ่มจากคำแรก Chill Crab เเรงบันดาลใจจากแป้งทอดของสิงคโปร์ซึ่งเป็นที่แรกของเชฟทั้ง 2 ได้เจอกันนำมาดัดแปลงโดยใช้แป้งโมจิทอด สอดไส้ชีสกรูแย ท็อปด้วยสลัดเนื้อปู ต่อด้วย Cocollos Oyster เนื้อหอยนางรมเสิร์ฟแบบเย็นคู่กับกรานิตาเสาวรส และน้ำมันพริก ให้ความครีมมีและสดชื่น เบาๆ ต่อมา Duxelle Tarte ทาร์ตเห็ดเสิร์ฟกับซอสฮอลันเดสที่ทำเป็นโฟมด้านบน ท็อปด้วยทรัฟเฟิลสไลซ์แบบพูนๆ และ Mia Chicken Waldorf Salad สลัดไก่วอลดอร์ฟ และ Taramasalata ทาร์ตถั่วลูกไก่กับปลาเทาร์ตวึ่งซ่อนอยู่ด้านใน ท็อปด้วยเจลลีดาชิและไข่ปลาแซลมอน
Sourdough Brioche หรือขนมปังบรียอชไฮบริด ขนมปังที่เกิดขึ้นจากเชฟทั้ง 2 พบกันที่ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ขนมปังก้อนนี้เป็นมากว่าขนมปังธรรมดาเพราะเล่าถึงเรื่องราวที่ทำให้ได้พบกัน และเป็นสตาร์ตเตอร์ในการทำให้กับขนมปังก้อนนี้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ‘’HOW IT STARTED WITH A STARTER’ ขนมปังเสิร์ฟมาพร้อมกับเนยหัวหอมเผา รสเข้มข้น นอกจากจะอร่อยเเล้วยังได้โปสการ์ดรูปคู่ของเชฟทั้ง 2 พร้อมกับเรื่องเล่าที่มาของขนมปังก้อนนี้ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
สำหรับ Cold Starter เริ่มด้วย Hokkaido Scallop , Blue Fin Tuna , Truffle Ponzu และ Caviar N25 จานนี้บอกเลยว่าตกหลุมรัก เนื้อหอยเชลล์และเนื้อปลาทูน่าในจานเย็น เสิร์ฟในน้ำทรัฟเฟิลพอนซึ ด้านข้างเป็นหัวโคลราบิสไลซ์ดอง (Kohlrabi) ดัดเป็นรูปดอกไม้ ท็อปด้วยคาเวียร์แบบพูนๆ
Cured Hamachi ปลาฮามิจิหมักเสิร์ฟกับหัวโคราบิสไลซ์ กินคู่กับวาซาบิซอเบ ให้ความสดชื่น ตกแต่งด้วยผักท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งเชฟเเนะนำให้ค่อยๆ กินกับผักเเต่ละชนิดจะได้รสชาติที่เเตกต่างกัน
หลังจากจบ Cold Starter แล้วก็ต่อด้วย Hot Starter กันอย่างต่อเนื่อง Smokef Eel Chawanmushi | Bone Marrow | Ikura ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนผสมกับเนื้อปลาไหลสโมก เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กแต่มากด้วยรสและสัมผัส เพราะว่าเชฟใส่ไขกระดูกวัวเพื่อเพิ่มความครีมมีไปอีกขั้น และสตาร์ตเตอร์อีกจาน Aged Stone Bass | Shell Fish | Thai Sweet Basil ปลาบาสเชฟนำไปเอจจิงจนเนื้อแน่ เสิร์ฟคู่กับซอสครีมและสลัดส้มโอ ตัดเลี่ยนด้วยเจลมะนาว จริงๆ แล้วทั้ง 2 จานนี้ก็มีกลิ่นอายของความเป็นไทยซ่อนเอาไว้อยู่
สำหรับจานหลักสามารเลือกได้ทั้งไก่และเนื้อวัว เราเลือกเป็น 48 Hours Braised Beef Short Rib เนื้อชอร์ตริบย่าง เนื้อนุ่ม เสิร์ฟคู่กับมะเขือเเละผักเคลทอด ราดด้วยจูว์รสเข้มข้น หรือสำหรับคนที่กินเนื้อก็เป็น Grain Fed Baby Chicken | Parsnip | Albufera Sauce ไก่ที่ถูกเลี้ยงด้วยัญพืชเนื้อนุ่ม ใต้หนังไก่สอดไส้ด้วยมูสเนื้อเนียน กินคู่กับซอสอัลบูเฟรา รสครีมมี โรยด้วยทรัฟเฟิลแบบจุใจ ปิดท้ายด้วยการเสิร์ฟคองซอมเมให้คลายท้อง พร้อมสำหรับของหวาน
เดินทางมาสู่คอร์สสุดท้ายปิดท้ายด้วยขนมหวานจากเชฟมิเชล Shine Muscat Sorbet ซอร์เบองุ่นไซมัสคัตเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมโยเกิร์ตและทารากอน และซิกเนเจอร์ Mia Cereal Bowl ซีเรียลอาหารเช้ารสชาติที่คุ้นเคยแต่มากด้วยเทคนิก และเสิร์ฟมาในหน้าตาพรีเมียม สำหรับคนที่ชื่นชอบชาเขียนต้องสั่ง! Matcha Ice Cream | Almond | Mascarpone ไอศกรีมชาเขียวรสเข้มข้น แพร์ริงกับเบียร์เมลอน หอมหวาน
หน้าตาและรสชาติของอาหารสมกับ 1 ดาวมิชลินสตาร์ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ดี และเราขอเป็นกำลังใจให้สำหรับดาวดวงต่อไป
ซอยสุขุมวิท 26
ราคา: 4,850++ บาท (8 คอร์ส)
Tag:
ร้านมิชลิน, ร้านอาหาร, ไฟน์ไดนิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น