ภายในขอบรั้ว ‘บ้านดุสิตธานี’ (Baan Dusit Thani) มีห้องอาหารที่มีชื่อเสียงซ่อนเอาไว้อยู่หลายแห่ง อาทิ ห้องอาหารเบญจรงค์ ดุสิตกรูเมต์ , โนมาดา แบงคอก ( NóMADA Bangkok) และห้องอาหารเธียนดอง (Thien Duong) ห้องอาหารเวียดนามที่รีโนเวตจากห้องเก็บยาอันเก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นห้องอาหารเวียดนามสุดอบอุ่น
บรรยากาศอันร่มรื่น ปกคลุมไปด้วยร่มไม้ใหญ่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เปรียบดั่งกับความหมายของคำว่า เธียนดอง ซึ่งในภาษาเวียดนามแปลว่า “สรวงสวรรค์” ภายใต้การดีไซน์ด้วยภาพวาดและรูปแบบของโกดังเก็บยาของเครือโอสถสภาเก่าแก่เป็นการผสมผสานของความคลาสสิกและโมเดิร์นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
สำหรับเมนูอาหารเชฟได้เปลี่ยนทั้งวิธีการเสิร์ฟให้หน้าตาสวยงามและปริมาณที่ให้เพิ่มมากขึ้นอย่างจุใจ คัดสรรและเลือกใช้วัตถุดิบแบบพรีเมียม อีกทั้งยังเลือกใช้วัตถุดิบจากกลุ่มเกษตรกรและแหล่งชุมชนใกล้เคียง เพื่อให้ได้รสาติสดใหม่ อีกทั้งการันตีความอร่อยจากรางวัลมิชลิน Bib Gourmand 3 ปีซ้อน เริ่มด้วยเมนูแรก สลัดเวียดนามหัวปลีไก่และกุ้ง สลัดหัวปลีที่อัดเเน่นไปด้วยผักต่างๆ ถูกในสายเฮลท์ตี้ เช่น ถั่วงอก แครอต หัวปลี นำไปคลุกกับน้ำยำผสมกับงปรุงรสชาติได้อย่างกลมกล่อมผสมงาเเละถั่วลิสง จากนั้นท็อปด้วยกุ้งลวกตัวโต
ต่อด้วย กุ้งเเม่น้ำนึ่งกระเทียม จานที่ดูภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าธรรมดาเเต่รสชาติจัดจ้าน เพราะว่าเชฟปรุงมาอย่างถึงเครื่อง กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่นึ่งจนเนื้อสุกเด้งกำลังดี ราดมาพร้อมกับน้ำยำรสเปรี้ยวเผ็ดครบเครื่องและ ขนมเบื้องญวน จานนี้มาเเล้วบอกเลยว่าห้ามพลาด เเป้งขนมเบื้องสูตรพิเศษเพราะว่าหนากว่าปกติจากที่เคยกิน ด้านในอัดเเน่นไปด้วยผักและซีฟู้ด กินคู่กับผักดองช่วยตัดรสชาติกันได้ดี
และสำหรับใครที่ไปเวียดนามแล้วเคยไปกินพิซซาเวียดนามต้องลอง พิซซาเวียดนามหน้าทะเล แผ่นเเป้งบางกรอบ ท็อปด้วยซีฟู้ดที่เชฟตั้งใจหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จะกัดตรงไหนก็เจอเครื่องท็อปปิ้งเเบบจัดเต็ม
เมื่อกินอาหารคาวแล้วก็อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่าง กล้วยหอมทอดเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมวานิลลา แป้งด้านนอกกรอบและข้างในเนื้อชุ่มฉ่ำ และ รวมมิตรเวียดนาม ก็จบมื้อไปแบบฟินๆ
ตัวร้านดีไซน์น่ารักเล่นสีสันดูสนุกสนาน ทำให้เพลินไปกับมื้ออาหารอย่างไม่มีเบื่อ
บ้านดุสิตธานี 116-3 ถ. ศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
เปิดให้บริการ : 11.00-14.30 และ 17.30-22.00
Tag:
บ้านดุสิตธานี, อาหารเวียดนาม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น