แบกะดินร้านล่าสุดของเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจรและเพื่อนๆต่อจาก Le Du, Taper และ Baanนำอาหารไทยข้างทางมาปรับโฉมเสียใหม่ให้ดูโมเดิร์นขึ้น บางจานทวิสต์ให้ทันสมัย บางจานเอาแค่อินสปายมา รวมถึงการนำเทคนิคสมัยใหม่มาสร้างสีสันให้อาหารข้างทางดูสนุกแต่มีความเป็นไทยผสมอยู่ นอกจากนั้นเชฟต้นยังได้ดึงเชฟแชนด์เลอร์ชุปป์ (Chandler Schultz) เชฟลูกครึ่งอเมริกัน-เยอรมัน มาร่วมปรับโฉมให้อาหารไทยข้างทางออกมาได้น่าสนใจทีเดียว
G&C ขอบอกว่าแบกะดินค่อนข้างให้ความสำคัญกับการออกแบบพอสมควร “ไก่ชนและปลากัด” กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อความเป็นถนน โหลปลากัดและเล้าไก่ถูกนำมาใช้ตกแต่ง ตลอดจนกลายเป็นโลโก้ร้านและนามบัตรที่ดีไซน์คล้ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่เฉพาะอาหารไทยข้างทางที่ดูแปลกตา ค็อกเทลกลิ่นอายไทยๆ ก็ช่วยเสริมรสชาติอาหารได้ดี เชฟแชนด์เลอร์ช่วยจับคู่อาหารและค็อกเทลให้เรา ขอบอกว่าจัดจ้านทั้งอาหารและค็อกเทล
เริ่มที่ยำมะเขือยาว มะเขือเผา ไข่แดงเค็มลวกน้ำ และปลาดุกฟู จับคู่กับ Sawasdee 31 ที่มีกลิ่นหอมไหม้ๆ ของวิสกี้ เข้ากับมะเขือเผา ส่วนเชอร์รีเชื่อมอมารีน่าก็รสเปรี้ยวหวานช่วยตัดรสอาหารได้ดี
จานต่อมา ลาบเป็ดเนื้อเป็ดรวนกับเนยและไขมันเป็ดปรุงรสแบบลาบ กินกับแครกเกอร์ข้าวเหนียวและผักดอง รสจัดมาก อาศัย Sparkling Night สปาร์กลิงไวน์กับเชอร์รีเชื่อมอมารีน่าช่วยลดความเผ็ดร้อน
จานนี้เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกไม่ถึง แต่เชฟแชนด์เลอร์กลับนำอาหารข้างทาง 2 อย่างมาผสมผสานกันออกมาได้เก๋ดี ยำมะม่วงใส่ข้าวโพดย่าง ลองนึกภาพรถเข็นข้าวโพดกับรถเข็นผลไม้ที่มักจะจอดคู่กัน มะม่วงดิบ ข้าวโพด และพริกกับเกลือ กินกับซอสใบมะกรูด เข้ากับ Chalong Bayรัมจากอ้อยผสมไซรัปโฮมเมดมะขามกับใบกะเพรา เชฟบอกว่ารสชาติของอ้อยกับข้าวโพดไปด้วยกันได้
และจานสุดท้าย หอยนางรมย่างกับสาโท หอยนางรมไทยตัวโตฉ่ำน้ำกับหัวหอมคารามาไลซ์และสาโทเจล คู่กับ Khaosarn Spiceใส่พริกไทยอ่อนเผาให้กลิ่นรสเข้ากับหอยนางรมอุ่นๆ
26 ซอยสุขุมวิท 31 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
18.00-23.00 น. (หยุดวันอังคาร)
150-2,800 บาท ค็อกเทล 200-370 บาท ไวน์ 240-33,000 บาท
Tag:
, ค็อกเทล, สตรีทฟู้ด, สปาร์คกิ้ง,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น