ย้ายจากโลเคชั่นเดิมมาอยู่ที่ The St. Regis Bangkok ได้สักพักแล้วสำหรับ “Sushi KiShin” โอมากาเสะขวัญใจสายฟู้ด ที่ครั้งนี้มาในบรรยากาศเรียบง่าย สงบและเป็นธรรมชาติสไตล์ Wabi-Sabi ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นฝีมือดี ตัวผนังทำจากทรายเนื้อละเอียด ทาด้วยสีที่สกัดจากลูกพลับ เข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์สีเอิร์ทโทนที่ครีเอทจากเส้นใยสับปะรด ตอกย้ำแนวคิดวาบิ-ซาบิ ฉบับญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
พร้อมให้คุณลิ้มลองจานอร่อยฝีมือ เชฟซาโตชิ ทีซูรุเช่นเคย เชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์ในวงการอาหารญี่ปุ่นมานานกว่า 14 ปี ซึ่งเคยทำงานเป็นดีเจและนักเต้นที่กรุงนิวยอร์ก ก่อนจะย้ายมาทำงานที่ร้านซูชิเลื่องชื่อในย่านกินซะ (Ginza) แห่งเมืองโตเกียว สำหรับชื่อร้าน ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า Ki (กิ) หมายถึง ปาฏิหาริย์หรือสิ่งมหัศจรรย์ รวมกับคำว่า Shin (ชิน) ที่แปลว่า สิ่งใหม่ๆ รวมแล้วจึงเป็น KiShin ‘ความมหัศจรรย์ใหม่ๆ’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตในกรุงเทพฯ ของเชฟซาโตชินั่นเอง
เริ่มต้นคอร์สกันที่จานเรียกน้ำย่อยสไตล์เย็น Shiro / Ebi Tuna / Zalma Karasumi กุ้งหวานสีขาวสัญชาติญี่ปุ่นสับละเอียด เสิร์ฟเคียงเนื้อทูน่า 2 ส่วน ได้แก่ อะทะมิ (เนื้อส่วนกลางลำตัวไม่มีไขมัน) และชูโทโร่ (เนื้อส่วนใกล้ครีบ) ไข่ปลากระบอกสีเหลือง และข้าวพองโฮมเมดกรุบกรอบ ท็อปด้วยคาเวียร์รสเค็มกลมกล่อมเลอค่า
ตามด้วย Ankimo Nimono ตับปลามังค์ฟิช ที่ได้สมญานามบนจานอาหารว่า ‘ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล’ ต้มโชยุสูตรลับเฉพาะของทางร้าน ทำให้ได้รสเค็มหวานกลมกล่อม เสิร์ฟคู่วาซาบิสดรสเผ็ดซ่า
Hotate / Kuruma Ebi Sunomono หอยเชลล์โฮตาเตะตัวอวบอ้วนเนื้อสด บวกกับกุ้งลายเสือจากดินแดนอาทิตย์อุทัยเนื้อหวาน ราดซอสสูตรลับของเชฟที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานสดชื่น โรยหน้าด้วยกลีบดอกไม้หอมกรุ่น
มาอุ่นท้องกับซุปร้อนๆ กันบ้าง Amadai Ankage Fukahire ปลากระพงเกล็ดอ่อนทอดอย่างดีจนได้เนื้อฉ่ำใน แต่ผิวนอกกรอบน่าชิม เข้ากันกับซุปหูฉลามร้อนๆ รสนุ่มนวล
Kyoho ล้างปากสักหน่อย น้ำองุ่นเคียวโฮรสหวานฉ่ำ มาพร้อมองุ่นเคียวโฮลูกโตๆ เนื้อสัมผัสดี พร้อมให้เราไปต่อกันกับนิกิริซูชิได้อย่างต่อเนื่อง
ว่าแล้วก็ประเดิมด้วย Kinmedai คินเมะได (ปลากะพงแดงตาโต) ราชาแห่งท้องทะเลน้ำลึก เนื้อสีขาวให้สัมผัสนุ่มนวล มีรสหวานเล็กน้อย คำนี้ฟินสมที่รอคอยจริงๆ
ต่อกันกับ Nodoguro Unidon ข้าวญี่ปุ่นหุงด้วยน้ำส้มสายชูอย่างดี คลุกเคล้ากับอูนิพรีเมี่ยมเกรดประมูล ให้รสเค็มนุ่มนวล กินกับพระเอกของจานอย่าง โนโดกุโระ (ปลากะพงสีชมพู) ที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ราชาแห่งปลาเนื้อขาวที่สายฟู้ดควรลิ้มลองสักครั้ง โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มเนียน มีความหวานเล็กน้อย เต็มไปด้วยไขมันดี
Chutoro เนื้อส่วนท้องกลางลำตัวใกล้กับครีบ หรือท้องส่วนหลังของมากุโระ ให้สีชมพูเข้มสวยน่าลิ้มลอง เนื้อแน่นนิดๆ เด้งหน่อยๆ ผสานความนุ่มของไขมัน ทาโชยุโฮมเมดรสชาติดี
Kamasu โรลพรีเมี่ยมที่เชฟนำตัวข้าวไปคลุกเคล้ากับงาสามสี และเมียวงะ (ดอกขิงญี่ปุ่น) รสเผ็ดร้อนแรง ด้านบนเป็นคามาสึ (ปลาน้ำดอกไม้) เนื้อหวานแถมยังมีไขมันน้อย ก่อนเสิร์ฟเชฟจะเบิร์นด้วยถ่านยูคาลิปตัส ส่งกลิ่นหอม
คำสุดท้ายเป็น Uni ซูชิปั้นสดหน้าอูนิที่สายฟู้ดรอคอย ไข่หอยเม่นหนามสั้นเกรดประมูล ทาด้วยซอสโชยุโฮมเมดรสหวานเค็ม
ปิดท้ายด้วยของหวานก็สมบูรณ์
159 ถ. ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
17.00 -23.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Tag:
เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ, โอมากาเสะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น