Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

วันที่ 17 ตุลาคม 2566  1,476 Views (0 รีวิว)

หมวดหมู่อาหาร :  ร้านอาหาร 

จากข่าวคราวของการเปิดตัวร้านอาหารแห่งใหม่ใน ซ.หลังสวน เมื่อกลางปี 2566 ที่ผ่านมา Inddee ก็นับเป็นร้านที่น่าจับตามองไม่น้อย ตั้งแต่คอนเซปต์ของอาหารที่การออกแบบร้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะกับซุ้มประตูโค้งที่ต้อนรับอย่างตระการตาตั้งแต่หน้าร้าน

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

Inddee นำเสนอเมนูอาหารอินเดียในรูปแบบไฟน์ไดนิ่ง ซึ่งทุกการรังสรรค์ในแต่ละเมนูในพื้นที่ครัวเปิดทั้ง 2 จุด เป็นคล้ายดั่งโชว์ให้ผู้มาเยือนได้นั่งชมการปรุงอาหารและประดับประดาแต่ละจานอย่างละเมียดละไมในทุกขั้นตอน

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

ภายใต้การนำทีมของเชฟ Sachin Poojary ผู้มีประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นมาก่อน จึงไม่แปลกที่เขาจะหยิบจับแนวคิดการปรุงอาหารแบบญี่ปุ่นเข้ามาผสมผสานในเมนูคอร์สเหล่านี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทุก ๆ จานก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ตามแบบฉบับอาหารอินเดีย เริ่มต้นด้วย Supplement Courses ที่อยู่นอกเหนือจากคอร์สเมนูหลัก ซึ่งได้แก่ Oyster หอยนางรมสดราดด้วยซอสสีชมพูที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Sol Kadhi เครื่องดื่มจากฝั่งตะวันตกของอินเดียที่มีส่วนผสมมาจากผลโคคัม (Kokum) ที่ได้ชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟรุ๊ตในแถบเอเชีย ท็อปด้วยโคคัมคาร์เวียร์ ผงกะหรี่ ผักดอง และดอกผักชี สร้างความสดชื่นเพื่อเริ่มต้นมื้ออาหารได้ดีทีเดียว

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

สำหรับคอร์สเมนูนั้นเริ่มต้นด้วย Bites Into Inddee จำนวน 4 คำ ประกอบไปด้วย Xec Xec เครื่องเทศดั้งเดิมจากรัฐกัว ที่นอกจากจะใส่ทั้งยี่หร่า พริกไทย เมล็ดผักชี กานพลู ขิง และพริกแล้ว ยังมีมะพร้าวและมะขามผสมอยู่จึงเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไม่น้อย จับคู่มากับครีมเฟรชในทาร์ตบัควีท โดยผงเครื่องเทศที่ประดับจานมาข้าง ๆ กันนั้นสามารถใช้นิ้วแตะ ๆ กินได้ด้วย รับรองว่าจานจะได้สัมผัสกับรสชาติของเครื่องเทศอย่างเต็มที่แน่นอน

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

คำต่อมาคือ Khari Chai ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการกินชาของคนอินเดียในมุมไบ Khari นั้นเป็นพัฟฟ์เพสตรี ที่มักมาในทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า แต่ว่าที่นี่นำมาปรับเป็นพัฟฟ์ทรงกรวย สอดไส้เนื้อแพะสับ ข้าง ๆ กันนั้นเป็นซุปเนื้อแกะให้ซด ประหนึ่งว่ากินพัฟฟ์กับชาเลยทีเดียว

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

คำที่ 3 ชื่อว่า Mirch Salan ที่นำอาหารท้องถิ่นจากนครไฮเดอราบาดทางตอนใต้ของอินเดียมาประยุกต์ ซึ่งดั้งเดิมนั้นเป็นน้ำเกรวี่ที่ใส่พริกหวานสเปนและถั่ว มีรสชาติเผ็ดร้อน นิยมกินกับข้าวหมกบริยานี แต่ที่นี่นำมาแปลงโฉมใหม่จนกลายเป็นพริกสีเขียว สอดไส้ด้วยส่วนผสมของเกรวี่แบบดั้งเดิมแต่กัดกินได้ในคำเดียว

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

ส่วนคำสุดท้ายในส่วนของกินเล่นนั้นคือ Chaat อาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศอินเดีย มีส่วนผสมของรสเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด คล้ายกับการกินยำ Chaat ในเวอร์ชั่นของ Inddee นั้นประกอบไปด้วย ส้มโอ มะเขือเทศจากเชียงใหม่ มะม่วง ขนุน และมะระทอดกรอบ ได้สัมผัสที่หลากหลายในคำเดียว

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

สำหรับคอร์สแรก Morel เชฟพาเดินทางไปยังดินแดนเหนือสุดของอินเดีย ฤดูใบไม้ผลิในแคชเมียร์ หิมะค่อย ๆ ละลาย ในเวลานั้นเองนับเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการออกตามหา ‘เห็ดมอเรล’ หนึ่งในสายพันธุ์เห็ดที่ดีที่สุดในโลก นับว่าเอาใจคนชอบกินเห็ดไม่น้อย เพราะตรงฐานนั้นเชฟก็แทนข้าวพิลาฟด้วยเห็ดเข็มทองปรุงกับหญ้าฝรั่นสีเหลืองอร่าม ส่วนด้านบนนั้นเป็นเห็ดมอเรลยัดไส้ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นของแคชเมียร์หลาย ๆ อย่าง เช่น Khoya หรือไขมันนม แอปริคอท พิสตาชิโอ ท็อปด้วยโฟมอัลมอนด์

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

คอร์สต่อมา Scallop เป็นการนำวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองเทศกาลโอนัมในช่วงปลายฤดูมรสุมของผู้คนในรัฐเกรละทางภาคใต้มาประยุกต์ใช้ ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ การรองอาหารหลาย ๆ อย่างไว้ด้วยใบตอง และที่ขาดไม่ได้คือชัทนีย์หรือแยมที่ทำจากมะขามและขิง รู้จักกันในชื่อว่า Inji Pulli ซึ่งเป็นตัวเอกหลักของจานนี้ที่เชฟเลือกจับคู่มากับหอยเชลล์จากฮอกไกโดหมักสาหร่ายทะเล พร้อมด้วยองค์ประกอบอื่น ๆ ได้แก่ เกลือมะพร้าว ข้าวพอง ใบกะหรี่เคลือบน้ำตาลโตนด และมัสตาร์ด

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

จานต่อมา Cod มุ่งหน้าสู่ฝั่งตะวันออกในโกลกาตา รัฐเบงกอล กับการหยิบวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงที่สุดของแถบนี้ ได้แก่ Gondhoraj Lemon มะนาวที่มีกลิ่นหอมมากจนได้รับการยกย่องให้เป็น King of Aromas มาจับคู่กับ Queen of Pickles อย่าง Kasundi มัสตาร์ดที่มากด้วยกฎเกณฑ์และความพิถีพิถันในการผลิต นำมาหมักปลาค็อดดำจากอลาสกาแล้วย่างเตาถ่าน ได้เนื้อปลาฉ่ำนุ่มพร้อมด้วยกลิ่นเครื่องเทศอย่างชัดเจน ข้าง ๆ กันนั้นมีขิงดองแบบญี่ปุ่นมาช่วยตัดเลี่ยนด้วย

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

แทรกระหว่างคอร์สหลักด้วย Chicken จากเมนู Supplement Courses ไก่ย่างถ่านที่เชฟนำเมนู Malai Chicken Tikka และ Kali Mirch Chicken Tikka หรือไก่ย่างพริกไทยดำมารวมกัน ออกมาเป็นไก่ที่มีเนื้อนุ่มมาก แต่หนังกรอบ ราดด้วยซอสทับทิมและบาร์เบอร์รี่อิหร่าน

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

กลับเข้ามาในคอร์สหลักของร้านอีกครั้งกับ Quail นกกระทาฝรั่งเศสย่างเตาถ่าน เคลือบด้วยเครื่องเทศ Saoji Masala แบบดั้งเดิมของเมืองนาคปุระหรือนักปูร์ ที่ว่ากันว่ามีความเผ็ดร้อนที่สุดในอินเดีย นอกจากนั้นนาคปุระยังมีชื่อเสียงในนามของเมืองแห่งส้ม จานนี้เลยเป็นการรวมของดีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวทั้งเครื่องเทศและซอสส้ม

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

จานคาวสุดท้าย Chicken จะเป็นการเดินทางสู่พระราชวังอินเดียโบราณ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูคูร์ชาน (Khurchan) ในภาษาฮินดีนั้นหมายถึงการขูด เพราะประวัติศาสตร์ของอาหารจานนี้ มาจากคนครัวในพระราชวัง ที่มักจะขูดอาหารจากก้นหม้อมาปรุงต่อ และเพื่อสร้างความสมดุลให้กับรสชาติสุดเข้มข้นนี้ เชฟได้จับเอาคูร์ชานไก่มาผสมผสานกับสาลี่และครีมฟีนูกรีกหรือลูกชัดซึ่งปาดมาข้าง ๆ ภาชนะ คล้ายกับการขูดก้นหม้อ กินคู่กับแป้งนานอุ่น ๆ จากเตาทันดูร์

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

สำหรับของหวานจานแรก มานำเสนอมาอย่างอลังการทั้งภาพและกลิ่นหอมดอกกุหลาบตลบอบอวล ซึ่งเชฟได้นำเมนูหวานเย็นสีชมพูชื่อว่า Falooda สตรีทฟู้ดที่ได้อิทธิพลโดยตรงมาจากเปอร์เซีย ซึ่งมีวัตถุดิบหลัก ๆ คือ น้ำเชื่อมดอกกุหลาบ วุ้นเส้น และนม มาพลิกแพลงเป็นโยเกิร์ตอบ เม็ดแมงลัก และโรยด้วยกลีบกุหลาบบิชอปออร์แกนิกจากเชียงใหม่

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

ของหวานจานสุดท้าย Chocolate เป็นการนำของดีจากอินเดียมารวมไว้ในหนึ่งเดียว ด้านล่างสุดเป็นกาแฟจากจิกมากาลูร์ (Chikkamagalur) ท็อปด้วยช็อกโกแลต 65% จากปุฑุเจรี (Pondicherry) และกินคู่กับไอศกรีมวานิลลาจากอิดุกกิ (Idukki) ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นศูนย์สูตรเดียวกับมาร์ดากัสการ์ จึงสามารถผลิตวานิลลามาตรฐานเดียวกันได้ ได้ความหวานละมุนกลมกล่อมสอดแทรกความขมเล็กน้อยอย่างลงตัว

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย Petit Fours ของหวานขนาดกระทัดรัด ที่เริ่มต้นการเดินทางจากรัฐกัวด้วย Goan Perad ผิวฝรั่งสีชมพูกับมาร์ชเมลโลว์เนยกี ห่อด้วยเจลฝรั่งกับเกรปฟรุต ท็อปด้วยเม็ดพริกไทยดำ อีกคำคือ Mukhwas ซึ่งหมายถึง ที่ล้างปาก โดยแบบฉบับของ Inddee นี้จะเป็น Mukhwas ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Gianduiotto ช็อกโกแลตถั่วสไตล์อิตาเลียน เลือกใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์แทนฮาเซลนัท ผสมไปกับยี่หร่า กุหลาบ หมาก และเปปเปอร์มินต์ เป็นการล้างปากจริง ๆ สมชื่อ

Inddee (หลังสวน) อาหารไฟน์ไดนิ่งที่หยิบจับแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายมุมในอินเดีย

68/1 ซ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

06-2812-9696

17.30-23.30 น.

3,200 บาท ++ ต่อคน

มีที่จอดรถ

view google map


Tag: ร้านอาหารอินเดีย, หลังสวน, อาหารอินเดีย, ไฟน์ไดนิง

เรื่องโดย

คะแนนและรีวิว


0.0 จาก 5

ให้คะแนนและเขียนรีวิว

ยังไม่มีรีวิว

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed