เบื้องหลังกำแพงทึบในซอยพหลโยธิน 34 เพียงแค่ก้าวข้ามผ่านประตูไปก็เหมือนได้พบกับอีกโลกหนึ่งที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสีเขียวของร่มไม้นานาชนิด รายล้อมอยู่รอบ ๆ สระน้ำที่ร้านเริน (Rern) ตั้งใจจำลองมาจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดกระบี่
‘เริน’ ในภาษาใต้นั้นหมายถึง ‘บ้าน’ เพราะฉะนั้นในทุกรายละเอียดจึงสอดแทรกไปด้วยความอบอุ่นเหมือนกินข้าวบ้านที่ทุก ๆ จานล้วนปรุงด้วยรสมือของคนคุ้นเคย แล้วนำเสนอออกมาในแบบฉบับ Fine-Dining ที่สร้างความประทับใจได้ตั้งแต่สายตาไปจนถึงปลายลิ้น
เชฟบอส-ธนชล เลาวพงษ์ คือหัวเรือใหญ่ในการรังสรรค์เมนูอาหารใต้ในรูปแบบใหม่นี้ ด้วยการลงพื้นที่จริงและเข้าไปคลุกคลีกับคนท้องถิ่น เพื่อถ่ายทอดรสชาติ วัตถุดิบ และวัฒนธรรมของอาหารใต้ในหลากหลายจังหวัดอย่างถึงแก่น โดยคอร์สเมนูจะสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละฤดูกาลเพื่อบอกเล่าเอกลักษณ์อาหารใต้แต่ละพื้นที่อย่างครบถ้วน
ปฐมบทของเรินเพิ่งจะเริ่มต้นได้ไม่นานแต่พกพาเอาความน่าสนใจมาเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะ 3 เมนูโดดเด่นในเมนูคอร์สของร้าน ได้แก่ กรรเชียงปูม้า ในหลนปูไข่ จำลองภาพของสระมรกต จังหวัดกระบี่มาเป็นแรงบันดาลใจ แต่เปลี่ยนจากสระน้ำสีฟ้าให้หลายเป็นเนื้อหลนปูไข่สีขาวนวล แต่งแต้มสีสันด้วยน้ำมันพริกขี้หนูเขียว ตัดเลี่ยนด้วยไหลบัวดองและใบแว่นแก้วเสมือนดอกบัวและใบบัวในสระน้ำ มาพร้อมก้ามปูคัดสรรอย่างดีจากทะเลชุมพรและสุราษฎร์ธานี (ตามฤดูกาล)
จานต่อมาคือ หมึกหอมผัดน้ำดำ สูตรของชาวบ้านในหมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ทางร้านเลือกชูความสดใหม่ของหมึกหอมที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดด้วยน้ำทะเลฆ่าเชื้อก่อนแช่เย็นส่งตรงมาถึงกรุงเทพฯ และด้วยความใหญ่ไซส์ตัวละ 1 กิโลกรัม ทำให้หมึกมีเนื้อหนา เด้ง และหนึบ เคี้ยวสนุก ส่วนดีหมึกที่อยู่ในตัวนั้นนำมาทำเป็นซอสผัดที่ผสานไปด้วยรสชาติสมุนไพรจากพริกไทยขาว รากผักชี กระเทียม หอมแดง ขิงอ่อน ตะไคร้ และใบมะกรูดอ่อน
อีกจานที่นับเป็นตัวชูโรงก็คือ แกงส้มขาหมูออร์แกนิกหน่อไม้ดอง ที่แปลงโฉมเมนูแกงแบบเดิมไปจนหมด จากน้ำแกงสีเหลืองส้มก็กลายเป็นน้ำแกงใสแจ๋วแต่ยังคงรสชาติน้ำแกงที่เผ็ดร้อน ได้ความเปรี้ยวจากมะอึก ส้มแขก และสับปะรด ใส่หน่อไม้ดองสูตรพิเศษที่ดองด้วยน้ำซาวข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นข้าว GI จากจังหวัดพัทลุง ส่วนขาหมูนั้นเลือกใช้ส่วนต้นขาได้ทั้งเนื้อ หนัง และไขกระดูก นำไปเผาถ่านให้หนังด้านนอกมีกลิ่นควันหอม ๆ เข้ามาเพิ่มอรรถรสให้กับน้ำแกงด้วย
“ขอเชิญเข้าเริน” ที่เป็นได้ทั้งเชิญเข้าบ้านและเชิญเข้าร้านเรินมาลิ้มลองอาหารใต้ในรูปแบบของไฟน์ไดนิ่ง แม้จะหน้าตาต่างไปจากต้นตำรับ และรสชาตินั้นหรอยแรงไม่แพ้กันอย่างแน่นอน
151/25 ซ.พหลโยธิน 34 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
17.00-23.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
Tag:
ร้านอาหารใต้, อาหารใต้, ไฟน์ ไดน์นิ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น