ร้านซูชิ ไซโตะ (Sushi Saito) ร้านซูชิระดับมิชลิน 3 ดาวจากญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อว่าจองยากมาก ได้ลดดีกรีความยากลงหน่อยแล้วเพราะทางร้านได้นำพาความอร่อยแบบต้นตำรับมาถึงถิ่นนักกินชาวไทยที่ โรงแรม โฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Bangkok) ย่านเจริญกรุงนี่เอง ร้านซูชิ ไซโตะ ประเทศไทย (Sushi Saito Thailand) ดูแลโดยเชฟมารุยามะ ผู้ซึ่งเคยทำงานที่ซูชิ ไซโตะ สาขาต้นตำรับที่โตเกียวและยังเคยดูแลสาขามาเลเซียมาก่อนจะมาประจำที่สาขาประเทศไทยแห่งนี้
ทางเข้าร้าน Sushi Saito Thailand ต้องเข้าจากฝั่งทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อผ่านประตูสไตล์ญี่ปุ่นเข้าไปจะพบห้องโถงใหญ่ที่มีบาร์เครื่องดื่มไว้คอยต้อนรับ ทางร้านให้บริการเป็นรอบ ได้แก่ มื้อกลางวันเวลา 12:00น. และมื้อเย็นเวลา 18:00น. และ 20:00น. เมื่อถึงรอบประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นจะเปิดออกเผยให้เห็นเคาน์เตอร์ไม้ยาวขนาด 8 ที่นั่งและเชฟมารุยามะซึ่งกำลังเตรียมเมนูอาหารอย่างตั้งใจ
คอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นด้วยจานเรียกน้ำย่อยที่นำเสนอวัตถุดิบสดใหม่ที่คัดสรรมาจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน รอบที่เราได้ลิ้มลองจานแรกเป็น ปูขนญี่ปุ่น นึ่งเนื้อหวานละมุน ตามด้วย หมึกกล้วยญี่ปุ่น ไข่เต็มท้องตุ๋นจนนุ่ม กัดเบาๆ ก็ขาด และ หอยเชลล์ฮอกไกโด เนื้อสดหวานย่างจนผิวตึงห่อด้วยสาหร่ายกรอบๆ จิ้มพริกป่นญี่ปุ่นเพิ่มรสชาติ เคี้ยวเพลิน
จานเรียกน้ำย่อยยังไม่หมด เชฟเสิร์ฟ ตับปลาอังกิโมะ ราดซอสที่ทั้งหวานละมุนและนุ่มละลายในปาก ตามด้วย โนโดกุโระ ปลาคอดำหรือปลากะพงสีชมพู ที่มีไขมันชุ่มฉ่ำย่างจนผิวกรอบและเนื้อในระอุ เสิร์ฟกับไชเท้าฝนและโชยุ ครบทั้งต้ม ตุ๋น นึ่ง ย่าง ปูทางสู่คอร์สหลักที่เรารอคอย
คอร์สหลักเป็นซูชิสไตล์เอโดะมาเอะเน้นรสชาติที่สดใหม่ของวัตถุดิบจากท้องทะเล เริ่มด้วยปลาเนื้อขาวซึ่งมีรสอ่อนก่อนจะไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นไปในแต่ละคำ ฮิราเมะ คินเมะได และ โคะฮะดะ หรือปลาตะเพียนญี่ปุ่น เชฟมารุยะมะมีความพิถีพิถันในการรักษาอุณหภูมิอย่างมาก ข้าวอุ่นๆ และคำไม่ใหญ่ทำให้ได้รสชาติและสัมผัสที่ต่างกันของเนื้อปลาชัดเจน
จากนั้นจึงเป็นมากุโระ หรือปลาทูน่า ไล่ระดับตั้งแต่ อะกะมิ ส่วนเนื้อแดงที่ไม่มีไขมัน ชูโทโระ ส่วนท้องสีชมพูมีมันแทรก และโอโทโระ เนื้อท้องส่วนหน้าที่มันที่สุด เนื้อปลาให้สัมผัสเนียนละเอียดและไต่ระดับความนุ่มนวลจนมาถึงโอโทโระที่แทบจะละลายในปากเลยทีเดียว
จากนั้นเชฟกระชับรสสัมผัสด้วย สุมิอิกะ หรือหมึกกระดองเนื้อเด้งกรอบที่ชวนสดชื่น ตามด้วย คุรุมะเอบิ กุ้งลายเสือต้มเนื้อหวานนุ่มชุ่มฉ่ำ และ อะจิ มาเบรกความหวานก่อนเข้าสู่เมนูพิเศษ (หากต้องการเมนูนี้ต้องบวกราคาเพิ่มจากคอร์สปกติ สามารถแจ้งได้ตั้งแต่ขั้นตอนการจองร้าน)
เมนูพิเศษที่ว่าก็คือ อูนิ สายพันธุ์บาฟุนเกรดพิเศษเนื้อหวานนวลเนียนและฉ่ำอวลในปาก ปิดท้ายด้วย อะนะโกะ ปลาไหลทะเลย่างซอสเนื้อนุ่มฟู เสิร์ฟตอนที่กำลังอุ่นๆ พิถีพิถันในทุกคำจริงๆ
เข้าสู่ช่วงท้ายของคอร์สด้วย โทโระทะคุอัน ข้าวห่อสาหร่ายไส้โทโร่สับกับไชเท้าดองกรุบกรอบ เสิร์ฟกับซุปมิโสะรสกลมกล่อม ปิดท้ายด้วย ทะมะโกะยากิ หรือไข่หวานเนื้อเนียนคล้ายคัสตาร์ด และ ซอร์เบต์ส้มไดไดกับเจลลี รสเปรี้ยวหวานเป็นการล้างปากอย่างสดชื่น
เรียกว่าเป็นประสบการณ์กินซูชิที่ละเมียดละไมและเพลิดเพลินสมการรอคอยเลยล่ะ
โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ
02-060-1999 หรือ booking@sushisaitothailand.com
รอบบริการ 12:00, 18:00 และ 20:00 น.
มื้อกลางวัน เริ่มต้นที่ 5,800- (ไม่รวมอูนิ) มื้อค่ำ เริ่มต้นที่ 7,800- (ไม่รวมอูนิ)
Tag:
ซูชิ, เจริญกรุง, โอมากาเสะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น