ALT Dry Age ร้านอาหารใหม่ล่าสุดของคู่รักมาสเตอร์เชฟ เชฟแก้ว - ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร และเชฟสัญ - เวชกร เจริญปัญญาวุฒิ ซึ่งชื่นชอบการกินเนื้อเป็นทุนเดิมและอยากมีร้านเนื้ออร่อยๆ เป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปันความอร่อยของ "เนื้อดรายเอจ" ให้คนรักเนื้อได้ลิ้มลอง จึงชักชวนเพื่อนฝูงอีก 2 คน คือ คุณปิ๊ง - วรัชญ์ รัตนศิริวิไล และคุณน้ำอบ - ศุทธิดา วงศ์เทียมชัย มาเปิดร้าน ALT Dry Age ในซอยสาทร 12 ร่วมกัน
โดยความหมายของชื่อร้านคือเคล็ดลับความอร่อยที่เชฟทั้งสองภูมิใจนำเสนอ เพราะคำว่า “ALT” มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่าเก่าแก่ (Old) ส่วน “Dry Age” เป็นวิธีการเก็บรักษาเนื้ออย่างหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ากรรมวิธีเก็บรักษาเนื้ออันเก่าแก่ที่มีมาอย่างยาวนานจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ความอร่อยให้กับมื้ออาหารที่ ALT Dry Age นั่นเอง
บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก วางโชว์ตู้เนื้อดรายเอจไว้ตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้า เชฟเล่าว่าหลังจากลงทุนซื้อตู้ Dry Age มา ทุกคนในร้านก็ช่วยกันค้นหาสูตรการ Dry Age พยายามลองผิดลองถูกหลายครั้งว่าควรจะใช้เวลานานเท่าไร จนพบว่า เนื้อที่นุ่มเด้ง รสชาติเข้มข้น และไม่ทิ้งกลิ่นคาว คือเนื้อที่ผ่านกระบวนการดรายเอจมานาน 30 และ 45 วัน ออกมาเป็นเมนูที่เชฟอยากแนะนำให้ลิ้มลองกัน อาทิ
30-Day Dry Aged Striploin สเต๊กเนื้อ Striploin เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ใช้เนื้อไทยวากิวดรายเอจมาแล้ว 30 วัน ทำให้ได้กลิ่นและรสชาติของเนื้อแบบเต็มๆ ยิ่งกินคู่กับซอสยิ่งฉ่ำ ตัดรสด้วยกระเทียมดำรสหวานมันและวาซาบิดองเผ็ดซ่าถึงใจ สำหรับใครที่เพิ่งลองกินเนื้อดรายเอจครั้งแรก เชฟแนะนำให้เริ่มที่เนื้อดราย 30 วันก่อน และหากคุ้นเคยแล้วอยากลิ้มลองเนื้อที่มีกลิ่นรสหนักแน่นยิ่งขึ้นก็ลองสั่งเนื้อดรายเอจ 45 วันได้เลย
นอกจากเนื้อ ทางร้านยังมีปลาฮามาจิดรายเอจด้วย กับเมนู Aged Hamachi Ceviche ผสมผสานระหว่างสไตล์ยุโรปและญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมซอส Dill Oil และครีมสด สีสวยงามน่ากินมากๆ เนื้อปลาที่ดรายเอจแล้วให้สัมผัสเด้งเคี้ยวหนุบชวนฟินยิ่งกว่าเดิม และยังเข้ากับซอสได้ดีมาก
Golden Foie Gras Burger เบอร์เกอร์ฟัวกราส์ ที่แพตตี้ทำจากเนื้อดรายเอจเข้มข้นสับแบบยังใีเท็กซ์เจอร์ สลับชั้นกับหัวหอมผัดและซอสมัลเบอร์รี ทอปด้วยฟัวกราส์ชิ้นหนานุ่ม นอกจากจะอร่อยชุ่มฉ่ำแล้ว หน้าตาก็ยังหรูหรา เพราะโรยด้วยแผ่นทองมาบนขนมปังบริยอชนุ่มๆ ด้วย
Dry Aged Meatball Pasta สปาเกตตีมีตบอลรสชาติเข้มข้น มีความพิเศษตรงที่ใช้มีตบอลไทยวากิวดรายเอจ ทำให้ได้รสสัมผัสนุ่มๆ แน่นๆ เคี้ยวสนุกเต็มปากเต็มคำ
มาถึงเมนูสายสุขภาพกันหน่อยกับ Burrata Salad สลัดชีสบูร์ราตาสดจากอิตาลี กินพร้อมผักสลัด ผลไม้ฉ่ำน้ำอย่างแอปเปิล วอลนัต และน้ำสลัด Balsamic Glaze ให้รสชาติสดชื่น
ปิดท้ายด้วยของหวาน Homemade Fudge Brownie บราวนี่เนื้อฟัดจ์ที่ทางร้านตั้งใจใช้ดาร์กช็อกโกแลต 70% รสชาติจึงออกมาเข้มข้น ไม่หวานมาก และได้เนื้อช็อกโกแลตเน้นๆ แน่นๆ ออกขมนิดๆ ตัดกับรสหวานกลมกล่อมของไอศกรีมเฮเซลนัตได้อย่างลงตัว
แน่นอนว่าการดรายเอจเนื้อย่อมใช้เวลามากกว่า แต่พอได้เนื้อรสชาติแสนอร่อยออกมาแล้ว ก็ถือเป็นการรอคอยที่คุ้มค่าไม่ใช่น้อยเลยล่ะจะบอกให้
สาทร ซอย 12 (BTS สถานีเซนหลุยส์)
เปิดทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-22.00 น. (Last Order: 21.00 น.)
ราคาเริ่มต้น 120 - 2,400 บาท (รับบัตรเครดิตทุกประเภท)
Tag:
ร้านอาหาร, สาทร, เชฟแก้ว ปวีณ์นุช
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น