ลิ้มรสความเป็นไทยสุดพรีเมียมมาพร้อมรสชาติที่ขับเน้นเพื่อคนไทย Nawa Thai Cuisine (นว) ร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิงแห่งใหม่ของ เชฟโจ-ณพล จันทรเกตุ และ เชฟซากิ โฮชิโน (Executive Chef) จากร้านสามล้อ จับมือกับ เชฟเซ็ฟ-จิรพัทธ์ ประพจนาภณ์ (Head Chef) ร้านอั้งโล่ บาย ย่างแรก ที่มาร่วมสร้างความประทับใจด้วยชุดสำรับไทยไฟน์ไดนิง เสน่ห์ของความหลากหลายแห่งรสชาติแบบไทยๆ ที่สามารถแพริงกันได้อย่างลงตัว
Nawa (นะ-วะ) หมายถึง ‘ความใหม่’ ที่เชฟต้องการนำเสนออาหารไทยภาคกลางในยุคปัจจุบันให้มีหน้าตาที่ทันสมัยในสไตล์นว โดยแต่ละจานได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารทั่วภูมิภาคของไทย รังสรรค์ด้วยเทคนิคแนวใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติแบบไทยแท้ๆ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตามคอนเซ็ปต์ "Preserving Thai Taste x Modern Techniques" เมนูอาหารของนวจึงเลือกเสิร์ฟเป็น 16 Tasting Menu และจะปรับเปลี่ยนทุก 4 เดือน เพื่อหยอกล้อไปกับวัตถุดิบใหม่ๆ ตามฤดูกาลนั้น
ส่วนบรรยากาศภายในร้านแน่นอนว่าต้องสื่อถึงความเป็นไทยแต่ออกแบบให้โมเดิร์นขึ้น โดยเฉพาะกำแพงที่ได้ไอเดียมาจากฐานของเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทยที่เราคุ้นเคยกันดีถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในแนวตั้ง ใช้โทนสีอิฐมอญแล้วเพิ่มความน่าสนใจให้ผนังห้องด้วยไฟสีส้มสลัวตัวแทนแสงอาทิตย์อัสดง ทำให้เกิดมิติของแสงและเงา เสริมลูกเล่นด้วยแสงหิ่งห้อยนับร้อยติดบนเพดาน และครัวเปิดเพื่อให้ผู้มาเยือนได้ดูการแสดงบรรเลงอาหารจานเด็ดในค่ำคืนนี้
ได้เวลาเสิร์ฟสำรับแรกกับสแน็ก 3 คำ เริ่มต้นที่ Ma-Hor ม้าฮ่อเป็นเมนูที่จะบ่งบอกฤดูกาลของร้าน วันนี้เป็นลิ้นจี่ผลไม้ประจำฤดูร้อน ให้รสหวานหอมมีหลากเท็กซ์เจอร์ในคำเดียว ต่อด้วย Beef Tartare ลาบเนื้อดิบเสิร์ฟบนขนมรังผึ้งที่ทำจากกะทิ ด้านในเป็นเห็ดพื้นบ้านหลากชนิดผัดกับพริกลาบเหนือ ท็อปด้วยคาเวียร์สโมกกับไม้ลำไย ได้รสหวานเค็ม มีความหอมมัน และเผ็ดปลายเล็กน้อย คำสุดท้าย Phetchaburi's Oyster พล่าหอยนางรมเพชรบุรีราดน้ำลิ้นจี่ป่า ท็อปด้วยชะคราม ผักเบี้ย และสาหร่ายพวงองุ่น มีรสเปรี้ยวเผ็ดจากน้ำยำสุดแซ่บ
มาถึงอาหารจานหลักเป็น Duck Skewer & Gor Lae เชฟนำอกเป็ดไปสโมกกับข้าวอังคัก และส่วนขาเชฟทำเป็นสึกุเนะ ปรุงรสชาติคล้ายเป็ดย่างกอและ รสเค็มๆ มันๆ กินกับ ข้าวหอมมะลิหุงหัวกะทิ หอมหวานละมุน เสริมรสชาติด้วย Scallop & clam relish หอยดองปรุง เครื่องจิ้มรสจัดจ้าน มีสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ ใบมะกูด และมะม่วง ท็อปมาบนตัวหอยเชลล์จากฮอกไกโดหมักน้ำปลา หากรู้สึกเผ็ดเกินไปแนะนำให้กินผักแนมเคียงคู่ไปด้วย
อีกหนึ่งเมนูพลาดไม่ได้ Flower yum ยำดอกไม้กับปลาหมึก เชฟนำเนื้อปลาหมึกไปสับแล้วคลุกกับน้ำพริกเผา ก่อนยัดกลับเข้าไปในมูสปลาหมึกที่ปั่นรวมกับไข่ขาว แล้วจัดทรงให้กลับมาเป็นปลาหมึกเหมือนเดิม ราดด้วยน้ำยำรสเปรี้ยวหวาน หอมกลิ่นสมุนไพร จากนั้นโรยด้วยดอกไม้ออร์แกนิกจากเกษตรกรพื้นบ้าน ที่แช่ในไนโตรเจนเหลว (Liquid Nitrogen) สีสันสวยงามชวนกินไม่น้อย
ปิดมื้อนี้ด้วยขนมหวานที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Khanom Jak โดยล่างสุดเป็นมาร์ชแมลโลว์ข้าวคั่ว กินคู่ไอศกรีมกะทิอินฟิวส์กับใบตองย่าง ได้รสหวานละมุนของน้ำตาลจาก หอมกลิ่นใบตองชัดเจน มีข้าวเม่าช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบ ด้านบนเป็นทองม้วนรสเค็มนิดๆ จากโคจิ หรือเชื้อราดีที่ร้านเลี้ยงเอง เมื่อกินรวมกันทุกองค์ประกอบจะได้กลิ่นและรสชาติของขนมจากเต็มคำ
ตราตรึงใจกับทุกเมนูที่ร้อยเรียงมาเลย
ชั้น 1 ในโครงการ Parklane Ekkamai (สุขุมวิท 61) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
สำรองที่นั่งโทร. 084 296 2442
เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00 – 22.30 น. (หยุดวันอังคาร)
ราคา 3500-4500 รับบัตรเครดิต (ยกเว้น Amex)
Tag:
ร้านอาหารสุขุมวิท, อาหารไทย, ไฟน์ไดนิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น