กระแสการกินอาหารจากพืช หรือ Plant-based กำลังอยุ่ในกระแสความนิยมจากทั่วทุกมุมโลก เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร ที่เราได้เห็นร้านอาหารและคาเฟ่ที่นำเสนออาหารจากพืชหน้าใหม่เกินขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่ง Kynd Kulture คาเฟ่ภายในคอมมูนิตี้ EKM6 ภายในซอยเอกมัย 6 ก็เป็นหนึ่งในคาเฟ่เปิดใหม่ที่หันมาจริงจังกับการกินอาหารจากพืชและการกินเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ
Kynd Kulture ต้อนรับด้วยบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ ด้วยการหยิบสีเอิร์ธโทนเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักภายในร้าน และเมื่อทอดสายตาทะลุบานกระจกใสออกไปก็จะเห็นสนามหญ้าสีเขียวสบายตา และที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือการประดับประดาฝาผนังด้านหนึ่งของร้านด้วยกระเบื้องหลากสี เรียงสลับซับซ้อนกันเหมือนเป็นงานศิลปะขนาดยักษ์ชิ้นหนึ่ง
ชื่อร้าน Kynd Kulture เป็นการพลิกแพลงและผสมผสานระหว่างคำว่า Kindness และ Culture เข้าด้วยกัน นำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มผ่านคำว่า Kynd ซึ่งจะเป็นรูปแบบของอาหารจากพืชที่กินง่าย รสชาติดี และอัดแน่นไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่วนอาหารในส่วนของ Kulture นั้น เป็นการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ในจานอาหารด้วยวัตถุดิบหมักดอง แหล่งรวมโพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
Krazy Spicy Caviar คือหนึ่งในตัวอย่างของเมนูแนว Kynd มาในแบบฉบับของพาสตาที่ให้รสชาติเผ็ดร้อนจากน้ำมันพริก กินแล้วคล้าย ๆ กับพริกเผาบ้านเรา สอดแทรกด้วยกลิ่นของของใบโหระพา และยังได้ความหวานสดชื่นของมะเขือเทศ ด้านบนท็อปด้วยชีสเม็ดมะม่วงหิมพานต์และคาร์เวียร์วีแกน
ส่วนเมนูแนว Kulture นั้นมีทั้ง Youngblood toast อะโวคาโดโทสต์ที่เสริมวัตถุดิบเพิ่มโพรไบโอติกส์อย่างกิมจิเข้าไปได้อย่างกลมกลืน
Kulture Bowl ก็เป็นอีกเมนูที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ จากการผสมผสานอันหลากหลายในชามเดียว ทั้งเทมเป (ถั่วเหลืองหมักของอินโดนีเซีย) ฮุมมุส กิมจิ ฟักทอง ควินัว เห็ด และแตงกวา ซึ่งทางร้านได้นิยามเมนูนี้ไว้ว่า “Sexy และมีสารอาหารครบถ้วน”
อีกเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังเป็นเมนูใหม่ล่าสุดของร้านก็คือ Taco ที่ปรับนิดเปลี่ยนหน่อยจนได้ทาโก้ที่สายสุขภาพจะต้องประทับใจ ด้วยแผ่นแป้งทาโก้ปราศจากกลูเตน มาพร้อมกับ 3 รสชาติคือ เต้าหู้โกชูจัง ขนุนบูลโกกิ และกิมจิเห็ดเข็มทองน้ำมันพริก ที่ให้รสชาติครบเครื่องจนลืมไปเลยว่ามีแต่ผัก
เมนูขนมหวานของร้านก็จัดเต็มมาในจานใหญ่ไม่แพ้ของคาว เรียกได้ว่าอิ่มท้องพอ ๆ กัน ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ Bircher Pancake แพนเค้กทำจากข้าวโอ๊ต จับคู่มากับไอศกรีมคาเคาซอร์เบต์ ซึ่งเหมาะมากที่จะตัดรสชาติด้วยผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ ส้ม กี่วี และแอปเปิ้ล ที่จัดเต็มมารอบจาน
เมนูเครื่องดื่มของ Kynd Kulture ก็คงคอนเซปต์ที่ดีต่อสุขภาพและเป็นเครื่องดื่ม Plant-based เช่นกัน ต้องบอลเลยว่าบางเมนูก็แปลกใหม่ไม่เหมือนใครสุด ๆ อย่างเช่น Melemele ซึ่งมีส่วนประกอบของผลไม้เมืองร้อน และเทมเป้ (ถั่วเหลืองหมักของอินโดนีเซีย) อยู่ในนั้นด้วย จึงออกมาเป็นเครื่องดื่มที่มีทั้งความมันกลมกล่อม ผสมผสานไปกับความเปรี้ยวสดชื่นจากผลไม้
หรือถ้ามองหาเครื่องดื่มที่เติมเต็มความสดชื่นได้เต็มพิกัด Jalapeño Fizzy นับเป็นแก้วที่น่าสนใจเพราะนอกจากจะมีความซาบซ่าในตัวแล้ว เมื่อจิบเข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงความเผ็ดร้อนเล็กน้อยจากพริกฆาลาเปญโญดองแถมมาด้วย
สำหรับเมนูคาเฟอีนเติมพลังงาน ที่นี่ก็มี Cocopresso Black หรือกาแฟอเมริกาโนผสมน้ำมะพร้าวเผาและน้ำช่อดอกมะพร้าว ทำให้มีความหอมหวาน ดื่มง่าย เข้ากับเมล็ดกาแฟเบลนด์ที่ให้เทสต์โน๊ตแนวช็อกโกแลต ถั่ว และคาราเมล ส่วนอีกแก้วคือ Midori Chan : Dirty Matcha มัทฉะเดอร์ตี้ที่จับคู่กับนมจากพืชสุดเข้มข้นสูตรลับเฉพาะของร้าน ซึ่งพิเศษกว่านมทั่วไปด้วยกลิ่นหอมวานิลลาจากฝักวานิลลาแท้
นอกจากคาเฟ่ Kynd Kulture แล้ว ภายในโครงการ EKM6 ยังมีส่วนของร้านชำชื่อว่า Plenti ที่รวบรวมสินค้า Plant-based หลากหลายชนิดมาให้เลือกซื้อด้วย เรียกได้ว่าเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนกินพืชอย่างแท้จริง!
26 ซ.เอกมัย 6 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
อาทิตย์-พุธ 8.00-18.00 น. และพฤหัสบดี-เสาร์ 8.00-20.00 น.
Tag:
Plant-Based, คาเฟ่, วีแกน, อาหารเพื่อสุขภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น